ตร.ร่วม อย.ทลายแหล่งผลิตยาสมุนไพรเถื่อน

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง 24 มี.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วม อย. ทลายแหล่งผลิต ยาน้ำสมุนไพร และยากษัย เถื่อน ผสมสเตียรอยด์ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท


เครื่องดื่ม สมุนไพรเและ ยากษัยเส้น ผสมสเตียรอยด์  เถื่อน 2 ยี่ห้อ กว่า 20,000 ขวด  ยาเม็ดในกลุ่มสเตียรอยด์กว่า 2,000,000 เม็ด ยาแก้ปวดไม่มีทะเบียนกว่า 2,200,000 เม็ดยาเม็ดแก้แพ้กว่า 5000 เม็ด เป็นของกลางที่ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ สำนักงาน คณะกรรมการอาหารและยา นำหมายศาลเข้าตรวจค้นสถานที่ผลิตและเก็บในพื้นที่ อำเภอพล  และ อำเภอแวงใหญ่ จังหวัดขอนแก่น รวม 4 จุด   หลังก่อนหน้านี้ได้รับเรื่องร้องเรียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเพราะผู้บริโภคจำนวนมากได้ซื้อผลิตภัณฑ์น้ำสมุนไพร ยากษัยเส้นปู่แดงและผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มสมุนไพรที่โฆษณากล่าวอ้างบำรุงร่างกายช่วยเจริญอาหารต้านการอักเสบของข้อ หลังและเอว ลดอาการปวดทุกชนิด มาดื่ม แต่ต่อมา เกิดอาการผิดปกติทางร่างกาย ซึ่งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีการตรวจสอบพบสารสเตียรอยด์ในหลายพื้นที่เช่นที่จังหวัดเชียงใหม่ และที่จังหวัดเลย จึงสืบสวนจนทราบแหล่งผลิตน้ำสมุนไพรดังกล่าวอยู่ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น มีการส่งขายทางออนไลน์ ทั้งใน ประเทศและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งพบการกระทำผิดเบื้องต้นตามพรบผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562 ผลิตขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรปลอม   ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปีและปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท  ผลิตขายผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับและ พ.ร.บ. พ.ศ. 2522 แสดงฉลากเพื่อหลอกลวง อาหารปลอม ต้องระวังโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึง 10 ปีและปรับตั้งแต่ 5000 ถึง 100,000 บาท

ด้าน นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการ อย เปิดเผยว่า  จากการตรวจสอบ ในเครื่องดื่มสมุนไพร ไม่การขออนุญาตผลิต  และยากษัยเส้น  มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ 70 เม็ด และยากลุ่มเอนเสดอีก 30 เม็ด รวม 100 เม็ดต่อขวด  โดยผู้ผลิต รับว่าได้สั่งผลิตยาน้ำสมุนไพรจากโรงงานในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น  เมื่อได้สินค้านำมาเปิดขวดก่อนผสมยาสเตียรอยด์ และ ยากลุ่มเอนเสด ลงไปในขวด  ติดตราผลิตภัณฑ์ ส่งจำหน่าย  โดยเหยื่อส่วนใหญ่มักเป็นผู้สูงอายุที่หาซื้อยากินเองและผู้ผลิตมักใช้กลยุทธ์กล่าวอ้างเป็นสมุนไพรปลอดภัยใช้รักษาสารพัดโรคทางกระดูกทับเส้นปลายประสาทอักเสบเหน็บชาอัมพฤกษ์อัมพาตเมื่อทานยาจะเห็นผลในระยะแรกแต่หากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานานจะเกิดอาการผิดปกติตั้งแต่มีใบหน้ากลมอูม เหมือนพระจันทร์ ตัวบวมเริ่มมีไตวาย ถ้าหยุดยากระทันหันจะทำให้เกิดการช็อกได้ สเตียรอยด์จึงเป็นยาควบคุมพิเศษ ร้านขายยาจำหน่าย ให้ได้เฉพาะผู้ที่มีใบสั่งแพทย์เท่านั้น จึงเตือนไปยังผู้บริโภคก่อนซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพใดควรตรวจสอบข้อมูลใบอนุญาตผ่านทางเว็บไซต์ของ อย.ก่อนทุกครั้ง หรือโทรแจ้งเบาะแสร้องเรียนที่สายด่วนอย. 1556 หรือสายด่วนปคบ. 1135 หรือ เพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค นอกจากนี้ยังเร่งขยายผลตรวจสอบที่มาของยากลุ่ม สเตียรอยด์ว่าหลุดรอดออกมาสู่ท้องตลาดได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง