ส่งมอบผลชันสูตร “แตงโม” รอบ 2 ให้ครอบครัว

กทม. 31 มี.ค.-คณะกรรมการผ่าพิสูจน์ร่าง “แตงโม” รอบ 2 ส่งมอบผลให้ครอบครัวแล้ว ทนายเดชา ระบุจะนำผลกลับไปหารือกับครอบครัวและตำรวจ ว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี เอาผิดกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องทำ “แตงโม” ตกเรือได้หรือไม่

เวลา 15.10 น. ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับ พันตำรวจเอก ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในฐานะประธานคณะกรรมการผ่าพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ นายแพทย์รักษชัย นาทองไชย หัวหน้ากลุ่มนิติพยาธิวิทยา สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ตัวแทนนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดา นางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ผู้เสียชีวิต แถลงผลการผ่าพิสูจน์ร่าง “แตงโม” รอบ 2


ว่าที่ ร้อยตรี ธนกฤต เปิดเผยว่า หลังก่อนหน้านี้ แม่แตงโม ร้องผ่านทนายความ ขอให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ดำเนินการตรวจพิสูจน์ร่างแตงโม รวม 11 จุด เพื่อคลายข้อสงสัยให้ครอบครัว และสังคม จากนั้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ได้รับร่างแตงโม จากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ มาทำการผ่าชันสูตรรอบ 2 ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว และจะส่งมอบต่อให้ แม่แตงโม ผ่านทนายความ ต่อไป

พันตำรวจเอก ทรงศักดิ์ ได้ชี้แจงว่า เรื่องนี้ประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก หลังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้รับเรื่องเมื่อวันที่ 14 มีนาคม วันรุ่งขึ้นได้มีการประชุมหารือกันวันที่ 16 ในการตั้งคณะทำงานขึ้นมา วันที่ 17 ผ่าพิสูจน์ใช้เวลา 4 วันในการดำเนินการ วันนี้เป็นวันที่ 31 มีนาคม ใช้เวลาผ่ารอบ 2 รวม 15 วัน ที่ล่าช้าเพราะต้องรอรายงานผลตรวจชิ้นเนื้อ เนื้อเยื่อจากห้องปฏิบัติการซึ่งในวันนี้รายงานผลทั้งหมดออกมาทั้งหมดแล้ว ซึ่งข้อสงสัยของแม่แตงโมรวมทั้ง 11 ข้อ ก็ได้มีการชันสูตรได้เกือบทั้งหมด แต่การผ่ารอบ 2 มีข้อจำกัดหลายประเด็น เช่น สภาพศพมีการเปลี่ยนแปลงหลังการตายไปตามกาลเวลา และจะทำการส่งข้อมูลให้กับแม่ของแตงโม ผ่านทางทนายความ เนื่องจากเป็นผู้ร้องขอให้มีการผ่าพิสูจน์รอบที่ 2 และจะสามารถชี้แจงผลให้สื่อมวลชนทราบได้แค่บางประเด็นเท่านั้น


ว่าที่ ร้อยตรี ธนกฤต กล่าวเพิ่มเติม ว่า 11 ข้อสงสัยของแม่แตงโม ได้หารือกับทนายเดชา ซึ่งจะสามารถชี้แจงได้เพียงบางประเด็น เช่น ศรีษะไม่พบบาดแผล ใบหน้าที่มีการเปลี่ยนแปลงจากการผ่าครั้งแรกเพราะเป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงหลังการตาย ลำคอของผู้ตายที่สวมสร้อยอยู่ พอเวลาผ่านไปก็เกิดอาการบวมของร่างกายพอผ่าพิสูจน์ก็ไม่พบว่ามีการถูกรัดคอแต่อย่างใด ส่วนผลอื่นๆ เช่นผลการตรวจอวัยวะเพศ นำสารคัดหลั่งไปตรวจ, หลอดลม, หน้าอกใต้คอ, เล็บ ได้ตรวจซ้ำ แต่เป็นรายละเอียดที่อยู่ในซอง ได้มอบให้ทนายแล้ว ส่วนเสื้อผ้าการตรวจรอบ 2 เสื้อผ้าที่แตงโมสวมใส่ ไม่ใช่ชุดเดียวกันกับที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวข้องกับการผ่าพิสูจน์ในครั้งนี้ นอกจากนี้ผ่าพิสูจน์รอบ 2 ยังมีการตรวจสอบเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกหลายอย่าง เพื่อให้คลายข้อสงสัย เช่น การทำซีทีสแกนโครงกระดูกก็พบว่าไม่มีรอยบิ่น หรือแตก ตรวจเพิ่มที่ฟันพบว่าครบถ้วนสมบูรณ์ และมีการตรวจพบบาดแผล 22 จุด ส่วนข้อสงสัยเรื่องบาดแผลที่ด้านในขาขวา จะเกิดจากของมีคมชนิดใด ไม่ใช่หน้าที่ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ในการจะต้องพิสูจน์ มองว่าเป็นเรื่องการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ต้องดำเนินการ

นายแพทย์วรวีร์ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยถึงบาดแผลที่ต้นขาขวาของคุณแตงโม ว่าบาดแผลดังกล่าวไม่สามารถตอบมาให้ชัดเจนได้ว่าบาดแผลที่ต้นขาขวานั้นเกิดขึ้นจากวัตถุอะไร ซึ่งพนักงานสอบสวนจะไปพิสูจน์หาบาดแผลดังกล่าวในการประกอบสำนวนคดี ขณะที่ในเรื่องการตรวจแอลกอฮอล์ที่มีข้อสงสัยว่าทำไมตรวจในคนที่ยังมีชีวิตอยู่กลับไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ แต่พอตรวจในคนเสียชีวิตกลับพบแอลกอฮอล์ในเลือดนั้น คุณหมอผ่าศพชี้แจงว่า เพราะแอลกอฮอล์นั้นถูกขับออกโดยลมหายใจ และถ้าหากเสียชีวิตไปแล้ว คนเสียชีวิตจะสามารถตรวจเจอแอลกอฮอล์ได้ แต่ในคนที่มีชีวิตอยู่แอลกอฮอล์จะถูกขับออกมาตามลมหายใจ ซึ่งผ่านไปหลายชั่วโมงก็จะไม่สามารถตรวจพบตามหลักทางการแพทย์อยู่แล้ว ขณะที่การตรวจผ้าอนามัยเพื่อหายูเรียในน้ำปัสสาวะนั้น ถ้าหากผ้าอนามัยมีการซึมซับยูเรียไว้ก็จะตรวจเจอ แต่ถ้าหากมีการแช่น้ำไว้เป็นเวลานาน ยูเรียก็จะถูกชะล้างออกไปทำให้บางครั้งก็จะไม่สามารถตรวจเจอได้

ทนายเดชา เปิดเผยว่า สรุปผลการชันสูตรรอบ2 ส่วนใหญ่พบตรงกันกับครั้งแรก แต่รายละเอียดย่อยต้องกลับไปดูอีกครั้ง และต้องปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผลการตรวจครั้งแรกตรงกับครั้งที่ 2 หรือไม่ แตกต่างกันมากน้อยเพียงใด เป็นประโยชน์ต่อการแจ้งดำเนินคดีข้อหาเพิ่มกับกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องและเป็นการกระทำที่เกิดโดยเจตนาหรือไม่ โดยเฉพาะ 22 บาดแผล ที่พบในการชันสูตรรอบ 2 จะมีประโยชน์หรือน้ำหนัก ให้แจ้งข้อหาเพิ่มได้หรือไม่ และเชื่อว่าไม่น่าจะมีการผ่าพิสูจน์ในครั้งที่ 3 แล้ว และเชื่อว่าในเร็วๆ นี้พนักงานสอบสวนอาจจะมีการขออำนาจศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องคนในเรือ ส่วนวันนี้ได้ผลการชันสูตรมาก็จะไปพูดคุย จากนั้นก็เตรียมที่จะปิดคดีแล้ว ทั้งนี้ในวันนี้เป็นคดีประมาท แต่หากต่อไปอาจมีหลักฐานเพิ่มก็อาจมีข้อหาอื่นๆ ก็เป็นได้ สำหรับข้อกังวลว่าจะถูกแม่ปลดไหม ตัวเองว่าคงไม่ถูกปลดเพราะมีความสัมพันธ์กับแม่ที่ดี ขณะที่ปอกับเบิร์ตไม่เคยประสานมาจะพูดคุยความจริงอะไร


ส่วนเรื่องคลิปหน้ารถนั้น คลิปดังกล่าวไม่มีเสียงอะไร มันเป็นเฟคนิวส์ ใครที่พูดต้องรับผิดชอบ ส่วนทนายกฤษณะไม่ได้มีการปรึกษาอะไร เพราะเขาย้ายสังกัดไปแล้ว คือไปอยู่สังกัด 007 กับบังแจ๊คโปรโมชั่น ซึ่งไม่เชื่อว่าทนายกฤษณะ จะออกมาแฉอะไรคุณแม่

ขณะที่กรณีของคุณแม่น้องแตงโมนั้น ถ้าหากคนจะไปด่าแม่ ทัวร์ลงแม่ ก็ให้มาด่าตนเองดีกว่า เพราะแกอายุมากแล้ว นอนไม่หลับ ถ้าหากแม่เป็นญาติผู้ใหญ่ของท่านๆ จะรู้สึกอย่างไร คนที่ด่าแม่ ด่ามาเดือนนึงแล้วก็ยังไม่หยุด ตัวเองก็ไม่เข้าใจว่าไปด่าแม่เขาทำไม โรคจิตหรือเปล่า ซึ่งแม่เองก็ไม่อยากเอาเรื่องเอาราว แต่ถ้ามากๆ นัก ก็อาจจะร้องฟ้องสักรายสองรายให้เป็นตัวอย่าง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยืนยัน ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ เตรียมยื่นเรื่องไปที่ “ยูเอ็น”

19 ก.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันผลตรวจสอบทุ่นระเบิดบริเวณเนิน 481 เป็นของใหม่ พบในเขตประเทศไทย คาดยังมีอีกกว่าร้อยลูกในพื้นที่ วันนี้ ที่กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี เมื่อเวลา 15.30 น. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นำแถลงผลการตรวจสอบทุ่นระเบิด บริเวณเนิน 481 จ.อุบลราชธานี โดย พันเอกสมโชค จันทาสี ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ระบุว่า ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบจำนวน 7 นาย โดยจุดแรกที่เจอได้มีการวางจำนวน 3 ทุ่น ลักษณะการวางผิวดิน รัศมีห่างกัน 40 เซนซิเมตร มีใบไม้ปกคลุม ส่วนจุดที่ 2 เจอจำนวน 5 ทุ่น รัศมีการวางกระจัดกระจาย รวมที่พบทั้งหมดจำนวน 8 ลูก ซึ่งจากการกู้ระเบิดทั้ง 8 ลูก ทุ่นระเบิดมีความใหม่ ตัวอักษรชัดเจน เพราะถ้าเป็นของเก่าจะมีวัชพืชปกคลุม […]

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย