ทนายชี้ คำให้การ “โบ TK” พลิกคดีได้

กรุงเทพฯ 4 มี.ค. – ทนายความชื่อดัง ระบุคำให้การของ “โบ TK” มีน้ำหนัก นำไปเป็นแนวทางสอบสวนได้ ส่วนทั้ง 5 คนที่ให้การไปก่อนหน้านี้ แม้พิสูจน์ได้ว่าให้การเท็จ ถือว่าไม่มีความผิด เพราะผู้ต้องหาจะให้การยังไงก็ได้


นายรณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวถึงการให้ปากคำของ โบ TK ในฐานะพยาน คดีการเสียชีวิตของแตงโม ภัทรธิดา เมื่อวานนี้ (3 มี.ค.) ว่า การให้การของโบ น่าสนใจมาก เป็นการพูดที่มีน้ำหนัก เพราะโบอยู่ในเหตุการณ์ เป็นคนที่ กระติก ติดต่อไปตั้งแต่แรก ยิ่ง โบ บอกว่า 5 คนบนเรือ พูดบิดเบือนจากสิ่งที่ตนเองรับรู้ในคืนเกิดเหตุ ยิ่งทำให้ตำรวจมีแนวทางสืบสวนจากพยานปากสำคัญ ซึ่งการออกมาให้สัมภาษณ์ของโบ เมื่อคืนนี้ คลายความสงสัย และข้อกังขาของคนในสังคม ที่ส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าแตงโมเดินไปปัสสาวะท้ายเรือ แต่ข้อเท็จจริงที่ว่าถูกบิดเบือนจะเป็นอย่างไรต้องรอดูสำนวนของพนักงานสอบสวน

เมื่อถามว่า การที่ทั้ง 5 คนบนเรือให้การ ไม่ตรงกับความเป็นจริง จะมีความผิดตามกฎหมายหรือไม่ ทนายรณรงค์ ระบุว่า การให้การอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อมูลข้อเท็จจริง ในทางกฎหมายก็ไม่ผิด เพราะผู้ต้องหา จะให้การยังไงก็ได้เพื่อให้ตนเองพ้นผิด ซึ่งสำหรับคดีนี้ มีความผิดปกติมากมาย โดยเฉพาะการเก็บพยานหลักฐานในคดี ซึ่งตามปกติแล้วต้องเก็บให้แล้วเสร็จภายใน 24 ชั่วโมงหรือ 12 ชั่วโมง แต่คดีนี้ กว่าจะรวบรวมพยานหลักฐานได้ ล่วงเลยเวลามานาน ซึ่งไม่เป็นไปตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แม้จะมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ออกมาบอกว่า พนักงานสอบสวนมีเวลารวบรวม พยานหลักฐาน ต่างๆ ได้ 3-6 เดือน ก็ตาม เพราะพยานหลักฐานที่จะเอาผิดได้ เป็นพยานหลักฐาน ที่ต้องเก็บภายใน 12 ชั่วโมงหรือ 6 ชั่วโมงแรกเท่านั้น เพราะตามกฎหมาย พยานหลักฐานที่ได้หลังจากนั้น มีสิทธิถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในมุมมองของนักกฎหมาย คิดว่าคดีนี้จะออกมาในรูปแบบไหน ทนายรณรงค์บอกว่า แนวโน้มคดีนี้อาจออกมาได้ 2 มุม คือ 1. เคยมีคดีในอดีต มีคนขับเรือออกไปในทะเลช่วงพายุเข้าปรากฏว่าเรือพลิกคว่ำเกิดเหตุคนตายขึ้น พนักงานสอบสวนฟ้องคนขับเรือประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ปรากฏว่าในชั้นศาล ๆมองว่าการที่เรือพลิกคว่ำเป็นเหตุสุดวิสัย จึงเป็นเหตุให้คนตาย ศาลชั้นต้นยกฟ้อง อุทธรณ์ยกฟ้อง ศาลฎีกาไม่รับพิจารณาคดีนี้ ซึ่งคดีนี้ ก็คล้ายกับคดีของแตงโม

  1. มีพยานหลักฐานที่ชี้ชัดว่าคดีนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุแต่เป็นคดีฆาตกรรม ที่มีการปิดบังการตาย ซึ่งเรื่องนี้ พิสูจน์ค่อนข้างยาก ถ้าถามตนว่าคดีนี้จะออกมาในทิศทางไหน สำหรับตนมองว่า ในคดีอาญา อาจเอาผิด ได้แค่คนเดียว ตนยังรู้สึกแปลกใจมาก กับการที่พนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหาเอาผิดถึง 2 คน ทั้งโรเบิร์ตและปอ เพราะถ้าดู ตามเนื้อในของกฎหมายแล้ว คำว่าประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องแสดงว่า คนๆ นั้น ต้องมีหน้าที่และละเลยในการทำหน้าที่ จนเกิดเหตุให้มีคนตาย คดีนี้ คนขับเรือ ที่ทำให้ แตงโม ตกเรือตาย จึงต้องมีเพียงคนเดียว เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนขับเรือในช่วงแตงโมพลัดตกเรือถึง 2 คน ดังนั้น สุดท้ายแล้วคดีนี้อาจเหลือ ผู้ต้องหาที่ถูกส่งฟ้องเพียงคนเดียว ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงคนที่ถูกส่งฟ้องในคดีอาญาคือโรเบิร์ต เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงวันนี้ มีเพียงโรเบิร์ตคนเดียวเท่านั้น ที่ไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ปอท. ตรวจมือถือ 5 คนบนเรือครบแล้ว

ส่วนการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือทั้ง 5 เครื่องของเพื่อนที่อยู่บนเรือแตงโม วันนี้ พันตำรวจเอก ศิริวัฒน์ ดีพอ โฆษก ปอท. ระบุว่า ได้ทำการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง เสร็จแล้ว และได้ส่งผลการตรวจ กลับไปให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา เพื่อนำไปประกอบสำนวน


มีรายงานว่าโทรศัพท์ที่ตรวจสอบมีทั้งหมด 5 เครื่อง 1 ใน 5 เป็น โทรศัพท์ของ “แตงโม” ส่วนอีก 4 เครื่อง เป็นของบุคคลที่อยู่บนเรือ การที่ตำรวจตรวจโทรศัพท์ ก็เพื่อหาข้อมูลหลักฐานว่า ก่อนและหลังเกิดเหตุ เจ้าของโทรศัพท์ ได้โทรติดต่อพูดคุยกับใครบ้าง รวมทั้งหลักฐานการบันทึกต่างๆ ในโทรศัพท์ เช่น ข้อความ หรือ ภาพถ่ายในแกลอรี่ เพื่อเป็นประโยชน์ทางคดี

กู้ภัยเผย ศพแตงโม โดนใบพัดแต่ไม่ถึงกับทำให้ตาย

นายอัญวุฒิ โพธิ์อำไพ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งเป็นทีมแรก ที่พบได้ร่างและเก็บกู้ร่าง แตงโม ภัทรธิดา นักแสดงสาว ให้ความเห็นในฐานะกู้ภัยที่มีประสบการณ์ในการเก็บกู้ศพ ผู้เสียชีวิตทางน้ำมาอย่างยาวนาน ว่า ศพลอยน้ำส่วนใหญ่ที่พบในแม่น้ำ และมีบาดแผลฉกรรจ์ หรือแผลใหญ่ จะเกิดจากการโดนใบพัดเรือ หรือหางเสือเรือ เช่น คดีพบชิ้นส่วนศพของน้องแป้งในแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนลักษณะบาดแผลของแตงโม ที่เกิดขึ้นบริเวณต้นขาซ้าย มองว่า บาดแผลดังกล่าว ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เสียชีวิต และโอกาสที่แตงโมอาจจะตกจากท้ายเรือ หรือ ข้างเรือ เป็นไปได้ทั้งนั้น ซึ่งความเห็นของตนก็เป็นเพียงการคาดการณ์จากประสบการณ์เท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]

พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล รมช.กห. เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session of Thailand […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]

มท.1 เด้งฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-รมว.มหาดไทย สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ก่อนประชุมมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย เหตุมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณดูแลประชาชนได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้มีการสั่งย้าย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท ส่วนจะย้ายชั่วคราว หรือถาวรน้้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เมื่อถามว่า จะรอผลสอบก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด โดยคำสั่งจะออกในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่าได้เดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย​ แต่ปฏิเสธที่จะแสดง​ความเห็น​ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน.-315.-สำนักข่าวไทย