ข้อสงสัย “แตงโม” พลัดตกเรือ

กรุงเทพฯ 28 ก.พ.-อุบัติเหตุ หรือความตั้งใจ ที่ทำให้ นักแสดงสาว “แตงโม” พลัดตกเรือ หลายคนยังคงมีข้อสงสัยคาใจมากมาย ไล่เรียงทีละประเด็น เงื่อนงำหลังพลัดตกเรือกลางแม่น้ำเจ้ายา ก่อนพบเสียชีวิตเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา


ผลชันสูตรเบื้องต้นจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ แพทย์ลงความเห็นว่า “แตงโม” เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ พบทรายจำนวนมากในปอด คาดว่าร่างจะจมไปถึงพื้นด้านล่างของแม่น้ำ บาดแผลภายนอกพบเพียงที่ต้นขาด้านซ้าย อยู่ระหว่างตรวจสอบ เป็นใบพัดเรือหรือไม่ สำหรับผลชันสูตรเรื่องแอลกอฮอล์และยาเสพติด คาดว่าจะทราบผลภายใน 3-7 วัน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าเป็นที่จับตามองของสังคมและในโซเชียล ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากมายกับ “อุบัติเหตุ” ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น เพื่อนที่นั่งเรือไปด้วยกันอีก 5 คน หายตัวไปไหน หลังจากเกิดเหตุ มีข้อสงสัยว่า ถึงไม่พบเห็นระหว่างปฏิบัติการค้นหา และพยายามปิดข่าวหรือไม่ เนื่องจากแม่ และคนใกล้ชิดของแตงโมทราบข่าวจากสื่อ


ด้าน นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ เจ้าของเรือ บอกว่า หลังรู้ว่าแตงโม ภัทรธิดา ตกจากเรือได้พยายามขับเรือวนหาและแจ้งกู้ภัย ยืนยันว่าไม่ได้หายไปไหน

เหตุใดการให้ข้อมูลของเพื่อนไม่มีความชัดเจน เกี่ยวกับจุดที่แตงโม พลัดตกจากเรือในตอนแรก โดยระบุเพียงว่า “ตกลงไปกลางแม่น้ำเจ้าพระยา” ทำให้การค้นหาของเจ้าหน้าที่เป็นการงมเข็มในมหาสมุทร การลำดับเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังแตงโม ตกจากเรือ ไม่มีความชัดเจน วกไปวนมา เหตุใดคนที่อยู่บนเรือถึงไม่รีบไปให้ปากคำทันทีหลังเกิดเหตุ แตงโมตกเรือ

ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “พี่ๆ นักข่าวโทรมาถามกันเยอะหลังจากผู้กำกับ สภ.เมืองนนทบุรี พูดถึงชื่อผมออกสื่อในคดีน้องแตงโม ภัทรธิดา ผมขอใช้พื้นที่ตรงนี้ชี้แจงสั้นๆ ว่าเพื่อนแตงโมประสานมาเพื่อปรึกษาจริง แต่ทราบว่าคุณปอมีทนายอยู่ก่อนผมแล้ว


คุณแม่ของแตงโม เผยกับสื่อว่า ผู้จัดการส่วนตัวแจ้งว่ามีการว่าจ้างแตงโมไปถ่ายภาพบนเรือ ซึ่งมีการตั้งข้อสงสัยในกรณีนี้ว่า เป็นการว่าจ้างงานลักษณะอย่างไร โดยกลุ่มเพื่อนของแตงโม ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ปกติถ้ามีงานแตงโม ภัทรธิดา จะพิมพ์แจ้งเพื่อนในกลุ่ม แต่ครั้งนี้ไม่ได้บอกอะไร โดยทางฝั่งของ “แอนนา” ยืนยันว่า แตงโม ไม่รับงานทานข้าวอย่างแน่นอน

โดยวันนี้ได้มีการเปิดเผยแชทไลน์ การชวนแตงโมไปร่วมลงเรือครั้งนี้ เพื่อเป็นการยืนยันว่า ไม่ได้หลอกให้ไปเอ็น ส่วนเรื่องไม่ใส่ชูชีพ เพราะมีการถ่ายรูปกันตลอด ถ้าใส่จะไม่สะดวก และยังมีประเด็นภาพในอินสตาแกรมของแตงโม ภัทรธิดา ถูกลบ จากเดิมมี 2,306 โพสต์ แต่ล่าสุดเหลือ 2,299 โพสต์ โดยมีการระบุว่าภาพที่ถูกลบเป็นภาพของกระติก (ผู้จัดการ) และลูกบุญธรรมของแตงโม รวมทั้งข้อสงสัยว่าโทรศัพท์ของแตงโมอยู่ที่ใคร

ประเด็นนี้ แอนนา เผยว่า “ไม่ทราบว่าใครเป็นคนลบ ทำไมต้องลบ ในเมื่อเป็นพื้นที่ส่วนตัวของแตงโม ภัทรธิดา จะต้องมีรหัสผ่าน ซึ่งผู้จัดการจะมีรหัสเข้า แต่ทราบว่ามือถือที่เป็นของกลาง ตอนแรกอยู่กับผู้จัดการ จนกระทั่งทราบจากแม่แตงโมว่า ได้รับโทรศัพท์กลับคืนมาแล้ว ซึ่งตอนนี้ได้นำมาให้พนักงานสอบสวน เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน”

อีกหนึ่งข้อสงสัย ที่หลายคนตั้งคำถาม หลังมีภาพปรากฏในโลกโซเชียล เป็นภาพแขนเสื้อของ “จ๊อบ” ขาด นั้น เจ้าตัวยอมรับว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพของตนเอง และยืนยันว่า เสื้อตัวดังกล่าวไม่ได้มีรอยขาดอย่างที่หลายคนคาดเดากัน ส่วนที่เห็นว่า เหมือนตนกำลังลากอะไรบางอย่างในน้ำ พร้อมกล่าวหาว่าอาจเป็นร่างของแตงโมหลังถูกทำร้ายนั้น จ๊อบชี้แจงว่า ปกติเรือแบบนี้ก่อนเข้าเทียบโป๊ะ จะต้องแขวนทุ่นไว้ไม่ให้ด้านข้างเรือถูกกระแทก และยืนยันว่าไม่ใช่ร่างแตงโม

มาถึงกรณีชุดบอดี้สูท เนื่องจากในวันเกิดเหตุ “แตงโม ภัทรธิดา” สวมใส่ “บอดี้สูท” สีชมพู ทับด้วยกระโปรงสีขาว และมีเสื้อโค้ทสีน้ำตาลใส่คลุมอีกตัวหนึ่ง โดย “แซน วิศาพัช” 1 ใน 6 คน ที่อยู่ในเรือลำเดียวกับแตงโม เล่าเหตุการณ์วันนั้นว่า ตนนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บริเวณด้านหลังของสปีดโบ๊ท แล้วแตงโม ภัทรธิดา ก็เดินมาท้ายเรือ เพื่อจะปัสสาวะ โดยแตงโมได้จับขา 2 ข้างของแซนไว้ จากนั้นก็เห็นแตงโม ตกเรือโดยพลิกด้านข้าง แต่ตนเองคว้าไม่ได้ ขณะที่ “กระติก” ได้อธิบายพร้อมกับยกตัวอย่าง ถ้าใครเคยใส่บอดี้สูทจะรู้ว่า สามารถแหวกข้างเพื่อปัสสาวะ หากปวดจริงๆ แต่ตนเองไม่รู้ว่าแตงโมทำแบบไหน

ซึ่งผู้ที่รู้จัก “บอดี้สูท” คงรู้กันดีว่าเป็นชุดที่ค่อนข้างจะถอดยาก และไม่สามารถถอดได้ในสถานที่โล่งแจ้ง จากประเด็นดังกล่าวทำให้ “บอดี้สูท” กลายเป็นที่สนใจว่าเป็นชุดแบบไหน มีลักษณะอย่างไร และคนที่สวมใส่ “บอดี้สูท” จะต้องทำอย่างไรเมื่อปวดปัสสาวะ

สำหรับ “บอดี้สูท” เป็นชุดรัดรูป คล้ายกับชุดว่ายน้ำวันพีซ บางรุ่นอาจจะเย็บเป้าแบบปิด ทำให้เวลาปวดหนัก-เบาจะเข้าห้องน้ำ ต้องถอดออกหมดทั้งตัว หรือหากดีไซน์ให้มีซิปหลัง ก็ยังต้องปลดจากด้านบนลงล่างอยู่ดี จึงจำเป็นต้องถอด-ใส่ในที่มิดชิดเท่านั้น แต่บางตัว บริเวณเป้าจะมีกระดุมแป๊ก หรือตะขอเกี่ยว เพื่อที่จะสามารถเปิดบริเวณเป้าของชุดได้ง่ายเมื่อต้องการเข้าห้องน้ำ ซึ่งแบบนี้ ทำให้ไม่ต้องถอดทั้งชุดตั้งแต่ด้านบนลงมา แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่สะดวกนักหากผู้สวมใส่ใช้บอดี้สูทควบคู่กับกางเกงชั้นใน เพราะหากเป็นเช่นนั้น ก็ยังต้องถอด-ใส่ในสถานที่มิดชิดเช่นในห้องน้ำอยู่ดี

ส่วนกรณี การตรวจสอบกล้องวงจรปิด บริเวณอู่ต่อเรือ เมื่อเวลา 01.10 น. วันที่ 25 ก.พ. หรือภายหลัง “แตงโม ภัทรธิดา” จมน้ำสูญหาย ทางกลุ่มเพื่อนๆ ที่อยู่บนเรือ เดินทางกลับมาด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน โดยมี “โบ TK” สุรัตนาวี สุวิพร นักร้องดังยุค 90 และ เพื่อนสนิทแตงโม ตามมาสมทบ คาดว่าเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ทาง “โบ TK” กระจายข่าวให้ “บีม ศรัณยู” ที่มีบ้านอยู่ริมน้ำช่วยออกตามค้นหา ก่อนที่เวลา 01.20 น.กลุ่มเพื่อนชุดที่ 2 ได้ขับรถยนต์เข้ามาที่อู่เรือ นำโดย “ฮิปโป” ฉันท์ชนะ ยิ้มสาย เพื่อนสนิท และ ผจก.อีกคน ซึ่งทางพนักงานสอบสวนจะต้องเชิญตัว โบ Tk และ ฮิปโป มาสอบปากคำอีกครั้ง

ล่าสุดฮิปโป เพื่อนสนิทและผู้จัดการของ แตงโม ออกมาเปิดเผยว่า ตนเองทราบเรื่องแตงโมตกน้ำจากแอนนาตอน 5 ทุ่ม ก็รีบขับรถออกจากบ้านไป ระหว่างทางก็โทรศัพท์หากระติก แต่กระติกไม่รับสายเลยโทรหาแม่แตงโม ขับรถไปหาที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ตอนตีหนึ่ง ซึ่งได้เจอนุชช่างแต่งหน้าแตงโม ที่แจ้งว่าเบิร์ดแฟนแตงโมส่งโลเคชันให้ จึงส่งข้อความไปในกรุ๊ปที่มีกระติกด้วย กระติกอ่านแต่ไม่ตอบ

เมื่อฮิปโปไปถึงท่าเรือ (พิบูลสงคราม 1) ที่เบิร์ดอยู่ด้วย ฮิปโปอยู่ที่ท่าเรือนั้นประมาณ 10 นาที จากนั้นกระติกส่งข้อความมาแจ้งในไลน์ว่าอยู่ที่อู่จอดเรือ ให้ฮิปโปและเพื่อนๆ มาหา ฮิปโปและนุชก็เลยนั่งรถไปหาที่อู่จอดรถ แต่เบิร์ดแฟนแตงโมไม่ได้ไปด้วย เพราะขี่มอเตอร์ไซค์ไปที่ท่าเรือสะพานพระราม 5 เพราะมีคนแจ้งว่าเจอผู้หญิงขึ้นมาจากน้ำ เบิร์ดก็เลยเป็นห่วงทางนั้น ส่วนฮิปโปมาที่อู่ต่อเรือตามภาพที่ปรากฏเมื่อไปถึง ก็เจอแซน ปอ โรเบิร์ต จ๊อบ แต่ไม่เจอกระติก แต่พอบอกว่าตัวเธอคือผู้จัดการส่วนตัวกับแตงโม จึงสามารถเข้าไปพูดคุยกับกระติกได้

ตอนนั้นกระติกบอกว่าแตงโมตกน้ำเพราะไปปัสสาวะ พร้อมบอกให้ฮิปโปกลับไปรอที่บ้าน ฮิปโป จึงไปหาเบิร์ดที่สะพานพระราม 5 ซึ่งจุดสะพานพระราม 5 แอนนามาสมทบ รออยู่ท่าเรือประมาณ 03.30 น. จึงเห็นในไลฟ์ว่าแม่แตงโมมาถึงที่ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ก็เลยตามไปหา ยืนยัน ไม่ได้บอกให้แม่ปิดข่าว แต่บอกกับแม่ว่า อย่าเพิ่งให้สัมภาษณ์ใดๆ แม่พูดมาคำหนึ่งว่าให้แม่ปิดข่าวทำไม ตนมองว่ามันคนละเรื่องเลยนะ ที่บอกไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ เพราะแม่ยังไม่รู้ข้อเท็จจริง จากข้อมูลที่หนูรู้ ไม่ได้บอกว่าให้แม่ปิดข่าว แต่แม่ต้องมารับทราบข้อมูลที่หนูทราบก่อน ว่าหนูไปคุยกับพี่กระติกได้เรื่องอย่างไรบ้าง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

รวบเจ้าของหอพักโหดย่านรังสิต ข้อหากรรโชกทรัพย์

ปทุมธานี 28 พ.ค. – ตำรวจปทุมธานี บุกรวบเจ้าของหอพักย่านรังสิต พร้อมครอบครัว ข้อหากรรโชกทรัพย์ หลังมีนักศึกษาแจ้งความร้องทุกข์ว่า เจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกาย ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจปทุมธานี นำหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ลงวันที่ 27 พ.ค. ในข้อหากรรโชกทรัพย์ เข้าจับกุม พ.ต.อ.พูลศักดิ์ อายุ 64 ปี นางพัชรียา อายุ 56 ปี และนางสาวพูลชนก อายุ 28 ปี ที่หอพักใน 7 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี จากกรณีมีนักศึกษากว่า 20 ราย เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต และเจ้าหน้าที่ สคบ. ว่าเจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกายนักศึกษา ยึดเอกสารหลักฐานทางราชการ ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน บางจังหวะการจับกุมจะเห็นได้ว่ามีการโต้เถียงกันและมีการขัดขืน แต่สุดท้ายต้องยอมจำนนต่อหมายจับ พล.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า ตำรวจขอหมายจับจากศาลไป 3 […]

คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสี อบต.เกาะสะท้อน อส.-ครู เจ็บ 4

นราธิวาส 28 พ.ค. – คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสีต้านยาเสพติด อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้อาสาสมัครรักษาดินแดนบาดเจ็บ 3 คน ครูบาดเจ็บ 1 คน ส่วนเหตุคนร้ายยิงใส่ป้อมหน้า สภ.จะแนะ ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย เจ็บ 1 นาย เจ้าหน้าที่เร่งไล่ล่าคนร้าย คนร้ายชุดสีดำเดินถือปืนเข้ามาในลานกีฬาเซปักตะกร้อ งานแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด อบต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จากนั้นรัวยิงชุดแรก 4 นัด คนที่ร่วมแข่งขันพากันวิ่งหลบหนี จากนั้นคนร้ายรัวยิงอีก 3 นัด ซึ่งภาพหลุดจากวิถีกล้องไปแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่และหน่วยงานความมั่นคงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ 4 คน ประกอบด้วย 1.นายสุกรี ครูโรงเรียนบ้านเกาะสะท้อน 2.อาสารักษาดินแดนฮัมดานุดดีน 3.อาสารักษาดินแดนมุสลิม และนายไซนุดดิน ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลตากใบ สอบสวนทราบว่าคนร้าย 6 คน ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ 3 คัน ขี่เข้ามาโดยปะปนกับประชาชน และก่อเหตุยิงผู้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดจนมีผู้บาดเจ็บ หลังเกิดเหตุนายอำเภอตากใบลงพื้นที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บ […]

นายกฯ ยกหูคุย “ฮุน มาเนต” คลี่คลายเหตุปะทะชายแดน

รัฐสภา 28 พ.ค.- นายกฯ รับทราบเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เผยยกหูคุยตรง “นายกฯ ฮุน มาเนต” ให้สถานการณ์คลี่คลายเร็วที่สุด ปัดตอบกรณี “ทักษิณ” ประกาศสงครามกับว้าแดง-สถานการณ์ใต้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ในเวลา 17.40 น. ถึงสถานการณ์ชายแดนไทยไทย-กัมพูชา บริเวณด่านช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่า ได้รับรายงานแล้ว และจะมีการพูดคุยกันของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ส่วนตนเองได้พูดคุยกับกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งเดี๋ยวก็คงมีข้อตกลงกันออกมา ขณะเดียวกัน ตนเองก็ได้มีการพูดคุยกับ พลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วย ไม่มีอะไร ซึ่งมีความเข้าใจตรงกันว่าจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงโดยเร็วที่สุด และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อีก ส่วนจะมีการใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีสองประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของตนเองกับนายกฯ กัมพูชา ก็เป็นไปได้ด้วยดี เมื่อถามว่า กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศสงครามกับว้าแดง เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด รัฐบาลมีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่ะ ส่วนเหตุการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ในวันนี้ […]

ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคาม หลังพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดน

กองทัพอากาศ 28 พ.ค.- ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคามต่อประเทศ หลังตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.03 น. กองทัพอากาศได้สั่งการให้เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 เครื่อง จากหน่วยบิน กองบิน 4 ปฏิบัติภารกิจการบินป้องกันทางอากาศ วิ่งขึ้นจากสนามบินตาคลี หลังหน่วยควบคุมอากาศยานและแจ้งเตือน ตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เครื่องบินต้องสงสัยลำดังกล่าว เป็นอากาศยานสมรรถนะสูงแบบ YAK-130 มีทิศทางบินมุ่งเข้าสู่เขตแดนไทยในระยะใกล้ กองทัพอากาศ จึงสั่งการบินพิสูจน์ทราบและแสดงท่าทีป้องปราม ตามมาตรการปกติ เพื่อเฝ้าระวังและยืนยันสถานการณ์ จากการติดตามพบว่า เครื่องบินดังกล่าวได้เปลี่ยนทิศทางและออกจากเขตใกล้ชายแดนไทย ในเวลา 13.16 น. โดยไม่แสดงพฤติกรรมรุกราน หรือมีเจตนาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศแต่อย่างใด “กองทัพอากาศ ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจปกติในการเฝ้าระวังป้องกันน่านฟ้า ซึ่งกองทัพอากาศดำเนินการอย่างเข้มแข็งและสม่ำเสมอ เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ สร้างความปลอดภัย และความมั่นใจให้แก่ประชาชน” โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว ทั้งนี้ […]