fbpx

รวบอาสากู้ภัย ยิงถล่มใส่คู่อริ

กรุงเทพฯ 24 ม.ค. – “พล.ต.ท.สำราญ” ผบช.น. แถลงจับกุม “แฟร๊งค์” อาสากู้ภัย ยิงถล่มใส่คู่อริได้ที่คอนโดย่านเขตจตุจักร


พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 แถลงจับกุม นายฐากูร หรือ แฟร๊งค์ อนันทวงศ์ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญามีนบุรี ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความ ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือชุมชน พร้อมด้วยของกลางตรวจยึดในคดีเสื้อยืดคอกลม สีดำ แขนสั้น มีลายด้านหน้า สีขาวที่บริเวณอก และมีลายด้านหลังเป็นรูปกากบาทสีขาว 1 ตัว กางเกงยีนส์ ขาสั้น แบบสามส่วน สียีนส์ จำนวน 1 ตัว รองเท้าผ้าใบ มีลวดลายผู้หญิง สีฟ้าและดอกไม้ จำนวน 1 คู่ กระเป๋าสะพายข้าง สีดำ 1 ใบ จับกุมจากใต้อาคาร B ของอาคารชุด ไนท์บริดจ์ เกษตร โซไซตี้ ถนนพหลโยธิน โดยสามารถจับกุมได้เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา

กรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 13 ม.ค.65 เวลาประมาณ 22.40 น.ได้มีเหตุอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่เจ้าหน้าที่กู้ภัยเพชรเกษม ที่บริเวณปากซอยงามวงศ์วาน 43 ถ.งามวงศ์วาน แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร พื้นที่รับผิดชอบของ สน.ทุ่งสองห้อง ต่อมาได้มีการทะเลาะวิวาทกันชกต่อยทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน ระหว่างเจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญูและเจ้าหน้าที่มูลนิธิเพชรเกษมที่บริเวณแยกพงษ์เพชร ถนนงามวงศ์วานฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ได้เข้าระงับเหตุแยกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายจนเหตุการณ์สงบ คู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อดำเนินคดีต่อกัน


ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. ทางด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษมได้มารวมตัวกันที่ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ถ.ประเสริฐมนูกิจ แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว พื้นที่รับผิดชอบของ สน.โคกคราม และเวลาประมาณ 01.00 น.เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูจำนวนมากใช้รถยนต์ตู้และรถยนต์กระบะของทางมูลนิธิจำนวนหลายคันติดตามมาที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. ถนนประเสริฐมนูกิจ จากนั้นเวลาประมาณ 01.20 น.ทางด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่กลุ่มของเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยเพชรเกษมจำนวนหลายนัด เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษมได้รับบาดเจ็บ 2 คน แล้วแยกย้ายหลบหนีไป

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียงและจากการสืบสวนข้อมูลจากผู้บาดเจ็บ และพยาน ทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิเพชรเกษมได้รับบาดเจ็บคือนายฐากูร หรือแฟร๊งค์ อนันทวงศ์ อายุ 32 ปี ซึ่งอยู่ในกลุ่มของมูลนิธิร่วมกตัญญู จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ส่งมอบพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เพื่อดำเนินการขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญามีนบุรี ต่อมาในวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา จากการสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.โคกคราม และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล 2 ได้สืบสวนทราบว่านายแฟร๊งค์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่อาคารชุดชื่อ ไนท์บริดจ์ เกษตร โซไซตี้ ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร ซึ่งเป็นห้องพักของแฟนสาว จึงได้ไปทำการตรวจสอบ ในเวลาต่อมาได้พบตัว นายแฟร๊งค์ อยู่ที่บริเวณล็อบบี้ของอาคาร B ไนท์บริดจ์ เกษตร โซไซตี้ ดังกล่าว จึงได้แสดงหมายจับพร้อมทำการจับกุมตัว

จากการสืบสวนสอบสวน นายแฟร๊งค์ ได้นำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการตรวจยึดเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุที่ห้องพัก และได้ทำการตรวจยึดชุดเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุแต่จากการสอบสวนให้การภาคเสธ ยอมรับว่าตนเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญามีนบุรีและอยู่ในที่เกิดเหตุจริง แต่ปฏิเสธ ว่าตนไม่ได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่น


เบื้องต้นสำหรับคดีนี้มีการดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 3 ราย แบ่งเป็นผู้ต้องหาคดี ทำร้ายร่างกาย 1 ราย และผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืน 2 ราย ส่วนผู้ต้องหารายอื่นที่ยังหลบหนีเบื้องต้นยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ามีจำนวนเท่าใด รวมถึงจุดเกิดเหตุในพื้นที่ สน.โคกคราม เป็นการยิงปะทะกันหรือเป็นการยิงแค่ฝ่ายเดียว รายละเอียดทั้งหมดอยู่ในสำนวน จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบว่ามีปลอกกระสุนที่บริเวณขอบถนนด้านซ้ายและบริเวณหน้าปั๊มส่วนภายในตัวปั๊มไม่พบว่ามีปลอกกระสุนตกอยู่. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.