กรุงเทพฯ 10 มี.ค. – เปิดภาพอาหารมื้อสุดท้ายของ “แตงโม ภัทรธิดา” นั่งอยู่ที่โต๊ะเพียงลำพัง ก่อนแตงโมจะลงเรือสปีดโบ๊ทและพลัดตกเรือเสียชีวิต
ภาพของ “แตงโม” ที่กำลังถูกแชร์ กับภาพอาหารมื้อสุดท้ายของแตงโม ที่ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในภาพเห็นว่าแตงโมกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเพียงลำพัง ก่อนจะไปขึ้นเรือและเกิดเหตุเศร้า แฟนๆ ที่เห็นต่างแสดงความคิดเห็นว่าเพื่อนๆ ในโต๊ะที่เป็นข่าวหายไปไหนกันหมดในเวลานั้น และหลายคนที่เห็นแล้วบอกว่าใจหาย สงสารแตงโมที่ไม่รู้เลยว่านี่จะเป็นมื้อสุดท้ายของเธอ
ย้อนกลับไปในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ วันนั้นแตงโม ไฮโซปอ โรเบิร์ต จ๊อบ แซน รวมถึงกระติก ผู้จัดการส่วนตัว รวม 6 คน นั่งเรือออกจากโรงเก็บ NBC ล่องไป จ.ปทุมธานี เพื่อรับประทานอาหารที่ร้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา ชื่อร้านอาหารบ้านตานิด คุณผึ้ง ผู้บริหารร้านอาหาร เล่าว่า แตงโมและเพื่อนมาถึงร้านประมาณ 6 โมงเย็น นั่งรับประทานอาหารที่โต๊ะริมระเบียง 2 โต๊ะต่อกัน และรับประทานกันตามปกติ นั่งคุยกันธรรมดา ไม่มีการส่งเสียงดัง จากนั้นได้เรียกเก็บเงินตอนประมาณ 2 ทุ่ม ซึ่งตอนนั้นยังเห็นแตงโมสนุกกับการกิน พร้อมกับบอกว่าอาหารอร่อยมาก
เมนูในวันนั้น ประกอบด้วย แป๊ะซะ พะโล้ ผัดหนำเลียบ ต้มจืดตอปิโด ผัดผัก ฉู่ฉี่ ปลาทอด น้ำอัดลม 3 กระป๋อง น้ำเปล่า และได้ขอนำไวน์เข้ามาดื่มในร้านด้วย ก่อนที่ทุกคนจะเดินไปขึ้นเรือสปีดโบ๊ทที่จอดเทียบท่าบริเวณหน้าร้านอาหาร
ทนายแม่แตงโม พบ ตร. ประเด็นบาดแผลแตงโม
ส่วนความคืบหน้าทางคดี วันนี้ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ช่วงเช้า นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความ แม่แตงโม เดินทางมาเพื่อมาขอคำปรึกษา และขอดูข้อมูลเพื่อจะได้หาพยานหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นใหม่ เรื่องของบาดเเผลบริเวณศีรษะ เเละดวงตาข้างซ้ายปูดโปนออกมา
โดยวันนี้เตรียม 4 คำถามมาถามตำรวจ ประกอบด้วย 1.เลือดของเเตงโม ตรวจเจออะไรบ้าง 2.บาดเเผลที่พบตรวจเจออะไรบ้าง 3.เอาอะไรวิเคราะห์ 4.ผลเลือดของคนบนเรือ ตรวจเมื่อไร ตรวจที่ไหน และละคราบเลือด ตรวจเมื่อไร ตรวจที่ใด
ส่วนหลักฐานที่ตนเองมียังไม่ขอเปิดเผย และหากการเข้าพบเพื่อขอดูสำนวนของตำรวจในวันนี้ แต่ยังไม่สิ้นข้อสงสัย ก็จะปรึกษาแม่อีกครั้ง และจะให้แม่เซ็นใบมอบอำนาจเพื่อใช้เป็นเอกสารสำคัญในการขอตรวจสอบพยานหลักฐานในชั้นพนักงานสอบสวนได้ตามกฎหมายด้วย
โดยทนายความใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ และเปิดเผยกับสื่อว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถให้ข้อมูลหรือตอบข้อสงสัยได้ เพราะยังอยู่ระหว่างการประชุมชุดสืบสวนสอบสวน และให้เหตุผลว่าขณะนี้ยังไม่ได้ผลการชันสูตรและพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และบอกไม่ได้ว่าจะสรุปสำนวนคดีของแตงโมวันไหน
ผบก.นิติเวช เตรียมเรียกผู้ชันสูตรศพแตงโมชี้แจง
ด้านพลตำรวจตรีสุพิไชย ลิ้มศิวะวงศ์ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยถึงกระแสข่าวที่มีการพบบาดแผลที่ศีรษะของแตงโม โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต โดยระบุว่าส่วนตัวไม่ได้เป็นผู้ตรวจหรือชันสูตรศพของแตงโม แต่ได้รับรายงานจากแพทย์ที่เป็นผู้ผ่าพิสูจน์ศพว่าตามร่างกายของแตงโม มีบาดแผลหลายจุด แต่ส่วนที่เป็นแผลใหญ่สุดอยู่ที่โคนขาอ่อนด้านในข้างขวาเท่านั้น ส่วนบาดแผลที่ศีรษะ ตามกระแสข่าวส่วนตัวยังไม่ได้รับรายงาน ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะมีการเชิญแพทย์ผู้ผ่าชันสูตรมาสอบถามเพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบรายละเอียดถึงข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ส่วนผลตรวจเนื้อเยื่อของศพแตงโมที่มีการส่งไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อทำการตรวจคู่ขนานกันไป ล่าสุดยังไม่มีการส่งกลับมา
“นิติเวช ตร.” ยืนยันตรวจช่องปาก “แตงโม” ไม่พบรอยฟันหัก
ขณะที่มีรายงานว่า กรณีการชันสูตรพลิกศพของ “แตงโม” โดยแพทย์สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ แพทย์เวรที่รับผิดชอบผ่าชันสูตรได้ตรวจสอบในช่องปาก ลำคอ ของ “แตงโม” แล้วไม่พบว่ามีร่องรอยฟันหักตามที่มีการตั้งข้อสังเกต ส่วนกะโหลกศีรษะก็มีการเปิดผมตรวจสอบ ไม่พบร่องรอยกระแทกด้วยของแข็ง
วิเคราะห์บาดแผล “แตงโม” จากอดีตศัลยแพทย์
ส่วนแผลที่โคนขาขวาด้านใน พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โพสต์เฟซบุ๊ก Tavatchai Kanchanarin วิเคราะห์บาดแผลที่ขาของแตงโม โดยมีการจำลองภาพต่างๆ พร้อมกับเขียนข้อความที่วิเคราะห์ว่า บาดแผลที่เกิดจากใบพัดเรือขณะกำลังหมุนจะมีลักษณะฉีกขาดหลายแผล ลึก และขนานกัน ใบพัดสามแฉกซึ่งหมุน 3,200 รอบต่อนาที กระทบร่างกาย 9,600 ครั้งต่อนาที หรือ 160 ครั้งต่อวินาที งานวิจัยจำนวนมากบรรยายถึงบาดแผลจากใบพัดเรือในทำนองเดียวกัน น้อยมากที่จะเจอแผลเดียวไม่ลึก เห็นมีอยู่รายหนึ่ง เป็นแผลเดียวที่เท้า เอ็นไม่ขาด แต่รายนั้นก็เกิดจากลื่นแล้วไปสะดุดใบพัดเรือซึ่งจอดอยู่บนบก
ขณะนี้สังคมกำลังตั้งข้อสังเกตเรื่องบาดแผลของแตงโมว่าเกิดจากใบพัดเรือ หางเสือเรือ หรืออื่นๆ ในระหว่างการตกเรือ เนื่องจากพบบาดแผลยาวขนาด 1 ฟุต และลึกจนเห็นกระดูกบริเวณต้นขาขวา ทำให้มีความสงสัยเกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย