“แม่แตงโม” ไม่คาใจผลนิติเวช ฝากถึง 5 คนบนเรือให้พูดความจริง

กรุงเทพฯ 15 มี.ค.- แม่แตงโมพอใจ ผลนิติเวช รพ.ตำรวจ ไม่พบร่อยรอยฟันหัก-ถูกทำร้ายร่างกาย แต่จะยังส่งศพแตงโมชันสูตรรอบ 2 เพื่อคลายข้อสงสัยของสังคม ย้ำตอนนี้ให้อภัยกระติกและทุกคน 100% ฝากบอก 5 คนบนเรือให้พูดความจริง


ค่ำวานนี้ (14 มี.ค.) หลังนางภนิดา แม่ของแตงโม ภัทรธิดา พร้อมทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ที่ปรึกษากฎหมายคดีแตงโม และนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความคดีแตงโม เข้ารับฟังผลการชันสูตรพลิกศพของแตงโม จากทีมแพทย์นิติเวช ก็ได้ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

ทนายเดชา เผยว่าหลังคุณแม่ของแตงโม เข้ารับฟังก็ได้สอบถามประเด็นต่างๆ ที่สงสัย และทางแพทย์นิติเวช ก็สามารถอธิบาย และแสดงหลักฐานให้แม่ดูจนเป็นที่พอใจ


อย่างประเด็นที่สังคมสงสัยกัน เช่น เรื่องที่กระแสโซเชียลตั้งข้อสังเกตว่า แตงโมถูกตีหัว ฟันหัก ตาถลน – จากการดูภาพ ไม่พบว่า มีร่อยรอยฟันหักฟันยังอยู่ครบ และ ไม่พบว่าแตงโมถูกทำร้าย โดยตำรวจได้นำภาพถ่ายศพแตงโม ทั้งก่อนและหลังทำความสะอาดและลอกหนังแล้ว ก็ไม่พบร่อยรอยใดๆ ที่บ่งชี้ว่าแตงโมถูกทำร้ายร่างกาย

ส่วนบาดแผลที่ต้นขาขวา ที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า แผลลึกไปถึงกระดูก จริงๆ แล้ว สีขาวที่เห็นในภาพ ไม่ใช่กระดูก แต่เป็นเส้นเอ็น ซึ่งแผลตรงจุดนี้เกิดขึ้นก่อนแตงโมเสียชีวิต แต่ไม่สามารถระบุได้ว่า เกิดก่อน หรือ หลังตกเรือ

ด้านทนายเดชา ยังบอกอีกว่า แม่แตงโม ยืนยันจะส่งศพชันสูตรซ้ำ เพื่อความโปร่งใส ไขข้อข้องใจของสังคม ถ้าผลออกมาใกล้เคียงกันก็ไม่มีผลต่อรูปคดี ส่วนจะส่งศพไปตรวจเมื่อใด ต้องมีการหารืออีกครั้ง ส่วนการฌาปนกิจศพแตงโม จะเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด ส่วนเรื่องคดีความตำรวจบอกว่า ไม่กำหนดกรอบเวลา ส่วนประเด็นการนำคนบนเรือเข้าเครื่องจับเท็จ ยังไม่ถึงเวลา ต้องรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดให้ได้ก่อน โดยคลิปที่ตำรวจตรวจสอบแล้วมีทั้งหมด 160 คลิป และยังอยู่ระหว่างรอผลจาก พฐ.อีก 19 รายการ


ส่วนคลิปที่แชร์กันว่า มีการดึงผม เอาขวดตี ตรวจสอบแล้ว เป็นคลิปหลังเกิดเหตุแตงโมตกน้ำไปแล้ว ส่วนคำให้การของ 5 คนบนเรือ ทนายเดชา ระบุว่าตนเองและ คุณแม่ก็ไม่เชื่อเช่นกัน ซึ่งทางตำรวจก็ไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าไหร่นัก ขณะนี้ได้แจ้งข้อหา 2 คน (โรเบิร์ต – ปอ) คือ ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ทั้งนี้ตำรวจแย้มว่า อาจจะมีการแจ้งข้อหาคนบนเรือเพิ่มอีก 1 คน

ด้านแม่แตงโม เผยขณะนี้ไม่คาใจเรื่องผลชันสูตรแล้ว แต่ยังคาใจกระติกโกหกที่โกหกว่าว่ายน้ำไม่เป็น จึงคิดว่ากระติกน่าจะโกหกเรื่องอื่นๆ ด้วย แต่ถึงอย่างไรตนเองก็ให้อภัยกระติกแล้ว เพราะ ไม่อยากเก็บมารกสมอง ส่วนเรื่องคดีก็ให้เป็นหน้าที่ตำรวจ ย้ำตอนนี้แม่ให้อภัยทุกคนหมดแล้ว ขอสื่ออย่ามองว่าตนเองหิวเงิน นอกจากนี้ แม่แตงโมยังฝากบอก 5 คนบนเรือว่าให้พูดความจริง เพราะคนๆ หนึ่งตกไปในน้ำ เป็นไปได้หรือที่จะไม่มีใครเห็น ต้องมีคนเห็นและปกปิดความจริงไว้ อยากให้มาสารภาพกับตำรวจ โทษหนักจะได้เป็นเบา

หลังการแถลงข่าวของนางภนิดา แม่ของแตงโม ทนายเดชาและทนายกฤษณะ ทางด้านต่อย ดายศ พี่ชายของแตงโม ก็โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ไม่เชื่อว่า แตงโมจะไปปัสสาวะที่ท้ายเรือ ตามคำให้การของคนที่อยู่บนเรือลำเดียวกันกับแตงโมในวันเกิดเหตุ โดยระบุว่าข้อความว่า “ถึงใครจะพูดยังไง ส่วนตัวผมไม่เชื่อแน่นอนว่า น้องของผมจะไปทำอย่างที่บอก บริเวณท้ายเรือ ไม่ได้พาดพิงใครมันเป็นสิทธิและความเชื่อส่วนตัวของผมครับ”

ด้าน พญ.คุณหญิง พรทิพย์โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะกรรมาธิการ(กมธ.)สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวว่า การขออายัดศพ เพื่อขอชันสูตรเป็นรอบที่ 2 ว่า เพื่อเป็นแนวทางในการรวบรวมพยานหลักฐาน ไม่ให้เกิดความไขว้เขวในสังคม สิทธิของเหยื่อที่จะรับรู้ผลชันสูตร สำหรับบทบาทที่เกี่ยวข้องในการชันสูตรศพรอบ 2 พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ตามมารยาทส่วนตัวมองว่า ไม่ควรที่จะเป็นคนลงมือผ่าศพเอง เพราะยึดตามข้อกฎหมาย แต่ยังสามารถใช้ตำแหน่ง และความรู้ในการเป็นที่ปรึกษาช่วยเข้าไปสังเกตการณ์ได้

สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่ผลการชันสูตรรอบแรก เพราะผลบางอย่างไม่สามารถชันสูตรรอบ 2 ได้ ตนมองว่ากระบวนการดูแปลกๆ ตั้งแต่เริ่มต้น นั่นคือ การไม่เก็บหลักฐานของ 5 คนบนเรือตั้งแต่แรก และเรือเปลี่ยนไปมา เบื้องต้นได้ประสานกับญาติแตงโมจะเข้าไปดูผลชันสูตรรอบแรกที่โรงพยาบาลตำรวจในวันพรุ่งนี้

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]

จับผับรังสิต

สั่งเด้งผู้การปทุมธานี ขาดจากตำแหน่งเดิม เซ่นจับผับดังรังสิต

8 ส.ค. – โดนด้วย! สั่งเด้งผู้การปทุมธานี โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม พร้อมพวกอีก 5 นาย เซ่นจับผับดังรังสิต พบฉี่ม่วงเพียบเฉียด 200 คน พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ลงนามในคำสั่งตำรวจภูธรภาค 1 ที่ 209/2568 เรื่อง ข้าราชการตำรวจช่วยราชการ ใจความว่า ด้วย ตำรวจภูธรภาค 1 มีคำสั่งที่ 208/2568 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2568 แต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ในกรณีเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 01.00 น. ชุดปฏิบัติการ พิเศษกรมการปกครอง ได้มีการจัดระเบียบสังคม โดยเปิดปฏิบัติการ (Zero Drug) โดยนำกำลังเข้าทำการ ตรวจสอบและจับกุมสถานบริการ ชื่อ ร้าน “Skin […]

ข่าวแนะนำ

วิเคราะห์แนวทางดำเนินคดีกัมพูชา

10 ส.ค. – ฟังการวิเคราะห์ปมดำเนินคดีกัมพูชา กับ รศ.ดร. ดุลยภาค ปรีชารัชช อาจารย์ประจำสาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากหลักฐานที่มีชัดเจน กระสุนกัมพูชายิงตกฝั่งไทย เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินพลเรือน และมีกระสุนที่ต้องเก็บกู้มากกว่า 800 นัด ขณะที่หลังการเจรจา GBC ผ่านไป พบกัมพูชายังเสริมกำลังทหารต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

ชาวบ้านศรีสะเกษสุดช้ำ บ้านเรือนถูกกัมพูชายิงถล่มเหลือแต่ซาก

ศรีสะเกษ 10 ส.ค. – ชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กลับจากศูนย์อพยพเจอสภาพบ้านเหลือแต่ซาก หลังถูกลูกปืนใหญ่กัมพูชายิงถล่ม ขณะที่พบหัวจรวด BM-21 กลางทุ่งนา อีก 2 จุด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายเรียบร้อย ปลัดอำเภอน้ำยืน เน้นย้ำหากชาวบ้านพบหลุมลึก-ปากหลุมแคบ ให้รีบแจ้งทันที ภาพจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นนาทีกระสุนโจมตีของกัมพูชายิงตกใส่บ้านเรือนประชาชนอย่างรุนแรงจนฝุ่นฟุ้งกระจาย จากภาพจะเห็นว่ามีรถอีแต๋นคันหนึ่งวิ่งผ่านจุดที่กระสุนพุ่งตกลงมาเพียงเสี้ยววินาที เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ วันนี้ นายกุลนที อายุ 45 ปี เดินทางกลับมาบ้าน หลังอพยพออกจากพื้นที่ไปกว่า 2 สัปดาห์ ในช่วงเหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทันทีที่เห็นบ้าน นายกุลนทีถึงกับน้ำตาคลอ เพราะบ้านเสียหายอย่างหนัก ทั้งโครงสร้างไม้และปูนได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประตู หน้าต่าง กระจก และหลังคาถูกกระสุนถล่มจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม […]

มทภ.2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด

10 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 กำชับกำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง หลังทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ จากการตรวจสอบพบเป็นทุ่นใหม่ ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยภายหลังการรับมอบสิ่งของช่วยเหลือทหารและเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดน จากภาครัฐและเอกชน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนแนวชายแดน จ.ศรีสะเกษ เมื่อวานว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทุ่นใหม่ที่ถูกวางไว้ช่วงทหารกัมพูชาเข้ามาตั้งฐานเพื่อป้องกันการเข้าโจมตีของไทย ก่อนที่จะถอนกำลังออกไป ไม่ใช่การลอบนำมาวางใหม่หลังถอนกำลัง จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตักในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ สำหรับพื้นที่แนวปะทะที่มีการวางกำลังของทหารกัมพูชายังถือว่าไม่ปลอดภัยสำหรับทหาร เนื่องจากมีการวางระเบิดไว้มาก ส่วนพื้นที่ชาวบ้านซึ่งอยู่นอกแนวชายแดนลึกเข้ามา ไม่น่าเป็นห่วงจากทุ่นระเบิดบุคคล แต่ยังมีความเสี่ยงจากจรวดที่ยิงเข้ามาแล้วไม่ระเบิด หากประชาชนพบเห็นให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ห้ามเข้าไปจับ ดึง หรือเก็บเอง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ เช่น ภูมะเขือ อานม้า ซำแปร และตาเมือนธม ไทยสามารถครอบครองได้ […]

นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องชาติมากถึง 75%

กทม. 10 ส.ค.-นิด้าโพล เผยประชาชนไว้วางใจกองทัพ ปกป้องผลประโยชน์ชาติ จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มากถึง 75% แนะเปิดเจรจาทางการทูตสองฝ่ายจริงจัง รวมทั้งเห็นว่าไม่ควรรับผู้ป่วยชาวกัมพูชาทุกคน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ไปต่อแบบไหนดี” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-5 สิงหาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป เกี่ยวกับความไว้วางใจและความพอใจต่อบทบาทของภาคส่วนต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา พบว่า -กองทัพ ตัวอย่าง ร้อยละ 75.73 ระบุว่า ไว้วางใจมาก รองลงมา ร้อยละ 19.31 ระบุว่า ค่อนข้างไว้วางใจ ร้อยละ 3.66 ระบุว่า ไม่ค่อยไว้วางใจ ร้อยละ 1.07 ระบุว่า ไม่ไว้วางใจเลย และร้อยละ 0.23 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ -กระทรวงการต่างประเทศ ตัวอย่าง ร้อยละ 41.76 […]