BIG STORY : คดีแตงโมสอบแล้ว 65 ปาก-คุม “จ๊อบ” ค้นบ้าน

กรุงเทพฯ 7 มี.ค. – รอง ผบช.ภ.1 เผยคดี “แตงโม” สอบแล้ว 65 ปาก โดยพนักงานสอบสวนนำตัว “นายจ๊อบ” ไปค้นบ้านเพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นสุรา เพื่อนำมาประกอบกับบริบทของคนบนเรือ


นับเป็นครั้งแรกที่มีการแถลงความคืบหน้าคดี “แตงโม” ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 หลังก่อนหน้านี้จะแถลงกันที่ สภ.เมืองนนทบุรี โดย พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เป็นผู้แถลงข่าว บอกว่าคดีนี้สอบผู้เกี่ยวข้องไปแล้ว 65 ปาก และวันนี้มีการสอบปากคำเพิ่มอีก 3 ปาก ได้แก่ นายสันธนะ ประยูรรัตน์, เจ้าของเรือ และนายจ๊อบ หลังพนักงานสอบสวนได้นำตัวนายจ๊อบไปค้นบ้านเพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นสุรา ที่มีข้อสงสัยว่าแท้จริงแล้วดื่มที่ไหน อย่างไร ดื่มสุราชนิดไหน มากน้อยเพียงใด เพื่อนำมาประกอบกับบริบทของคนบนเรือ เบื้องต้นมีประเด็นคนบนเรือมีการดื่มไวน์ แต่มีการนำสุราไปไว้บนเรือด้วย หลังเกิดเหตุกลัวว่าตำรวจจะดำเนินคดีเรื่องของสุรา จึงนำไปทิ้ง ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบ

เมื่อนักข่าวถามถึงการทิ้งขวดไวน์และแก้วไวน์ จะเข้าข่ายทำลายหลักฐานหรือไม่ ตำรวจระบุว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเช่นกัน ส่วนการทำลายพยานหลักฐาน หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีคนชี้นำ หรือแนะนำให้ทำลาย ตำรวจระบุว่ามีการเก็บข้อมูลไปตรวจสอบแล้ว


สำหรับประเด็นเรื่องนักการเมืองใน จ.สมุทรปราการ ให้คำปรึกษาทั้ง 5 คนบนเรือ ตำรวจได้เก็บข้อมูลไว้ทั้งหมดแล้ว และจะมีการเรียกมาสอบปากคำ

ขณะที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่านายโรเบิร์ตมีฝาแฝดจะมีการเปลี่ยนตัวให้แฝดอีกคนรับผิดแทนหรือไม่ ตำรวจระบุว่ามีหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์แล้ว มั่นใจว่าดำเนินคดีไม่ผิดตัว ส่วนสาเหตุที่บางรูปภาพกับใบหน้าตอนนี้ไม่เหมือนกันเพราะนายโรเบิร์ตไปปลูกผม

ผู้สื่อข่าวยังถามถึงประเด็นมีนายตำรวจตัวย่อ น. เข้ามาเกี่ยวข้อง ตำรวจยืนยันว่า ตอนนี้ยังไม่พบว่ามีคนเข้าไปเกี่ยวข้องตามที่เป็นข่าว


ส่วนกระแสนายพลระดับสูงนัดหมายที่โรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตำรวจยืนยันเช่นกันว่าข้อมูลนี้ไม่มีจริง ประเด็นการรับงานทานข้าวและที่แม่ของแตงโมระบุว่าแตงโมถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจ ก่อนตกน้ำ จากพยานหลักฐานที่มีตอนนี้ยังไม่พบ แต่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง และจะตรวจสอบหาข้อเท็จจริงต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า กรณีที่แม่อยากให้หมอพรทิพย์เข้ามาร่วมชันสูตรศพด้วย ตำรวจระบุว่าหากเป็นบุคคลหรือองค์กรที่มีอำนาจทางกฎหมายสามารถเข้าร่วมได้ ตอนนี้ทางตำรวจได้ส่งชิ้นส่วนศพของแตงโมไปตรวจสอบยังองค์กรอื่นด้วย เพราะมีประชาชนบางส่วนไม่มั่นใจในการทำงาน จึงต้องส่งไปองค์กรอื่นเพื่อพิสูจน์ให้สังคมคลายข้อสงสัย ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิตและครอบครัวมากที่สุด

ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่ามีเส้นผมตกในเรือ ยืนยันว่ามีจริง แต่เส้นผมที่ใบพัดเรือยังไม่มีข้อมูล เพราะหากมีเส้นผมที่ใบพัดเรือจริงจะต้องมีบาดแผลบริเวณศีรษะของแตงโมด้วย ซึ่งผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์จะช่วยคลี่คลาย

นอกจากนี้จากการสอบปากคำวันแรกทั้งหมดให้การไม่ตรงกัน มีการโกหกเกิดขึ้น จึงต้องมีการเรียกมาสอบปากคำเรื่อยๆ กระทั่งสามารถออกหมายจับได้ 2 คน ขณะนี้กำลังหาหลักฐานมัดตัวคนที่ 3 เพื่อออกหมายจับ แต่หลักฐานยังไปไม่ถึง การเรียกมาสอบปากคำเรื่อยๆ จะทำให้รู้ได้ว่าใครโกหก ตอนนี้ยังไม่มีการนำเข้าเครื่องจับเท็จ และการสอบปากคำนี้จะต้องสอดคล้องกับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ตำรวจมีด้วย

ส่วนแซน 1 ใน 5 คนบนเรือที่ยังไม่ได้เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้น แซนรับปากจะเข้ามาให้ปากคำ แต่ยังไม่ระบุวันเวลาที่ชัดเจน ซึ่งตำรวจจะดำเนินการโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 จะแถลงผลการดำเนินงานของพนักงานสอบสวนและประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจ ที่ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ ตำรวจภูธรภาค 1 ทุกวัน เวลา 10.30 น. จนกว่าคดีจะเสร็จสิ้น

เพื่อน “แตงโม” จอดรถคุยในปั๊ม หลังเกิดเหตุ
ส่วนภาพวงจรปิดที่เห็นล่าสุดเป็นภาพวันที่ 25 ก.พ. เวลา 02.01 น. ปรากฏรถอัลพาร์ดสีดำของนายปอขับเข้ามาจอดบริเวณลานจอดของปั๊ม จากนั้นรถอัลพาร์ดสีขาวของนายโรเบิร์ตตามมา และมีรถเก๋งโตโยต้ายาริสสีบรอนซ์ มาจอดเป็นคันที่ 3 ซึ่งมีนายจ๊อบเดินลงมาจากรถ จากนั้นอัลพาร์ดสีขาวของแซนก็ขับเข้ามาจอดเรียงกัน

หลังจากนั้นมีการพูดคุยกัน และท่าทีของแต่ละคนมีการเดินถือโทรศัพท์พูดคุยแยกกันไปคนละทางด้วย เวลาที่อยู่ในปั๊มประมาณ 30 นาที ก่อนที่ทุกคนจะขึ้นรถและขับออกจากปั๊มน้ำมัน มีการสังเกตด้วยว่าในภาพวงจรปิดนนี้มีชายปริศนาใส่เสื้อสีดำเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คน ซึ่งหากเทียบเวลาดู คลิปนี้เกิดขึ้นหลังจากที่กลุ่มคนในเหตุการณ์เดินทางไปที่อู่เรือ NBC

วันนี้ผู้สื่อข่าวได้ไปที่ปั๊มน้ำมันที่ปรากฏในคลิป อยู่บนถนนพระราม 5 ห่างจากอู่เรือ NBC ประมาณ 5 กิโลเมตร โดยผู้จัดการปั๊มให้ข้อมูลว่า ในคืนวันที่เกิดเหตุ ช่วงประมาณตี 2 ปกติจะมีเด็กปั๊มประจำการอยู่ 2 คน เด็กปั๊มเล่าให้ฟังว่าไม่ได้สังเกต เพราะตามปกติจะมีรถเข้าออกและจอดแวะพักต่อเนื่อง จึงไม่สามารถให้รายละเอียดใดๆ ส่วนคลิปจากกล้องวงจรปิด ตำรวจได้มาขอไปเมื่อหลายวันก่อนหน้านี้แล้ว

อีกคลิปที่ได้เห็นกันไปเป็นวงจรปิดขณะที่กระติกและโรเบิร์ตขึ้นจากเรือและเดินไปขอเข้าห้องน้ำของชาวบ้าน ในซอยพิบูลสงคราม 1 ซึ่งสังคมตั้งคำถามมากมายว่าขณะที่กระติกและโรเบิร์ตเดินไปขอเข้าห้องน้ำและเดินกลับมาที่โป๊ะ ก่อนจะเดินไปออกหน้าปากซอยได้ผ่านเจ้าหน้าที่กู้ภัย แต่ทั้งคู่ไม่ได้พูดให้ข้อมูลอะไรกับกู้ภัย

วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวไทยได้ไปดูบ้านหลังดังกล่าวที่กระติกและโรเบิร์ต ขอเข้าห้องน้ำ ซึ่งทางเจ้าของบ้านอนุญาตให้ทีมข่าวเก็บภาพบริเวณหน้าบ้านได้ แต่วันนี้คนที่อนุญาตให้กระติกและโรเบิร์ตเข้าห้องน้ำในคืนวันเกิดเหตุนั้นไม่อยู่บ้าน ออกไปทำงาน เลยไม่ได้พูดคุยสอบถามโดยตรง

ขณะที่ผู้ที่พักอาศัยในบ้านหลังดังกล่าวบอกกับทีมข่าวเพียงสั้นๆ ว่าภาพที่เห็นในคลิปวงจรปิดกับข่าวที่ออกไปตรงกันทุกอย่าง ซึ่งคนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นบอกว่าทั้งสองคนไม่ได้โศกเศร้าเสียใจแต่อย่างใด เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ขณะที่บรรยากาศบริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ยังมีแฟนคลับของแตงโม นำดอกไม้มาวางเพื่อไว้อาลัยตลอดทั้งวันจนจะเต็มโป๊ะ ซึ่งคนดูแลโป๊ะบอกว่าในแต่ละวันมีจำนวนหลายร้อยคน เพราะมีคนรักแตงโมมาก และคิดว่าเธอคงรับรู้ได้ว่าจริงๆ แล้วเธอไม่ได้ขาดความรัก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย