กรุงเทพฯ 4 มี.ค. – “ทนายษิทรา” เชื่อตำรวจให้น้ำหนักสภาพแผล “แตงโม” เกิดจากฟินเรือบาดหรือไม่ โดยหลังจากนี้อาจมีการจำลองเหตุการณ์เพิ่มเติม
ภายหลังจากเข้าให้ปากคำกับตำรวจราว 1 ชั่วโมงครึ่ง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ออกมาให้สัมภาษณ์ เมื่อเวลา 20.35 น. ยืนยันว่า ตำรวจสนใจประเด็นที่ตนเองเสนอ และได้บันทึกลงในสำนวน ทำให้เชื่อว่า หลังจากนี้อาจมีการจำลองเหตุการณ์เพิ่มเติม เพื่อพิสูจน์สภาพแผลของ “แตงโม” เกิดจากฟินเรือตามที่ตนเองสงสัยหรือไม่
ส่วนกรณีก่อนเข้าให้ปากคำ ที่ตนเองบอกว่า มีคนรับสารภาพในคดีนี้ นายษิทรา บอกว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิด ที่ตนเองทราบล่าสุดคือ ยังไม่มีใครรับสารภาพ โดยตำรวจได้สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก และบันทึกคำให้การ ทำสำนวนอย่างละเอียด ทำให้เชื่อว่าจะใช้เวลาในการปิดคดีนี้ไม่เกินครึ่งเดือน
สำหรับกรณีที่ “แม่แตงโม” บอกว่า จะเป็นผู้จัดการมรดก ส่วนตัวมองว่าเร็วเกินไป ควรให้คดีคลี่คลายก่อนว่า สรุปแล้ว “แตงโม” เสียชีวิตได้อย่างไร นอกจากนี้ การจะเป็นผู้จัดการมรดก ต้องขอคำสั่งศาล ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน แบบนี้ถือว่าตั้งตัวเองไปก่อน
ส่วนกรณี “แซน” ให้การว่า “แตงโม” จับขาก่อนตกเรือ จะเข้าข่ายประมาทด้วยหรือไม่ นายษิทรา ชี้แจงว่า ต้องดูจากคำให้การว่า หลังจากจับขามีปฏิกิริยาอย่างไร หาก “แตงโม” เป็นคนจับขาเองแล้วตกลงไป “แซน” อาจไม่เข้าข่ายความผิดเลยก็ได้ ซึ่งส่วนตัวมองว่า พยานในเหตุการณ์คงไม่ให้รายละเอียดที่ส่งผลร้ายต่อตัวเอง
ขณะเดียวกัน ข้อหาประมาท เป็นข้อหาเฉพาะบุคคล ไม่มีข้อหาร่วมประมาท จะเป็นต่างคนต่างประมาทเท่านั้น นั่นหมายความว่า พยานบนเรือไม่จำเป็นจะต้องถูกแจ้งข้อหาประมาทร่วมทั้งหมด
นายษิทรา ยืนยันอีกว่า ตนเองไม่มีทางรับเป็นทนายความให้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยเฉพาะฝ่ายของพยานทั้ง 5 คน เนื่องจากขณะที่มีการเข้าไปพูดคุยกัน “โรเบิร์ต” กับ “ปอ” เบือนหน้าหนี หลังไปฟันธงว่า ทั้งคู่จะถูกดำเนินคดี จึงมั่นใจว่าทั้งคู่ไม่พอใจตนเอง เพราะบางคนอยากได้ของหวานตามความรู้สึก แต่เมื่อตนเองเอายาขมเข้าไปก็รับไม่ได้. – สำนักข่าวไทย