คนดูแลเรือยันเรือมีเสื้อชูชีพ คาดดาราสาวอาจไม่ได้ใส่

นนทบุรี 25 ก.พ.- ยังไร้วี่เเววผ่านไปกว่า 18 ชั่วโมงของการค้นหา “แตงโม” นักแสดงสาวที่พลัดตกสปีดโบ๊ท ขณะที่ พฐ.เข้าตรวจสอบเรือลำที่เกิดเหตุแล้ว ด้านคนดูแลเรือเผยบนเรือมีทั้งหมด 6 คน ยันเรือมีชูชีพ คาดดาราสาวอาจไม่ได้ใส่


หลังเกิดเหตุการณ์ แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ ดารานักแสดงชื่อดัง พลัดตกจากสปีดโบ๊ทกลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม 1 ใกล้สะพานพระราม 7 เมื่อช่วง 22.40 น. ตลอดทั้งคืนทั้งกู้ภัย ตำรวจ และชุดประดำน้ำ พยายามช่วยกันเร่งค้นหานักแสดงสาว โดยมีความหวังว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ โดยเฉพาะแม่ของแตงโม ยืนยันว่าลูกสาวว่ายน้ำแข็งตั้งแต่สมัยวัยรุ่น

ส่วนชาวบ้านที่อยู่ละแวกนั้นและเห็นเหตุการณ์ ที่มีเรือวนค้นหาคนจมน้ำ ยอมรับตอนนั้นไม่คาดว่าเรือที่เห็นวนอยู่หลายรอบ พร้อมตะโกนเรียกหาคนชื่อโม จะเป็นแตงโม นักแสดงสาวคนดัง


ส่วนการปฏิบัติการงมหา แตงโม นิดา ตกเรือสปีดโบ๊ท กู้ภัยช่วงเช้าใช้วิธีเรียงแถวหน้ากระดานไล่หาจากกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เข้ามายังฝั่งพร้อมแรกทีมเป็น 2 ชุด ชุดแรกไปทางสะพานซังฮี้ อีกชุดลงไปทางนนทบุรี อุปสรรคสำคัญคือ พิกัดจุดตกจากเรือที่ไม่แน่ชัด เพื่อนของแตงโมยังให้ข้อมูลไม่แน่นอน ทำให้การดำน้ำลงไปเป็นไปอย่างยากลำบาก ส่วนกระแสน้ำเช้านี้ยังไม่เป็นอุปสรรค ทางกรมเจ้าท่านำเรือ 2 ลำ มาปิดการจราจรทางน้ำ ให้เรือไปวิ่งสวนกันอีกฝั่ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทำงานง่ายขึ้นเนื่องจากแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำลึก 17-20 เมตร

นายปิยะลักษณ์ ปิ่นแก้ว หัวหน้าชุดปฏิบัติการทางน้ำมูลนิธิร่วมกตัญญู กล่าวหลังกลับจากปฏิบัติการค้นหาตามลำน้ำเจ้าพระยาว่า ทีมค้นหาต้องปรับแผน และบูรณาการร่วมกันกับ ปภ. กองทัพเรือ และกู้ภัยทางน้ำอาสาสมัคร พร้อมเปรียบเทียบหากคนตกน้ำ ช่วง 2 ชั่วโมงแรกคนจะเหมือนก้อนหินจะจมอยู่กับที่ แต่หากหลัง 8 ชั่วโมงร่างจะอิ่มน้ำ กระแสน้ำสามารถพัดพาร่างคนที่จมไปได้ไกลถึง 10 กิโลเมตร และวันนี้กระแสน้ำไหลขึ้นไปทางทิศเหนือ ทำให้ต้องค้นหาตามกระแสน้ำ เพราะหลังเกิดเหตุ 12 ชั่วโมง มีความเป็นไปได้ว่าร่างอิ่มน้ำพอสมควร

ขณะที่ช่วงบ่ายมีการปรับแผนค้นหาด้วยวิธีปูพรมตามผิวน้ำ ตั้งแต่จุดเกิดเหตุ สะพานพระราม 7 ไปถึงสะพานพระราม 5 มีกรอบระยะทาง 10 กิโลเมตร จากจุดเกิดเหตุแบ่งเป็น 3 ชุด คือ กลางลำน้ำ และขยับเข้าใกล้ตลิ่ง และริมตลิ่ง แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าจุดเกิดเหตุคือจุดใดกันแน่ ส่วนก่อนหน้านี้ที่มีกระแสข่าวว่าพบร่างมนุษย์ลอยอยู่ใต้สะพานพระราม 5 ทีมกู้ภัยทางน้ำได้แล่นเรือเข้าตรวจสอบแล้ว ยืนยันไม่พบร่างมนุษย์แต่อย่างใด


ด้านชุดพิสูจน์หลักฐานนนทบุรี พล.ต.ต.หญิง ชุติมา ชัยมุสิก ผบก.สพฐ.1 นำทีมพิสูจน์หลักฐานตำรวจนนทบุรี เข้าตรวจสอบสปีดโบ๊ทที่แตงโมและเพื่อนนั่งไปด้วย เพราะไม่พบในจุดเกิดเหตุ และมารู้ภายหลังว่านำไปจอดไว้ในโรงเก็บเรือแห่งหนึ่งใกล้ท่าเรือข้ามฟากบางศรีเมือง อำเภอเมืองนนทบุรี เป็นการตรวจหาหลักฐานบนเรือ ซึ่งพบแก้วใส่ไวน์ถูกใช้แล้ววางอยู่บนเรือ 1 ใบ และขวดน้ำเปล่าที่ยังไม่ได้เปิดจำนวนหนึ่ง

ส่วนนายสุรัติ หรือหรั่ง สกุลสัน คนดูแลโรงจอดเรือให้ข้อมูลว่า กลุ่มนักเเสดงสาวเเตงโมมากันทั้งหมด 6 คน เป็นชาย 3 หญิง 3 และหญิง 1 ในกลุ่ม ได้นำเรือออกไปจากโรงเก็บช่วง 16.00 น. แล้วล่องเรือขึ้นไปทางปทุมธานี หลังจากนั้นก็ล่องกลับเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ กระทั่งใกล้ 22.00 น.ที่ต้องนำเรือเข้ามาเก็บตามข้อกำหนดของโรงเก็บ ได้มีคนมาแจ้งว่า 1 ในกลุ่มที่นำเรือออกไป ทางเจ้าของเรือได้ให้เรือเล็กออกช่วยค้นหาแต่ไม่พบ นายหรั่งกล่าวเพิ่มเติมว่า ปกติเรือลำนี้เจ้าของเรือนำออกไปใช้งานทุกอาทิตย์ โดยมีกลุ่มเพื่อนสลับหมุนเปลี่ยนไม่ซ้ำกัน บางครั้งก็มีผู้ใหญ่แต่ไม่เคยรู้ว่าเป็นใคร เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวเขา ส่วนเรื่องความปลอดภัยในเรือ ยืนยันว่ามีเสื้อชูชีพติดไว้ตลอด คาดดาราสาวน่าจะไม่ได้ใส่

ทั้งนี้ ผู้ดูแลเรือให้ข้อมูลเพิ่มว่า ตอนอยู่ในเรือขากลับ แตงโม เกิดปวดท้องเบา จึงเดินไปถ่ายเบาท้ายเรือแทน เนื่องจากห้องน้ำบนเรือเสีย ซึ่งเป็นเรื่องปกติของคนโดยสารเรือประเภทนี้ในกรณีที่ปวดเบา แต่ระหว่างแตงโมเดินไปท้ายเรือนั้นไม่ได้บอกคนขับเรือให้เบาเครื่อง คนขับเรือจึงขับไปตามปกติ คาดว่าแตงโมอาจพลัดลื่นตกจากเรือลงไปในช่วงเวลานั้น และเป็นช่วงก่อนถึงสะพานพระราม 7.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พิธีสืบพระชะตาหลวง

รัฐบาลจัดยิ่งใหญ่ พิธีสืบพระชะตาหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล

รัฐบาลจัดพิธีสืบพระชะตาหลวงและพิธีแห่ไม้ค้ำโพธิ์หลวง อย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีสมมงคล

เรือใบคาตามารันพร้อม 38 ชีวิต ล่มทะเลภูเก็ต

เรือใบคาตามารันล่ม ขณะนำนักท่องเที่ยวพร้อมลูกเรือรวม 38 ชีวิต ออกไปดำน้ำบนเกาะราชา จ.ภูเก็ต ล่าสุดทุกคนได้รับการช่วยเหลือกลับเข้าฝั่งปลอดภัย

น้ำค้างแข็ง

หนาวสะท้าน จ.เลย แม่คะนิ้งเกาะหลังคารถ-ยอดหญ้า

หนาวสะท้าน จ.เลย แม่คะนิ้งเกาะหลังคารถ-ยอดหญ้า ขณะที่พื้นราบหนาวไม่แพ้กัน อุณหภูมิลดเหลือ 6-7 องศาฯ ส่วนที่พิษณุโลก บ้านร่องกล้า อุณหภูมิยอดหญ้าลบ 2 องศาฯ และที่บึงกาฬ ความหนาวกระทบวิถีชาวบ้าน ลมแรงทำไฟไหม้บ้าน