fbpx

ซิมมือถือต้องสงสัยใช้ชื่อต่างด้าวลงทะเบียน

กทม. 24 ม.ค.- ดีเอสไอตรวจค้นแหล่งจำหน่ายซิมมือถือ พบซิมลงทะเบียนใช้ชื่อแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก ส่อนำมาใช้ในกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกให้โอนเงินหรือก่ออาชญากรรมอื่น เตือนประชาชนอย่ารับจ้างเปิดหมายเลข หรือ บัญชีธนาคาร

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แถลงข่าว กรณี กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าตรวจค้นบ้านพักอาศัยผู้จำหน่ายซิมโทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียนโดยชาวต่างด้าวที่เป็นแรงงานในประเทศไทย และบางส่วนที่ยังไม่ลงทะเบียน เป็นจำนวนมาก


สืบเนื่องจากศูนย์สืบสวนไซเบอร์ กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ปฏิบัติการเชิงรุกในการหาข่าวผ่านสื่อโซเชียล พบว่ามีการเสนอขายซิมโทรศัพท์พร้อมใช้ ผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ จำนวนมาก จึงมีเหตุอันควรสงสัยว่าอาจจะเป็นการกระทำความผิดทางอาญา จึงได้ดำเนินการสืบสวนและทำการล่อซื้อ โดยปรากฏว่ามีการจำหน่ายจริง จึงดำเนินการสืบสวนเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจังพบว่ามีร้านค้า จำนวน 2 ร้าน อยู่ในกรุงเทพมหานคร และในอำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย ประกาศขายซิมทุกเครือข่ายทางเว็บไซต์ เพจเฟชบุ๊ก ซึ่งทั้งสองร้านมีการนำบัตรประชาชนชาวต่างด้าวที่เป็นแรงงานในประเทศไทย มาลงทะเบียน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับอนุมัติหมายศาล ลงพื้นที่ตรวจค้น 2 จุดพร้อมกัน จุดแรกในเขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร พบของกลางเป็นซิมที่ลงทะเบียนแล้วและที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนรวมกันกว่าหนึ่งแสนหมายเลข พบว่าเป็นซิมที่ลงทะเบียนโดยบัตรประชาชนชาวเมียนมาและกัมพูชา จำนวน 8,500 หมายเลข และที่ลงทะเบียนโดยเจ้าของร้านที่เป็นคนไทย อีกจำนวน 1,500 หมายเลข รวมยึดเพื่อตรวจสอบทั้งสิ้น จำนวน 10,000 หมายเลข และได้ยึดคอมพิวเตอร์และเครื่องโทรศัพท์ดัดแปลงสำหรับใช้ลงทะเบียน จำนวน 9 เครื่อง

จุดที่ 2 เข้าค้น ที่อำเภอขุนตาลจังหวัดเชียงราย เป็นร้านขายโทรศัพท์และอุปกรณ์ ร้านดังกล่าวจะไม่มีการเก็บซิมสำรอง หากลูกค้าต้องการเมื่อใดต้องสั่งจองล่วงหน้า ผลการตรวจค้นพบภาพถ่ายบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยจำนวนมาก และพบไฟล์สั่งซื้อซิมโทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียนแล้วอีกหลายรายการ จึงได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อสืบสวนและนำเข้าคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง เพื่อเสนอเป็นคดีพิเศษ


ทั้งนี้ การสั่งซื้อซิมโทรศัพท์ในลักษณะดังกล่าว อาจจะมีการนำไปใช้ก่อเหตุอาชญากรรม ทั้งการเปิดเว็บพนัน การหลอกลวงและฉ้อโกงประชาชน และแอปพลิเคชันปล่อยเงินกู้ เป็นต้น ซึ่ง ผู้ประกาศขายซิม ผู้ลงทะเบียน และผู้ใช้ อาจมีความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (1) และ (2) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม จำหน่ายหรือมีไว้ครอบครอง ใช้หรือมีไว้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม มาตรา 269/1 และมาตรา 269/4 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 – 7 ปี ปรับ 20,000 – 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ดังนั้น รัฐมนตรียุติธรรม ฝาก เตือนประชาชนให้ระวังการนำหมายเลขบัตรประชาชนไปลงทะเบียนซิม และอย่ารับจ้างเปิดหมายเลขและบัญชีธนาคารเด็ดขาด เพราะอาจจะกลายเป็นผู้ต้องหาโดยไม่รู้ตัว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

ศาลสั่งจำคุกลูกชาย รมช.เมาแล้วขับ 2 เดือน ปรับ 4 พันบาท

ศาลสั่งจำคุก 2 เดือน ปรับ 4,000 บาท ลูกชายรัฐมนตรีช่วย เมาขับฝ่าด่านตรวจ โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี พร้อมพักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน

ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต

จ.ภูเก็ต 19 เม.ย.-นายกฯ ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต พร้อมสำรวจการจราจร วงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร