“จ็อบ” นั่งทานอาหารใกล้ “แตงโม”

นนทบุรี 28 ก.พ.-ร้านอาหาร ที่แก๊งเพื่อนแตงโมไปกินวันเกิดเหตุ เผย “ไฮโซปอ” เป็นคนโทรจองโต๊ะ โดย “แตงโม” นั่ง กินอาหารข้าง “จ๊อบ”

“ครัวบ้านตานิด” ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จ.ปทุมธานี เป็นร้านอาหารที่กลุ่มของนายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ เจ้าของเรือสปีดโบ๊ทลำเกิดเหตุ เข้ามารับประทานอาหารค่ำ โดยข้อมูลจากร้านอาหารระบุว่า นายปอ โทรศัพท์จองโต๊ะในช่วงสายวันเกิดเหตุ และเดินทางด้วยเรือสปีดโบ๊ทมาถึงร้านเวลาประมาณ 18.30 น.


นางสาววิชิตา โพธิ์อยู่ พนักงานร้านอาหารครัวบ้านตานิด บอกว่า ได้เตรียมโต๊ะยาวไว้ให้ลูกค้ากลุ่มนายตนุภัทร แต่ลูกค้าอยากนั่งใกล้ริมน้ำ จึงต่อโต๊ะจัดเก้าอี้ให้ โดยในกลุ่ม 6 คนที่มาด้วยกัน มีนายตนุภัทร หรือปอ และนายไพบูลย์ ศรีกาญจนานันท์ หรือเบิร์ด ที่เคยมารับประทานอาหารที่ร้านประมาณ 2-3 เดือน/ครั้ง ส่วนคนอื่นไม่เคยเห็น และตอนแรกไม่รู้ว่าแตงโม มากับกลุ่มดังกล่าวด้วย เพิ่งรู้ตอนคิดเงิน ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่าเป็นแตงโม

นางสาววิชิตา กล่าวว่า ต่อโต๊ะหันด้านข้างเข้าแม่น้ำเจ้าพระยา นั่งได้ข้างละ 3 คน โดยด้านทิศเหนือโต๊ะ ฝั่งติดแม่น้ำเจ้าพระยา มีแตงโม นั่ง ถัดมาตรงกลางเป็นนายนิทัศน์ หรือจ๊อบ ถัดมาเป็นนายไพบูลย์ ศรีกาญจนานันท์ หรือเบิร์ด ส่วนอีกด้านของโต๊ะ มีนางสาวอิจศิรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หรือกระติก นั่งตรงข้ามแตงโม ตรงกลางเป็นนางสาววิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือแซน นั่งตรงข้ามนายจ๊อบ ถัดมาเป็นนายตนุภัทร หรือปอ นั่งตรงข้ามนายเบิร์ด โดยนายปอ จะเป็นคนที่สั่งอาหารหลายรายการ


นางสาววิชิตา บอกว่า จากเวลาประมาณ 18.30-20.10 น.ที่ทั้ง 6 คนนั่งรับประทานอาหารในร้าน มีการพูดคุยกันปกติ เสียงไม่ดัง และเนื่องจากให้ความเป็นส่วนตัวต่อลูกค้า จึงเดินไปที่โต๊ะเพียงแค่เติมน้ำ เครื่องดื่มให้ ซึ่งตอนเดินไปเก็บจานที่โต๊ะ แตงโม ชมว่า “อาหารอร่อยมากคะ” มีพนักงานอีกคนชมว่าแตงโมสวย แตงโมตอบกลับทำนองว่า “สวยด้วยแพทย์”. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย