ขยายผล ยึดดำเนินคดี กลุ่มไวยาวัจกร ยักยอกทรัพย์ วัดห้วยด้วน

บก.ปปป.2 กพ.-บก.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ขยายผล ยึดอายัดทรัพย์ ดำเนินคดี กลุ่มไวยาวัจกร ยักยอกเงินวัดธารทหาร หรือวัดห้วยด้วน จ.นครสวรรค์


พลตำรวตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เปิดเผยถึงการเข้าตรวจค้นบ้านพักของกลุ่มไวยาวัจกร วัดธารทหาร หรือ วัดห้วยด้วน อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 3 คน เพื่อค้นหาทรัพย์สินที่ยักยอกไปจากวัดและหลวงพ่อพัฒน์ ปุญญกาโม เจ้าอาวาสวัดฯ เมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) เป็นการดำเนินงานต่อจากคดีเดิมที่ทาง บก.ปปป. เคยสรุปสำนวนเบื้องต้นส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณา ซึ่งทาง ป.ป.ช.เห็นชอบให้ บก.ปปป.ดำเนินการสืบสวนต่อ และหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยครั้งนั้น บก.ปปป.ได้แกะรอยเส้นทางการเงิน กลุ่มไวยาวัจกรและคนใกล้ชิดหลวงพ่อพัฒน์ คือ นายเสนาะ ทองปรอน, นางชัญญา เพชรสายบัว และนางบุญเชิด สุขจิตร อย่างละเอียด ก่อนพบหลักฐานที่แน่ชัดแล้วว่าทั้ง 3 คน มีการนําเงินของวัดไปเข้าบัญชีในชื่อตนเอง รวมเป็นเงิน 63,034,470 บาท จึงได้อายัติเงินดังกล่าวนำกลับมาส่งมอบคืนให้กับหลวงพ่อพัฒน์ แต่ยังเชื่อว่ามีเงินถูกทุจริตไปอีกหลายสิบล้าน เนื่องจากไม่มีการทำบัญชีการเงินชัดเจน

เมื่อวานนี้ (1ก.พ.)เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นสามารถยึดอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องสงสัยกลุ่มเดิมได้เพิ่มเติมทั้ง เงินสด โฉนดที่ดินและทองรูปพรรณ พระเครื่อง  และอาวุธปืน มูลค่ากว่า 40 ล้านบาท เพื่อนำมาตรวจสอบว่าจะเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการทุจริตหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่จะมุ่งเน้นค้นหาทรัพย์สินให้ได้มากที่สุดก่อนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยยังเหลือที่ดินที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ เป็นที่ดินที่ไม่มีที่มาที่ไป และอาจมีการล็อบบี้ผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อปกปิดข้อมูลที่ดินดังกล่าว ซึ่งจะต้องมีการเรียกเจ้าของที่ดินรายเดิมมาให้ปากคำ และหากยังปกปิดข้อมูลก็จะเข้าข่ายความผิดด้วย


สำหรับความเป็นมาของการสอบสวนกรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่ากลุ่มไวยาวัจกรของวัดห้วยด้วน มีการยัดยอกเงินของวัดไปเป็นของตัวเอง จึงได้ทำการตรวจสอบจนพบความผิดปกติ เพราะทั้ง 3 คน มีอาชีพทำนา เลี้ยงหมู แต่กลับมีเงินในบัญชีรวมกันถึง 71 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่โอนเข้าอย่างไม่มีที่มาที่ไป หลังเข้ามาดูแลการเงินให้หลวงพ่อพัฒน์ จึงได้ทำการอายัดเงินทั้งหมด ทั้ง 3 คน เลยนำเงินมามอบให้แก่ตำรวจ 63 ล้านบาท เพื่อส่งคืนให้แก่หลางพ่อพัฒน์ ส่วนที่เหลือกำลังดำเนินการติดตามคืนมา พร้อมกับตรวจสอบการทำธุรกรรมทั้งการซื้อขายที่ดินหลายแปลง โดยอำพรางว่าเป็นการรับจำนองที่ดิน

ส่วนผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 คน เป็นบุคคลใกล้ชิดกับหลวงพ่อพัฒน์ ที่เข้ามาดูแลการเงินแต่เมื่อเห็นผลประโยชน์อาจจะเกิดความไขว้เขว แต่ยืนยันว่าไม่มีพระรูปใดเข้ามาเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ กรณีที่เกิดขึ้นทำให้หลวงพ่อพัฒน์ซึ่งมีอายุกว่า 100 ปี ต้องทุกข์ใจจนต้องมีแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด แต่หลวงพ่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามกรรมของแต่ละคน

พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ยืนยันว่า จะดำเนินคดีการสอบสวนต่อไปตามกฎหมาย โดยมั่นใจว่าตอนนี้มีพยานหลักฐานเพียงพอจะดำเนินคดีผู้ต้องสงสัยแล้ว ซึ่งจะมีการเรียกมากรับทราบข้อกล่าวหาต่อไป พร้อมกับติดตามเอาทรัพย์สินที่มาจากความเลื่อมใสศรัทธาของสาธุชนกลับมาสู่วัดและหลวงพ่อให้มากที่สุด .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ข่าวแห่งปี 2567 : รวมฉ้อโกง “ดารา-คนดัง” ไม่รอด

ตลอดปี 2567 ยังมีผู้คนตกเป็นเหยื่อของกลโกง มิจฉาชีพ ที่มาในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ บางคนถึงขั้นสิ้นเนื้อประดาตัว และที่น่าตกใจเริ่มมีคนดังเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีมากขึ้น

หมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาฉลองปีใหม่

บรรยากาศการเดินทางหมอชิต 2 คึกคัก ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ด้าน รฟท. คาดผู้โดยสารเดินทางขาออกวันนี้ 1 แสนคน

รถเริ่มแน่น! สายเหนือ-อีสาน การจราจรชะลอตัว

ประชาชนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา หยุดยาวปีใหม่ ถ.พหลโยธิน มุ่งหน้าสายอีสาน รถแน่น ส่วนถนนสายเอเชีย ขึ้นเหนือ รถเคลื่อนตัวได้ช้า