ผ่าชันสูตร “แตงโม” รอบ 2 ฟันอยู่ครบ-ศีรษะไม่มีร่องรอยบาดแผล

กรุงเทพฯ 17 มี.ค. – หลังเสร็จสิ้นการผ่าชันสูตร “แตงโม” รอบ 2 เพื่อไขข้อสงสัย “หมอพรทิพย์” ยืนยันฟันอยู่ครบ ไม่มีหัก ไม่มีร่องรอยบาดแผลที่ศีรษะ ส่วนบาดแผลที่ขา มีลักษณะเฉพาะ ต้องให้พนักงานสอบสวนคุยกับคณะกรรมการผ่าชันสูตรและนิติเวช เพื่อนำไปเปรียบเทียบว่าเกิดจากอะไร ยันภาพถ่ายจากการชันสูตรครั้งที่แล้ว ไม่แตกต่างจากครั้งนี้


ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงสิ่งที่ “แม่แตงโม” สงสัย จนมีการผ่าพิสูจน์บริเวณศีรษะโดยรอบ ใบหน้า ลำคอที่สวมสร้อย หน้าอกใต้ลำคอ บาดแผลที่ขา แผลที่น่อง ข้อพับทั้ง 2 ข้าง มือทั้งสองข้าง แผ่นหลัง หลอดลม อวัยวะเพศ และเสื้อผ้า ทั้งหมดคือสิ่งที่ต้องการให้มีการผ่าพิสูจน์ รวมถึงคำแนะนำจาก พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ด้วย

จากนั้นเป็นการตรวจสอบเนื้อเยื่อและดีเอ็นเอต่างๆ นิติวิทยาศาสตร์เป็นคนติดตาม ภายใน 2 สัปดาห์ จะต้องแล้วเสร็จ โดยเฉพาะการตรวจพิสูจน์


นพ.วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ผ่าชันสูตรร่วมกับทีมแพทย์ที่ผ่าชันสูตรครั้งแรก เริ่มต้นดูจากลักษณะภายนอกทางร่างกาย ดูบาดแผลที่เกิดขึ้นว่าสอดคล้องการตรวจเจอในครั้งแรกหรือไม่ การเปลี่ยนแปลงภายหลังการเสียชีวิต เป็นลักษณะของบาดแผล หรือการเปลี่ยนแปลงจากการเสียชีวิต โดยมีการตัดเนื้อเยื่อตัวอย่างไปตรวจสอบ รวมถึงที่แม่แตงโมสงสัย เช่น บาดแผลที่เกิดขึ้น และหลอดลม ยังเชิญทันตแพทย์มาตรวจสอบว่ามีการบาดเจ็บของฟันหรือไม่ มีการเปรียบเทียบภาพถ่ายคอมพิวเตอร์ วันนี้ได้ทำการตรวจเรียบร้อยแล้ว โดยจะเร่งให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์

ขณะที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ บอกว่า ไม่ได้มาก้าวก่าย แต่อยากทำให้สื่อรู้ ครั้งแรกที่เห็นมีการเปลี่ยนแปลงของศพที่เกิดขึ้น สรุปว่าฟันครบ ไม่มีบาดแผล หนังศีรษะไม่แตก ไม่มีรอยช้ำ นิติเวชตรวจละเอียดและครบถ้วน เพียงแต่มีระเบียบที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ไม่สามารถเข้าไปฟังได้ พูดได้แค่ทนายความ สรุปว่าฟันอยู่ครบ

ส่วนประเด็นที่มีการทำร้าย เช่น บีบคอ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ บอกว่า ดวงตาไม่มีเส้นเลือดแตก ส่วนบาดแผลที่ขามีลักษณะเฉพาะ ซึ่งต้องให้พนักงานสอบสวนคุยกับคณะกรรมการผ่าชันสูตรและนิติเวช เพื่อนำไปเปรียบเทียบว่าเกิดจากอะไร ส่วนการล่วงละเมิดทางเพศ ตรวจสอบไม่พบความผิดปกติ ยืนยันบริเวณศีรษะและฟันไม่พบความผิดปกติ ส่วนกระเพาะปัสสาวะไม่เต็ม แต่บอกอะไรไม่ได้ เพราะศพเน่า ไม่ได้เห็นทันทีและไม่สามารถบอกได้เลย


ด้านว่าที่ รต.ธนกฤต กล่าวเสริมว่า บาดแผลและกระดูกของแตงโม ดูจากภาพเอกซเรย์ CT Scan ทั้งร่างกายไม่พบส่วนใดที่แตกหรือหัก แต่ต้องรอผลการตรวจสอบจากแพทย์อย่างเป็นทางการ และ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รอสรุปผลให้สื่อมวลชน

ขณะที่ เต๊ะ ศตวรรษ บอกว่า ในส่วนข้อสงสัยของคดีไม่สามารถพูดได้ แต่ขอพูดในฐานะที่ตนเองเข้าใจ ครอบครัวทางฝั่งคุณพ่อและคุณแม่แตงโมได้ติดตามคดีนี้อย่างต่อเนื่อง

เต๊ะ ศตวรรษ บอกว่า ขอนำข้อมูลทั้งหมดที่ได้เข้าไปดูในวันนี้ไปบอกกับครอบครัว ตนเองก็เข้าไปดูเฉพาะจุดตามกฎหมายที่กำหนด เชื่อเป็นประโยชน์กับครอบครัวของแตงโม เพื่อดำเนินการในส่วนของกฎหมายต่อไป ตนเองไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ในฐานะพี่น้องคริสเตียน สิ่งที่นำไปบอกครอบครัวจะเล่าในทุกสิ่งที่เห็น ที่ไม่เข้าใจก็ถามหมอ ซึ่งต้องรอผลชันสูตรจากหมอ

ด้าน พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ยืนยันว่า ประเด็นที่มีการสืบจากโซเชียลไม่อยู่ในสาระสำคัญ ยืนยันว่า ภาพถ่ายจากการชันสูตรครั้งที่แล้วไม่แตกต่างจากครั้งนี้

ขณะที่ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ บอกว่า ต้องตรวจสอบทุกประเด็นที่มีข้อสงสัย จากนี้ต้องมีการเร่งรัดผลตรวจ และมีการประชุมเพื่อขอมติและความเห็นอีกครั้ง ส่วนเรื่องทันตกรรมไม่มีปัญหา แต่ต้องมีการตรวจสอบประวัติย้อนหลัง มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ศพเปลี่ยนสภาพ ทั้งสภาพอากาศ อาจทำให้สภาพร่างกายของศพไม่เหมือนเดิม หากเทียบกับการผ่าศพครั้งที่แล้ว

ส่วนคำถามที่ว่า การผ่าชันสูตรครั้งที่ 2 ของนิติวิทยาศาสตร์ คล้ายกับนิติเวชตำรวจหรือไม่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ บอกว่า การผ่าชันสูตรทั้ง 2 ครั้ง สอดคล้องกัน

ด้าน ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ บอกว่า สภาพอากาศและการฉีดฟอร์มาลีน ถือว่ามีผลกับการผ่าศพครั้งที่ 2 อาจมีบางอย่างที่ไม่สอดคล้องกับการผ่าครั้งที่ 1 แต่จะพยายามเก็บให้ทุกประเด็น

ขณะที่ นพ.วรวีร์ บอกว่า ไม่ว่าจะเป็นการผ่าชันสูตรจากนิติเวชตํารวจ นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม มีมาตรฐานเดียวกัน แต่อาจจะมีข้อสรุปการผ่าแต่ละครั้งแตกต่างกันไปในเรื่องของการฉีดฟอร์มาลีนและสภาพศพ

ด้านทันตแพทย์จากจุฬาฯ ที่ทำการตรวจสอบช่องปากของแตงโม บอกว่า จากการตรวจสอบช่องปากไม่พบฟันที่หัก แต่พบฟันที่หายไปก่อนเสียชีวิต เช่น แตงโมอาจไปจัดฟันหรือถอนฟัน ซึ่งต้องรอตรวจสอบประวัติการรักษาฟันของแตงโม ยืนยันฟันเรียงตัวดี

สำหรับการผ่าศพครั้งที่ 2 เกิดจากการร้องขอของคุณแม่แตงโม และกรณีโซเชียลวิจารณ์ไปต่างๆ นานา ก็เป็นเรื่องของตำรวจที่ต้องดำเนินการในนามของนิติวิทยาศาสตร์ ต้องเร่งสืบสวนความจริงจากการร้องขอ

ด้านว่าที่ ร.ต.ธนกฤต ยืนยันว่า แพทย์ที่เข้ามาร่วมชันสูตรและวิเคราะห์ ล้วนแต่เป็นจิตอาสา

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ชี้แจงว่า ตนเองเสนอทนายความและแม่แตงโมไปว่า ขอให้ชะลอการเผาศพออกไปก่อน เนื่องจากอาจจะต้องมีการจำลองการเกิดบาดแผลของแตงโม ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น หากพบร่องรอยรองเท้าอยู่บนพื้น ก็ให้ไปหารองเท้าที่ใกล้เคียงกันมาเปรียบเทียบ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

EOD ลุยค้นหาจรวด หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง

13 ส.ค. – EOD ลุยค้นหา-เก็บกู้จรวดในพื้นที่บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง ขณะที่คณะ ICRC ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผลกระทบเหตุปะทะ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ยางพาราของชาวบ้านและอีกหลายจุด ในเขต ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบหลุมต้องสงสัยอยู่ในที่ดินของตัวเอง จากการตรวจสอบพบสะเก็ดระเบิด และอีกหลายจุดพบเป็นหลุมคล้ายหลุมจรวด BM21 ที่ตกลงมา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะที่ชาวบ้านที่เพิ่งเข้ามาอยู่บ้าน ยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ โดยเฉพาะหลังมีทหารเหยียบทุ่นระเบิดเป็นรายที่ 5 EOD เร่งตรวจสอบ–กู้ระเบิดกระสุนปืนใหญ่ชายแดน ส่วนที่ศรีสะเกษเจ้าหน้าที่ EOD สนธิกำลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบกระสุนปืนใหญ่ตกในเขต ต.เสาธงชัย และ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน เบื้องต้นพบ 7 จุด บริเวณสวนยางพาราและใกล้เขตชุมชน โดยส่วนใหญ่เป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 100 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดตรวจพิสูจน์ พบว่าหลายลูกระเบิดไปแล้ว เหลือเพียงเศษซาก และยังพบอีก 1 จุดในพื้น […]

อึ้งพระอยู่กับสีกา เปิดบนรถเจอกองทิชชูใช้แล้ว

สกลนคร 13 ส.ค. – วงการผ้าเหลืองฉาวอีก ตำรวจตรวจรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง พบพระกับสีกาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คุยไปคุยมา สุดท้ายไปจบที่ลาสิกขา หลังตำรวจ สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบรถเก๋งต้องสงสัยสีดำ จอดผิดปกติบริเวณ ริมคลอง บ.พาน ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ตำรวจต้องอึ้ง เมื่อเจอพระอยู่กับสีกา 2 ต่อ 2 ในรถ ต่อมาทราบว่า คือ พระชัยณรงค์ อายุ 53 ปี สังกัด วัดแห่งหนึ่ง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จึงเชิญตัวไปยังวัดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีลาสิกขา และนำตัวมาตรวจปัสสาวะ ผลไม่พบสารเสพติด แต่รถที่พระเเละสีกาดังกล่าวอยู่ด้วยกัน พบเป็นรถที่ถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ขมิ้น พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณสถานที่เก็บของกลาง กระจกด้านข้างและด้านหลังติดฟิล์มดำสนิท แต่ด้านหน้าฟิล์มใสมองเห็นถึงภายใน ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ยังพบกองจีวรของทิดชัยณรงค์ […]

สถานการณ์ชายแดนสุ่มเสี่ยงปะทะรอบ 2

สุรินทร์ 13 ส.ค. – กระแสข่าวจากหลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าระยะ 2 วันนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเพิ่มความตึงเครียด สุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะรอบ 2 ฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งเตือนไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน พบว่า หลายครอบครัวเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ 1-2 วัน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบในห้วงวันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้เตรียมความพร้อม เก็บสัมภาระไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงการปะทะ รอบ 2 ซึ่งอาจรุนแรงมากกว่ารอบแรก ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างตื่นตระหนก ต้องการอพยพไปอยู่นอกพื้นที่ แต่เมื่อผู้นำหมู่บ้านทำความเข้าใจ ก็คลายความกังวลลงบ้าง โดยสื่อสารข้อความจากนายอำเภอพนมดงรักว่า รอให้มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้นก่อน จึงให้อพยพ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อฟัง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน เพราะยังไม่มีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือนตลอดห้าวัน เพราะเป็นห่วงวัวที่เลี้ยงไว้ จึงอาศัยอยู่ในกระต๊อบพร้อมญาติรวมสี่คน และประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะปลอดภัย เพราะวิถีกระสุนไปตกไกลกว่า จึงได้ยินเสียงปะทะอย่างชัดเจน […]

คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำ ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัว

มุกดาหาร 13 ส.ค.- คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา หลังศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 26 ปี คดีน้องชมพู่ จากกรณีศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาเพิ่มโทษให้จำคุก “ลุงพล” 26 ปี ฐานเจตนาฆ่าเด็ก พรากผู้เยาว์ และอำพรางศพ ขณะที่ “ป้าแต๋น” พิพากษายืนยกฟ้อง ในคดีฆาตกรรม น้องชมพู่ ทั้งนี้ภายหลัง ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ “ลุงพล” ได้ยื่นขอประกันตัว โดยศาลจังหวัดมุกดาหาร เสนอไปยังศาลฎีกา ล่าสุด ช่วงเย็นที่ผ่านมา ศาลฎีกายังไม่มีคำตอบลงมาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ทำให้ “ลุงพล” ถูกคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา ย้อนไปคดีนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ หายไปจากบ้านพักภาย ในหมู่บ้านกกกอก ทำให้ชาวบ้านมากกว่า 200 ชีวิต รวมถึง ตัวลุงพล ช่วยกันออกตามหา […]