“หมอพรทิพย์” เชื่อ “แตงโม” ไม่ได้ถูกทำร้าย

กรุงเทพฯ 21 มี.ค. – “หมอพรทิพย์” ชี้ทีมแพทย์ชุดแรกชันสูตรศพ “แตงโม” ค่อนข้างสมบูรณ์ เชื่อ “แตงโม” ไม่ได้ถูกทำร้าย


พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค ของวุฒิสภา เปิดเผยว่า จะรายงานคณะกรรมาธิการฯ ถึงการได้เข้าร่วมสังเกตการณ์ชันสูตรศพของ “แตงโม” ซึ่งแพทย์นิติเวชชุดแรกได้ทำการตรวจที่ค่อนข้างสมบูรณ์

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า แผลที่เกิดก่อนการเสียชีวิตจะมีการหารือพูดคุยในกรรมาธิการ เนื่องจากแพทย์ยืนยันว่าเป็นแผลที่เกิดขึ้นก่อนเสียชีวิต โดยประเด็นที่จะต้องยืนยันคือเกิดขึ้นก่อนตกน้ำหรือเกิดขึ้นหลังจากที่ตกน้ำไปแล้ว โดยปล่อยให้เป็นกระบวนการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ


สำหรับกรณีที่มีทนายความคนหนึ่งโพสต์คลิปว่าพบหยดเลือดหรือก้อนเลือดในแผล ที่อาจทำให้คดีพลิก ชี้แจงว่าอาจเป็นเพราะการรับฟังข้อมูลที่ส่งต่อกันมาแล้วเกิดความคลาดเคลื่อน

เสนอนำ 5 คนบนเรือเข้าเครื่องจับเท็จ
ขณะที่วันนี้ คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการทำคดีการเสียชีวิตของแตงโม ทั้ง พ.ต.อ.อดิศร บุญประทีป ผู้กำกับการสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี, พล.ต.ต.หญิง ชุติมา ชัยมุกสิก ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ, พ.ต.อ.อุดมศักดิ์ พาลี พิสูจน์หลักฐานตำรวจในที่เกิดเหตุ, พ.ต.ท.ทศพร ทับทิม สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ, พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักบัณฑิต ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนนทบุรี รวมถึง “เต๊ะ” ศตวรรษ เศรษฐกร ดาราซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของแตงโม ร่วมให้ข้อมูลในฐานะตัวแทนของนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของแตงโม ซึ่งการประชุมวันนี้กรรมาธิการไม่ให้สื่อมวลชนเข้าสังเกตการณ์ เนื่องจากข้อมูลหลายอย่างกำลังอยู่ในสำนวนคดี

หลังใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง นายสมชาย แสวงการ ประธานกรรมาธิการ พร้อมด้วยกรรมาธิการ ได้แถลงร่วมกับเต๊ะ ศตวรรษ โดยนายสมชาย กล่าวว่า วันนี้กรรมาธิการฯ ได้รับผลผ่าพิสูจน์ศพของแตงโมแล้วทั้ง 2 ครั้ง ส่วนใหญ่ผลการตรวจสอบครั้งที่ 1 และ 2 ใกล้เคียงกัน ไม่พบร่องรอยของการถูกทุบศีรษะและฟันไม่หัก ส่วนแผลที่ขาเกิดก่อนเสียชีวิต กำลังรอผลตรวจชิ้นเนื้อว่าโดนอะไร


ส่วนการให้ข้อมูลของฝ่ายตำรวจ กรรมาธิการฯ พบว่าการสอบปากคำยังไม่ครอบคลุม การให้การขัดกันหลายอย่าง จึงฝากให้ตำรวจนำคนบนเรือทั้ง 5 คนเข้าเครื่องจับเท็จ พร้อมเตือนคนบนเรือที่ให้การไม่ตรงกันว่าบางคนตอนนี้อาจยังไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา แต่การให้การที่ไม่ถูกต้องถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ตอนนี้ปรากฏภาพชัดเจนว่าหลังเกิดเหตุมีการประชุมกันที่ท่าเรือ NBC ซึ่งไม่ทราบว่าตกใจ หรือไปหาเพื่อนที่ตกน้ำ แต่ที่แน่ๆ มีการเตรียมการและประชุมกัน จึงตั้งข้อสังเกตว่าไปประชุมเพื่ออะไร เพื่อนัดแนะกันว่าตกแบบไหนหรือไม่ ระยะหนึ่งความจริงมันจะปรากฏ

นายสมชาย กล่าวว่า กรรมาธิการฯ คิดว่ายังต้องตรวจพิสูจน์ชุดที่แตงโมสวมใส่เพิ่มเติม เพราะตั้งประเด็นไว้ว่ามีการทำร้ายร่างกาย จึงต้องพิสูจน์ว่ามีคราบเลือดหรือไม่ รวมถึงการเสียชีวิตเกิดขึ้นก่อนหรือหลังตกเรือ ซึ่งทางพิสูจน์หลักฐานรับไปดำเนินการต่อ พร้อมขอฝากประชาสัมพันธ์ เพราะผ้าคลุมสีขาวที่ทำเป็นกระโปรงหายไป หากใครพบเห็นให้แจ้ง สภ.เมืองนนทบุรี

ส่วนกรณีที่โซเชียลมีเดียช่วยกันหาพยานหลักฐานในคดีนี้ นายสมชาย กล่าวว่า เป็นได้ทั้งสองแง่มุม 1.อาจจะทำให้คดีรัดกุมมากขึ้น หรือ 2.อาจจะทำให้คดีขยายผลจนไม่จบ แต่ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว และควรจะตรวจสอบได้จากนิติวิทยาศาสตร์และการสอบสวน

ด้านเต๊ะ ศตวรรษ ในฐานะตัวแทนของครอบครัวแตงโม เห็นด้วยกับข้อเสนอของกรรมาธิการฯ ที่ขอให้ใช้เครื่องจับเท็จคนบนเรือทั้ง 5 คน เพราะเชื่อว่าคดีนี้มีความซับซ้อน เพราะติดกระดุมผิดมาตั้งแต่ต้น จากการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จึงเป็นไปได้ที่ทำให้ผู้คนสงสัย

เต๊ะ ศตวรรษ กล่าวถึงการร่วมสังเกตการณ์ผ่าร่างแตงโมรอบ 2 ว่าได้เห็นถึงนัยสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะบาดแผลที่มีเพิ่มเติมเข้ามา แต่ยังอยู่ระหว่างการพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญว่ามีที่มาอย่างไร

อย่างไรก็ตาม ขอร้องชาวโซเชียลอย่าตัดต่อหรือสร้างหลักฐานใดๆ เพื่อความสนุก หรือทำเพื่อต้องการยอดไลค์ ยอดวิว เพราะทำให้คนทำงานเหนื่อย เกิดความสับสน

ตัวแทนแฟนคลับแตงโม ร้องกระทรวงยุติธรรม
ด้านความเคลื่อนไหวของแฟนคลับ วันนี้ตัวแทนกลุ่มแฟนคลับ “แตงโม” โดยใช้ชื่อกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อว่า “คดีแตงโม ต้องได้รับความยุติธรรม” เข้ายื่นหนังสือต่อ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อเรียกร้องขอความยุติธรรมให้ “แตงโม” ในฐานะกลุ่มประชาชน เพราะ “แตงโม” คือคนของประชาชน จะทำการเรียกร้องไปจนกว่าคดีจะได้รับความยุติธรรม โดยมีข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ที่ประกอบด้วย 1.ไม่บิดเบือนความจริง ทั้งผลชันสูตร และการทำคดี 2.แตงโมเป็นคนของประชาชน ประชาชนต้องมีสิทธิเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม 3.ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่ละเว้น หรือเลือกปฏิบัติ ไม่ว่ารวยหรือจน

4.ทุกโซเชียลและบุคคลที่รักแตงโม ต้องมีสิทธิในการคิดวิเคราะห์คดี หรือช่วยกันหาหลักฐาน ข่าวสารที่ประชาชนให้ไป ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิสูจน์ให้ได้ว่าจริงหรือไม่ และต้องไม่ฟ้องร้องดำเนินคดีกับพลเมืองดีที่ให้ความช่วยเหลือในการให้ข้อมูล 5.ไม่ต้องการให้ผู้มีอิทธิพลใช้อำนาจอยู่เหนือกฎหมายอย่างไม่เป็นธรรม

โดยมี ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต รับหนังสือร้องขอความเป็นธรรมแทน พร้อมเปิดเผยว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กำชับให้ทุกคดีประชาชนต้องเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม ให้เกิดความกระจ่างสู่สังคม ยืนยันว่าประชาชนทุกระดับไม่ว่าจะรวยหรือจน เมื่อได้รับความเดือดร้อนขอให้มั่นใจว่าเราจะไม่มีการเลือกปฏิบัติอย่างแน่นอน ทั้งนี้ อยากให้มั่นใจไม่มีเรื่องผู้มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้องแทรกแซงได้

ส่วนการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะรวบรวมหลักฐาน หากเกรงผู้มีอิทธิพลจะมาเกี่ยวข้องก็จะมีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบอยู่แล้ว อีกทั้งกรณีสื่อออนไลน์ต่างๆ พบว่าผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ก็จะถูกดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย