กรุงเทพฯ 28 ก.พ. – สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดรับแจ้งความคดีออนไลน์ทางมือถือ เริ่มพรุ่งนี้ (1 มี.ค.) ระดมพนักงานสอบสวนกว่า 10,000 นายนายทำคดี พร้อมทำบันทึกข้อตกลงกับ 21 สถาบันการเงิน มั่นใจสามารถระงับเงินเหยื่อได้ก่อนคนร้ายจะกดออกจากบัญชี
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เป็นประธานเปิดศูนย์รับแจ้งความออนไลน์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี และทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง ตร. กับสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ สมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิก รวม 21 ธนาคาร ในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร., ผู้แทนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, กสทช., ปปง., ธนาคารแห่งประเทศไทย, เครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ และสมาคมพนักงานสอบสวน เข้าร่วม
พล.ต.อ.สุวัฒน์ เปิดเผยว่าโครงการระบบรับแจ้งความออนไลน์อาชญากรรมทางเทคโนโลยีทำให้ประชาชนเข้าถึงตำรวจได้ง่ายขึ้น ด้วยการแจ้งความทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com ผ่านคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์สมาร์ทโฟน โดยลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตน กรอกข้อมูลทางคดี ตามขั้นตอนจนเสร็จ ผู้แจ้งจะได้รับ “เลขรับแจ้งความออนไลน์ หรือ Case ID” เช่น 65021 จะมีผู้บริหารการรับแจ้ง (Admin) และผู้บริหารคดี (Case Manager) วิเคราะห์ข้อมูล และส่งเรื่องต่อไปยังสถานีตำรวจที่ผู้แจ้งสะดวกในการเดินทางไปแจ้งความ โดยสถานีตำรวจที่ได้รับเรื่องจะเริ่มกระบวนการสืบสวนในทันทีที่ได้รับข้อมูลจากระบบรับแจ้งความออนไลน์
ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า เมื่อ Admin ของสถานีตำรวจรับเรื่องแล้ว ก็จะนำเสนอผู้บริหารคดี เพื่อจ่ายคดีให้แก่พนักงานสอบสวนทำการโทรนัดหมายผู้แจ้ง หรือผู้เสียหายมาสอบปากคำ และรายงานความคืบหน้าทางคดีในระบบออนไลน์ โดยผู้เสียหายจะสามารถติดตามความคืบหน้า ส่งข้อมูลเพิ่มเติม หรือสอบถามปัญหาผ่านระบบได้ตลอดเวลา
ทั้งนี้ ในคดีอาชญากรรมทางออนไลน์ ประชาชนก็ยังสามารถไปแจ้งความโดยตรงได้ทุกสถานีตำรวจที่ท่านสะดวก แม้สถานีตำรวจนั้นจะไม่มีอำนาจการสอบสวน ก็จะส่งเรื่องต่อไปยังสถานีตำรวจที่มีอำนาจการสอบสวนต่อไป โดย ตร. คาดหวังว่า ประชาชนจะได้รับความสะดวกมากขึ้น มีการนัดหมายล่วงหน้า ไม่ต้องไปรอคิวที่สถานีตำรวจ ไม่ต้องให้การในเรื่องเดิมซ้ำหลายครั้ง และสามารถร้องขอให้ธนาคารระงับธุรกรรมทางการเงินได้อย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เงินของผู้เสียหายถูกโอนไปยังเครือข่ายของคนร้าย และเจ้าหน้าที่เองก็จะได้รับประโยชน์กรณีผู้ต้องหากระทำความผิดหลายท้องที่ เนื่องจากสามารถเชื่อมโยงคดี มีข้อมูลที่สามารถขอศาลออกหมายจับได้ง่ายขึ้น
ผบ.ตร. กล่าวว่า ตร.ได้ปรับปรุงพัฒนาและทดสอบระบบจนสามารถใช้การได้เป็นอย่างดี โดยจะเริ่มเปิดใช้งานจริงในวันที่ 1 มี.ค.65 นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการจัดฝึกอบรม Admin และผู้บริหารคดีทั่วประเทศ จำนวน 8,383 นาย พนักงานสอบสวน 10,487 นาย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนอีก 12,305 นาย รวมผู้เข้ารับการอบรมทั้งสิ้น 31,175 นาย รวมทั้งมีการทดสอบความรู้หลังการฝึกอบรม เพื่อให้มั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ทุกนายจะสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เราได้จัดพิธีทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง ตร. กับสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ สมาคมธนาคารไทย และ 21 ธนาคารสมาชิก ในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยให้ศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ของ ตร. เป็นศูนย์กลางในการร่วมกันกำหนดแนวทางติดตามเส้นทางการเงินของคนร้ายและเครือข่าย เพื่อป้องกันมิให้คนร้ายโอนเงินต่อเป็นทอดๆ ไปยังกลุ่มเครือข่าย รวมถึงกำหนดรูปแบบและวิธีการรับส่งข้อมูลผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ปลอดภัย และหากคดีมีความเชื่อมโยงกับบัญชีหลายธนาคาร ก็จะมีคณะทำงานย่อยร่วมกันเพื่อให้การสืบสวนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว นอกจากนี้จะมีการกำหนดรูปแบบในการประชาสัมพันธ์เตือนภัยถึงพฤติการณ์ในรูปแบบต่างๆ ของคนร้าย และแลกเปลี่ยนเทคนิค ข้อมูลความรู้ระหว่างเจ้าหน้าที่ เพื่อให้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เป็นอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น. -สำนักข่าวไทย