กรุงเทพฯ 21 ก.พ. – ผู้เสียหายกว่า 10 คน แจ้งความเอาผิด “เหมียว” เพื่อนแสบหลอกลงทุนซื้อ ATK สูญเงินกว่า 10 ล้านบาท
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 21 ก.พ. 65 ที่ศูนย์แจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. นายธีรนัย (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี อาชีพนักออกแบบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้า พร้อมผู้เสียหายรวม 10 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.นภัส หลักคำ สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ปอศ. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ) แจ้งความกรณีถูก น.ส.เหมียว (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นเพื่อนสมัยเรียนบ้าง บางคนรู้จัก น.ส.เหมียว ขณะที่ น.ส.เหมียว ทำงานที่ฟิตเนสแห่งหนึ่ง ทุกคนรู้จักคุ้นเคยมาอย่างดีคนละไม่ต่ำกว่า 3 ปี
ล่าสุดเมื่อปลายปี 2564 ต่อเนื่องถึงเดือน ม.ค.65 น.ส.เหมียว ได้โทร.แจ้งเพื่อนแต่ละคนว่าทางบริษัทฯ ที่เธอทำงานอยู่ได้โควตาพิเศษสั่งซื้อชุดตรวจ ATK หาเชื้อโควิด-19 ตอนนี้เธอลงทุนสั่งซื้อแล้วจำนวนหนึ่ง ยังขาดเงินอยู่อีก 400,000-600,000 บาท หากใครต้องการลงทุนซื้อร่วมกับเธอขอให้แจ้งมาได้
ผู้เสียหายแต่ละคนเห็นว่าน่าสนใจอยากจะร่วมลงทุนด้วย ประกอบกับความที่รู้จักคุ้นเคยกับ น.ส.เหมียว กันเป็นอย่างดี ไม่คิดว่าจะโดนโกง จึงตัดสินใจโอนเงินไปให้ น.ส.เหมียว จำนวนหลายครั้ง แต่ละคนจะร่วมลงทุนด้วยคนละหลักแสนถึงหลักล้าน ซึ่งทุกคนจะได้ผลตอบแทนเป็นกำไรแบ่งกลับคืนมา โดยยังไม่คืนเงินต้น บางคนได้รับส่วนแบ่งเงินกำไรมา 2-3 รอบ ๆ ละ 20,000-30,000 บาท แต่คนที่ร่วมลงทุนหลัง ๆ ยังไม่ได้กำไรคืนเลยก็มี
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ปรากฎว่าผู้เสียหายทุกคนไม่สามารถติดต่อ น.ส.เหมียว ได้ เธอปิดการสื่อสารทั้งหมด แม้แต่แฟนของ น.ส.เหมียวเอง ก็ติดต่อเธอไม่ได้เช่นกัน บางคนไปหาที่ห้องพักของ น.ส.เหมียว ด้วยความเป็นห่วง เพราะติดต่อไม่ได้ เกรงว่าจะเป็นอะไร โดยไม่มีใครทราบ แต่ก็ไม่พบ
ผู้เสียหายแต่ละคนจึงได้ติดต่อสอบถามกันจนทราบภายหลังว่ามีเพื่อน ๆ ที่โดนหลอกเงินไปร่วมลงทุนซื้อชุดตรวจ ATK กว่า 15 คน มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นรวมได้กว่า 10 ล้านบาท บางคนไปแจ้งความ สน.ท้องที่เกิดเหตุไว้แล้ว เพื่อทำเรื่องอายัดเงินในธนาคารของ น.ส.เหมียว แต่ก็มีบางรายท้องที่ไม่รับแจ้งความ แนะนำให้มาแจ้งความ บก.ปอศ.
หลังเข้าพบ พงส.ปอศ. แจ้งว่าคดีนี้คนร้ายติดต่อผู้เสียหายโดยตรงแต่ละคน ไม่ได้เป็นการประกาศหรือติดต่อสื่อสารแบบสาธารณชนทั่วไปเข้าถึง จึงเป็นคดีฉ้อโกงธรรมดาไม่ใช่ฉ้อโกงประชาชน ไม่อยู่ในอำนาจของ ปอศ.ที่จะรับแจ้งความ จึงแนะนำผู้เสียหายให้กลับไปพบ พงส.เจ้าของท้องที่เกิดเหตุ ให้แจ้งความประสงค์ที่จะดำเนินคดีกับ น.ส.เหมียว ผู้หลอกเงินไป และอายัดเงินธนาคารที่โอนเงินไป พร้อมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ นส.เหมียว มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย