สำนักงานอัยการสูงสุด 26 ม.ค.-สำนักงานอัยการสูงสุด เผยกังวลคดีเสพโคเคน ของ “บอส อยู่วิทยา” ใกล้หมดอายุความ ก.ย.ปีนี้ แต่ยังส่งฟ้องไม่ได้ เพราะผู้ต้องหาหลบหนีในต่างประเทศ รอตำรวจแจ้งพิกัด ประสานส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
นายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ อธิบดีอัยการ สำนักงานต่างประเทศ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ผู้ต้องหาขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ว่า จนถึงขณะนี้ อัยการยังคงมีคำสั่งฟ้องอยู่2 คดี คือ คดี ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งจะหมดอายุความ ในวันที่ 3 ก.ย 2570 และคดีเสพโคเคน มีอายุความ10 ปี ซึ่งคดีนี้ใกล้จะหมดอายุความในก.ย. ปีนี้ แต่ตามกฎหมาย การจะส่งฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลจะต้องนำตัวมา จึงได้แจ้งพนักงานสอบสวน ซึ่งมีหน้าที่ในการติดตามตัวผู้ต้องหา แต่เนื่องจากผู้ต้องหาหลบหนีในต่างประเทศ พนักงานสอบสวน ต้องไปติดตามแหล่งที่อยู่ของผู้ต้องหา เพื่อให้อัยการประสานส่งผู้ร้ายข้ามแดน ต้องระบุที่อยู่ ที่เป็นไปได้เพื่อประสานประเทศปลายทางจับกุม แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการส่งข้อมูลที่อยู่ของผู้ต้องหาจากตำรวจ มาให้อัยการ จึงไม่สามารถประสานนำตัวมาได้
ขณะที่นายประยุทธ เพชรคุณ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ และรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ระบุว่า ยังไม่เคยได้รับแจ้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า พิกัดของผู้ต้องหาอยู่ที่ไหนอย่างไร ทราบแต่ทางสื่อมวลชนว่ามีการไปอาศัยอยู่ในหลายประเทศ แต่สิ่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งมาให้มีเพียงสำเนาหมายจับจากศาล แต่ยังไม่ส่งตัวผู้ต้องหามาให้ หลักการฟ้องร้องผู้ต้องหาในคดีอาญาจะต้องฟ้องตัวผู้ต้องหาภายในอายุความ จึงมีความกังวล เพราะ มีคดีที่ใกล้หมดอายุความ ตราบใดที่ไม่มีตัวผู้ต้องหามาให้อัยการ ก็ไม่สามารถที่จะส่งฟ้องต่อศาลได้ หากไม่ได้ตัวมาภายในวันที่ 3 กันยายน 2565หรือได้ตัวมาหลังจากนั้นก็ไม่สามารถฟ้องได้ในคดีเสพโคเคน เนื่องจากคดีขาดอายุความ ยืนยันว่า อัยการสั่งฟ้อง 2 คดี แต่ยังฟ้องไม่ได้เพราะยังไม่ได้ตัว เชื่อว่าทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคงไม่นิ่งนอนใจที่จะต้องติดตามตัวมาดำเนินคดี ซึ่งหากอัยการได้รับข้อมูลที่อยู่ของผู้ต้องหาก็พร้อมดำเนินการประสานงานส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศนั้นทันที-สำนักข่าวไทย