คุก 5 ปี 5 เดือน 10 วัน อดีตหัวหน้า รปภ. ขืนใจลูกบ้าน

กทม. 31 มี.ค.-ศาลตัดสินจำคุก 10 ปี 10 เดือน 20 วัน “มนตรี” อดีตหัวหน้า รปภ.คอนโดฯ หื่น บุกข่มขืนลูกบ้าน สารภาพเหลือติดคุก 5 ปี 5 เดือน 10 วัน

ที่ศาลอาญาธนบุรี ถนนเอกชัย ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย คดีที่พนักงานอัยการคดีอาญาธนบุรี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายมนตรี หรือยักษ์ ใหญ่กระโทก อายุ 41 ปี อดีตหัวหน้า รปภ.แห่งหนึ่ง ย่านบางแค เป็นจำเลย ในความผิดฐาน ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายและโดยผู้นั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, บุกรุกในเวลากลางคืน, เสพยาติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย


โดยอัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 30 มี.ค. ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อคืนวันที่ 3-4 ม.ค.65 ต่อเนื่องกัน จำเลยได้เสพยาเสพติด แล้วบุกรุกเข้าไปในห้องของหญิงผู้เสียหาย อายุ 35 ปีในคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านบางแค และข่มขืนกระทำชำเราโดยใช้กำลังประทุษร้ายด้วยการล็อกตัว กับมีกุญแจมือและเทปกาว 1 ม้วนที่แสดงให้ผู้เสียหายดูจนเกิดความกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ทำให้ผู้เสียหายอยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เหตุเกิดที่แขวง-เขตบางแค กทม.แล้วหลบหนีไป ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญาธนบุรีที่ จ.5/2565 ลงวันที่ 5 ม.ค 2565 ติดตามจับกุมจำเลยมาดำเนินคดี

โดยศาลอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลยฟังแล้ว จำเลยให้การรับสารภาพโดยดี และรับว่าเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยคดีอาญาหมายเลขแดง 3637/2556 ของศาลจังหวัดสระแก้ว ที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษด้วย ศาลจึงมีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคหนึ่ง, 365 (1)(2) ประกอบมาตรา 364 และความผิด เกี่ยวกับยาเสพติด มาตรา 104, 162 การกระทำของจำเลย เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญาทมาตรา 91 ฐานข่มขืนกระทำชำเราและฐานบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายในเวลากลางคืน เป็นกรรมเดียว เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานข่มขืนกระทำชำเราซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 8 ปี ฐานเสพเมทแอมเฟตามีนจำคุก 2 เดือน โดยเพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 หนึ่งในสาม ฐานข่มขืนกระทำชำเราเป็นจำคุก 10 ปี 8 เดือน ฐานเสพเมทแอมเฟตามีนเป็นจำคุก 2 เดือน 20 วัน รวมจำคุก 10 ปี 10 เดือน 20 วัน


จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ฐานข่มขืนกระทำชำเราคงจำคุก 5 ปี 4 เดือน ฐานเสพเมทแอมเฟตามีนคงจําคุก 1 เดือน 10 วัน รวมจำคุกจำเลย 5 ปี 5 เดือน 10 วัน ริบของกลาง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”