ระดมกำลังเร่งค้นหา “แตงโม นิดา” พลัดตกแม่น้ำเจ้าพระยา

นนทบุรี 25 ก.พ. – เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเร่งค้นหา “แตงโม นิดา” หลังพลัดตกแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าเรือพิบูลสงคราม จ.นนทบุรี ขณะล่องเรือสปีดโบ๊ทกับกลุ่มเพื่อน


เมื่อเวลา 22.00 น. วานนี้ (24 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เข้าตรวจสอบเหตุหญิงสาวตกน้ำสูญหายในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใกล้เคียงท่าเรือพิบูลสงคราม จ.นนทบุรี ซึ่งอยู่ใกล้กับสะพานพระราม 7 พบเรือสปีดโบ๊ทลำหนึ่ง ภายในเรือมีชายและหญิงประมาณ 3-4 คน กำลังช่วยกันล่องเรือตามหาผู้สูญหาย ขณะเดียวกัน มีการใช้เจ็ตสกีเข้าร่วมค้นหาด้วยจำนวนหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ “บีม ศรัณยู” ดาราหนุ่มที่เคยเป็นข่าวโพสต์ภาพคู่กับใบกระท่อม จนถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ มาร่วมค้นหาผู้สูญหายในบริเวณดังกล่าวด้วย

จากการสอบถามผู้แจ้งเหตุ จึงทราบว่าผู้สูญหาย คือ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ “แตงโม” ดาราสาวชื่อดัง โดย “แตงโม” และกลุ่มเพื่อนได้ล่องเรือสปีดโบ๊ทในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่ง “แตงโม” นั่งอยู่ที่ท้ายเรือ ก่อนจะพลัดตกลงไปกลางแม่น้ำ กลุ่มเพื่อนจึงวกเรือกลับไปหา แต่ไม่พบตัว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยค้นหา ทั้งนี้ มีชาวบ้านที่อยู่ในจุดดังกล่าวได้ยินเสียงคนร้องเรียก ก่อนที่จะเงียบหายไป


จากนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจากหลายหน่วยงาน ได้นำเรือและเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำช่วยค้นหา โดยใช้วิธีงมสแกนพื้นที่ตลอดลำน้ำ จนกระทั่งเวลา 02.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำ เปิดเผยถึงรายละเอียดการค้นหาดาราสาวว่า จากการตรวจสอบพบว่า แม่น้ำเจ้าพระยามีความลึกประมาณ 16 เมตร จึงแบ่งนักประดาน้ำ ซึ่งมีทั้งหมด 30 นาย ออกเป็น 4 ทีม โดยต้องทำงานแข่งกับเวลาและแข่งกับกระแสน้ำ เนื่องจากในช่วงตี 4 เป็นช่วงที่น้ำลง ซึ่งกระแสน้ำจะไหลแรงและเปลี่ยนทิศทาง และจะกลายเป็นอุปสรรคต่อการค้นหา

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้วางทุ่นจากฝั่งด้านสะพานพระราม 7 มุ่งหน้าไป จ.นนทบุรี โดยใช้สายยืดกั้นข้างละ 6-8 เมตร ทั้งฝั่งขวาและซ้าย จำนวน 2 ทุ่น โดยมีความยาวช่วงละ 100 เมตร จากนั้นช่วยกันงมค้นหาทีละช่วง โดยใช้เวลาช่วงละประมาณ 20 นาที หากไม่เจอก็จะขยับแนวค้นหาอีกครั้ง และจะวางแผนการค้นหาใหม่ ขณะนี้กระแสน้ำขึ้นจนใกล้นิ่งแล้ว หากน้ำนิ่งจะง่ายกับการทำงาน แต่ถ้าน้ำเปลี่ยนทิศทาง เราต้องเปลี่ยนทิศทางการค้นหาใหม่ทั้งหมด ดังนั้นจึงต้องเร่งค้นหาให้พบภายใน 2 ชั่วโมง

ต่อมา “เปิ้ล” นาคร ศิลาชัย ดารานักแสดง เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ พร้อมกับ “จูน กษมา” ภรรยา โดยเมื่อมาถึงได้ลงขับเจ็ตสกีเพื่อช่วยตามหา “แตงโม” ทันที ก่อนที่ “เปิ้ล นาคร” จะให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตนคุ้นเคยกับแม่น้ำเส้นนี้เป็นอย่างดี เพราะใช้ชีวิตอยู่แถบนี้มาตลอด ถ้าน้องแตงโมสวมเสื้อชูชีพก็ไม่น่าจะเป็นอะไรมาก เพราะคงจะลอยตามน้ำไปเกาะที่ไหนสักแห่งได้ และยิ่งถ้ามีสติด้วยก็ไม่น่าห่วงมาก แต่ถ้าในทางกลับกันก็น่ากังวลไม่น้อย เพราะกระแสน้ำขึ้นสูงและค่อนข้างไหลแรงพอสมควร


กระทั่งเวลาประมาณ 03.45 น. นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของ “แตงโม” เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ หลังได้รับทราบข่าวจากพี่เลี้ยงแตงโมว่า ลูกสาวพลัดตกสปีดโบ๊ท โดยเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนรู้สึกคิดถึงลูกเป็นอย่างมาก เหมือนเป็นลางบอกเหตุ ทั้งนี้ ลูกว่ายน้ำได้ แต่คงสู้ความกว้างของแม่น้ำไม่ไหว แปลกมากที่ผู้จัดการลูก ซึ่งไปด้วยกัน ไม่ยอมติดต่อกลับมา แถมเรือสปีดโบ๊ทลำที่ “แตงโม” นั่งไปด้วยก็หนีไปแล้ว สุดท้ายอยากบอก “แตงโม” ว่า อย่าทิ้งแม่ไป

ล่าสุดอเวลา 05.40 น. เจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำยังคงค้นหาอย่างต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็น 2 ทีม ใช้เรือ 2 ลำ ใช้เวลาค้นหาประมาณ 20 นาที จากนั้นกลับมาเปลี่ยนทีมใหม่ลงไปค้นหาต่อ และมีทีมเจ็ตสกีอีก 4-5 ลำ ออกค้นหาตามริมฝั่ง บริเวณใกล้จุดเกิดเหตุ โดยทางชุดประดาน้ำเผยว่า น้ำด้านล่างเริ่มไหลแรงขึ้น ทำให้ทำงานลำบากขึ้น แต่ยังคงค้นหากันต่อไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]