กรุงเทพฯ 22 ก.พ. – ตำรวจภูธรภาค 8 เชิญหน่วยงาน ผู้ประกอบการ วางแนวทางการใช้ “สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า” จังหวัดภูเก็ต เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและสอดคล้องกับบรรยากาศการท่องเที่ยว
หลังกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมออนไลน์ในวงกว้างถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง จับกุมและออกใบสั่งผู้ขับขี่รถสกู๊ตเตอร์ ในข้อหา “นำรถที่ไม่ได้จดทะเบียนและเสียภาษีมาใช้ในทาง และไม่มีใบอนุญาตขับรถฯ ” อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 6 ปรับไม่เกิน 10,000 บาท และมาตรา 64 จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท ฐานขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถและได้ทำการตรวจยึดรถสกู๊ตเตอร์ ไว้ที่ สภ.ป่าตอง 4 คัน เพื่อทำการตรวจสอบ โดยมีทั้งเห็นด้วยกับการดำเนินการของตำรวจ และมีบางส่วนมองว่ากระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า เนื่องจากเมื่อเดือนธันวาคม 2564 ชาวบ้านร้องเรียนผ่านทางกลุ่มไลน์รับแจ้งเบาะแสอาชญากรรมในพื้นที่ตำบลป่าตอง ว่ามีบุคคลขับรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าตามถนน ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายแก่ผู้ขับขี่และผู้ใช้รถใช้ถนน ตำรวจจราจรจึงออกประชาสัมพันธ์ห้ามนำรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามาใช้ในทาง เนื่องจากขนส่งจังหวัดภูเก็ต ยืนยันว่าเป็นรถที่กรมการขนส่งทางบกไม่อาจจดทะเบียนให้ใช้อย่างถูกต้องได้ และอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงบนท้องถนนนำมาซึ่งความสูญเสียได้ในอนาคต แต่ยังมีผู้ฝ่าฝืนนำรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามาใช้อีก
พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค จึงได้สั่งการให้ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตเชิญหน่วยงานและผู้ประกอบการทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องประชุมและหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว จนได้ข้อสรุปว่าไม่ปิดกั้นการให้บริการของรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า แต่ต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมระดับจังหวัดพิจาณาว่าเห็นควรวิ่งได้หรือไม่ หรือวิ่งได้เส้นทางเฉพาะ เช่น ถนนเลียบหาดป่าตอง ซึ่งไม่ใช่เส้นทางที่รถวิ่งทั่วไป หรือถนนบางลาเมื่อมีการปิดถนนเปลี่ยนเป็นถนนคนเดิน แต่ไม่สามารถนำรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามาใช้ในทางเดินรถปกติทั่วไปได้ และต้องวางแนวทางการใช้รถสกู๊ตเตอร์ให้มีอุปกรณ์ความปลอดภัย รวมถึงศึกษาแนวทางการทำประกันภัย เพื่อรองรับผู้ได้ผลกระทบจากอุบัติเหตุ ขณะที่รถเช่านั้น ต้องมีการจดทะเบียนรถก่อนนำมาให้ผู้อื่นเช่า.-สำนักข่าวไทย