สั่งตั้งกรรมการสอบ ตร.ซิ่งบิ๊กไบค์ชน “หมอกระต่าย” เสียชีวิต

สั่งตั้งกรรมการสอบ ตร.ซิ่งบิ๊กไบค์ชน "หมอกระต่าย" เสียชีวิต

กทม. 24 ม.ค. – ตั้งกรรมการสอบตำรวจขี่บิ๊กไบค์ชน “หมอกระต่าย” แต่ยังให้ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ ยืนยันบิ๊กไบค์ไม่ใช่รถของกลาง ขณะที่ ส.ต.ต.นรวิชญ์ เตรียมบวชให้หมอกระต่าย ด้านครอบครัวยังทำใจไม่ได้ วันเกิดลูกปีนี้กลับต้องมาจุดธูปแทนเป่าเค้ก


วันนี้เป็นวันเกิดหมอกระต่าย แต่แทนที่ครอบครัวจะได้อยู่กันพร้อมหน้า กลับกลายเป็นว่าต้องมาจัดงานศพให้หมอกระต่าย เพราะเธอถูก ส.ต.ต.นรวิชญ์ ซิ่งบิ๊กไบค์ชนเสียชีวิตเมื่อ 3 วันก่อน ครอบครัวย้ำว่าทำใจไม่ได้ ส่วนเรื่องคดี ต้นสังกัดสั่งตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงพร้อมเผยผลตรวจบิ๊กไบค์ยืนยันเป็นรถมีทะเบียน

พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน เปิดเผยความคืบหน้าเหตุสลด กรณี ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ผบ.หมู่กองร้อยที่ 2 กองกำกับการ 1 กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ซิ่งบิ๊กไบค์พุ่งชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย จักษุแพทย์ ขณะเดินข้ามทางม้าลายหน้าโรงพยาบาลไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท จนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 มกราคมว่า


ล่าสุดได้สั่งตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงในคดีแล้ว เพียงแต่ไม่ได้ให้ ส.ต.ต.นรวิชญ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าแม้ยังทำงานอยู่ก็ไม่มีผลต่อรูปคดี เพราะเพิ่งบรรจุเข้ารับข้าราชการเมื่อเดือนสิงหาคม ประกอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความผิดส่วนตัว และขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ส่วนบิ๊กไบค์คันเกิดเหตุ ยืนยันว่าเป็นรถมีทะเบียน โดย ส.ต.ต.นรวิชญ์ ใช้เงินที่กู้สหกรณ์และเงินส่วนตัวซื้อมาเมื่อธันวาคมปีก่อน ราคา 110,000 บาท และมีการโอนลอยไว้ ไม่ใช่ของกลางในคดี

ส่วนประเด็นการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่หลายคนยังสงสัย พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผู้กำกับการ สน.พญาไท ยืนยันตรวจตั้งแต่ ส.ต.ต.นรวิชญ์ เข้ามอบตัว และผลตรวจออกมาเป็นศูนย์ เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาเดียวก่อน คือ ขับรถประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนข้อหาอื่นอย่าง นำรถไม่ติดป้ายทะเบียนมาใช้ ขับรถไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย ไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายบนพื้นทาง (ไม่หยุดรถให้คนข้าม) และฝ่าฝืนใช้รถที่ไม่ได้เสียภาษีประจำปี อยู่ระหว่างดำเนินการแจ้งข้อหาเพิ่ม นอกจากนี้หากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบความเร็วบิ๊กไบค์ แล้วพบว่าขับเร็วเกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะถูกแจ้งข้อหาเพิ่มขับรถเร็วเกินกำหนดด้วย ส่วนเรื่องยื่นฟ้องต่อพนักงานอัยการ มีการนัดส่งตัวในวันที่ 9 มีนาคม

ขณะที่ครอบครัวยอมรับยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะ นพ.อนิรุทธ์ สุภวัตรจริยากุล พ่อของหมอกระต่าย แม้บอกว่าไม่ได้เคียดแค้นคู่กรณี แต่ยอมรับว่าโกรธ แม้เจ้าตัวจะมาขอโทษแล้วก็ตาม เพราะพ่อคิดว่าทำไมเหตุการณ์นี้ต้องมาเกิดกับลูกของพ่อด้วย ยิ่งวันนี้ (24 ม.ค.) เป็นวันเกิดของหมอกระต่าย หมอจะอายุครบ 34 ปี ครอบครัวจำได้หมด เพราะถือเป็นวันสำคัญ Happy Birthday เป่าเค้กกันทุกปี แต่ปีนี้กลับต้องมาจุดธูปแทน และได้แต่บอกกับลูกว่าให้ไปอยู่ที่สุขสบาย อย่าห่วงกังวลกับคนข้างหลัง


พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลพญาไท ร่วมกันแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงและแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก่อนแถลงได้ยืนไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาที พร้อมบอกด้วยว่า ส.ต.ต.นรวิชญ์ เตรียมบวชเพื่ออุทิศให้กับหมอกระต่ายด้วย

ส่วนคดีความที่บอกว่าจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่ม ล่าสุดแจ้งข้อหาไปแล้วรวม 7 ข้อหา และเรื่องส่งตัวไปให้อัยการ ขยับเวลาขึ้นมา โดยภายในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ จะส่งสำนวนคดีพร้อมตัวผู้ต้องหาให้พนักงานอัยการส่งฟ้องต่อศาลทันที

นอกจากนี้ประเด็นที่มีสังคมตั้งข้อสังเกตว่า ตำรวจเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้นาน 2 ชั่วโมง ยืนยันว่าในช่วงเกิดเหตุนั้นพนักงานสอบสวนที่ไปตรวจที่เกิดเหตุและเก็บพยานหลักฐานต่างๆ ไว้ เพื่อตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตเป็นบุคคลใด จะได้ประสานทางครอบครัว ซึ่งในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ยังไม่เสียชีวิต จึงใช้เวลาให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบพยานกล้องวงจรปิด เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิด แต่ในกรอบระยะเวลาที่ดำเนินการ พบว่าผู้เสียชีวิตเสียชีวิตแล้ว และมีเพื่อนซึ่งเป็นพยาบาลได้โทรศัพท์เข้ามาที่โทรศัพท์ของผู้เสียชีวิต เพื่อตามให้ไปเข้าเวร จึงยืนยันได้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร ย้ำว่าทำตามกระบวนการของกฎหมาย ไม่ล่าช้า และหากเป็นไปได้ ขอวิงวอนให้สังคมยุติการส่งต่อคลิป หรือข้อมูลที่กระทบต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต หรืออาจเป็นข้อมูลที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” ร่อนหนังสือประท้วง “อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น”

ก.ต่างประเทศ 29 ก.ค.-“มาริษ” ส่งหนังสือประท้วง “อาเซียน-สหรัฐ-จีน-ยูเอ็น” บอกต่อสายเพื่อนสนิทขอร่อนเอกสาร ยัน “กัมพูชา” ไม่จบ ยิงอีกรอบหลังจบเจรจา เปิดใจขอทุกคนไม่ต้องห่วง กต.ร่วมมือเต็มที่ปกป้องอธิปไตยไทยและบูรณภาพแห่งดินแดน ยัน “ไทย” เป็นสุภาพบุรุษ ไม่ต้องกลัวสายตาโลก บอกนานาชาติชื่นชมพรึ่บ! นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยชี้แจงว่าหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะกัน ระหว่างไทย-กัมพูชา กระทรวงการต่างประเทศได้ประท้วงหลายกรอบความร่วมมือ ไม่ว่าจะเป็นอนุสัญญาออตตาวา, อนุสัญญาเจนีวา, กฎหมายระหว่างประเทศ, การใช้ทุ่นระเบิดและการโจมตีพื้นที่ที่เป็นพื้นที่ของประชาชน ซึ่งที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตนได้เข้าไปในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้พบผู้แทนระดับสูงของ UN และหลายประเทศ หารือในเรื่องที่เราดำเนินการแก้ไขทุกอย่างด้วยสันติวิธี และใช้ความอดทนอดกลั้นทั้งหมด ถึงแม้จะอดกลั้น แต่เราก็ยึดถือหลักสำคัญที่สุด คืออำนาจอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ เป็นอันดับหนึ่ง ขณะเดียวกัน เราก็ให้ความสำคัญกับเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศกฎหมาย, กฎบัตรสหประชาชาติ, กฎหมายอาเซียน, ความตกลงและความเป็นครอบครัวอาเซียนทุกประเทศ รวมทั้งประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ซึ่งก็พยายามใช้ความอดทนอดกลั้นพยายามไม่ให้สถานการณ์บานปลาย แต่อย่างไรก็ตาม เราถูกละเมิดอธิปไตย เราก็ต้องใช้สิทธิ์ตอบโต้ในสิ่งที่ประเทศไทยถูกละเมิดมาโดยตลอด นายมาริษ กล่าวว่า ภาพพจน์ของนานาประเทศที่ให้กับเรา ทำให้เราได้ประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราต้องการ คือความเป็นประเทศรักสงบ […]

น้ำท่วมชุมชนชายแดนแม่สายเริ่มลด เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำ

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำท่วมชุมชนชายแดน อ.แม่สาย เริ่มลดลงแล้ว แต่ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ทิ้งดินโคลนและเศษขยะไว้มากมาย ด้านข้างสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 จะเห็นว่าน้ำในลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา ลดระดับต่ำกว่าท้องสะพาน กว่า 40 เซนติเมตร หลังระดับน้ำที่จุดวัดบ้านโจตาดาในเมียนมา ที่เป็นต้นน้ำ ลดลงต่ำกว่าตลิ่งแล้ว โดยทหารช่างยังเร่งวางบิ๊กแบ็กที่จุดฟันหลอของพนังกั้นน้ำสาย บริเวณคอสะพาน เพื่อป้องกันน้ำทะลักท่วมซ้ำ ขณะที่ด่านชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย ฝั่งท่าขี้เหล็ก เปิดให้ข้ามแดนได้ตามปกติ โดยน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สาย ลดลงเกือบทุกพื้นที่ แต่ทิ้งความเสียหายไว้จำนวนมาก อย่างตลาดสายลมจอย ตลาดสินค้าชายแดน ร้านค้าต่างๆ เต็มไปด้วยดินโคลน พ่อค้าแม่ขายในตลาดเริ่มเก็บล้างทำความสะอาดร้านค้ากันบ้างแล้ว อย่างพี่สายพิน บอกว่า เมื่อวานนี้น้ำมาเยอะมาแรง จนกำแพงอาคารที่ใช้เป็นพนังกันน้ำชั่วคราวแตก แต่ทหารช่างอุดไว้ได้ และมีการเก็บสินค้าออกไปล่วงหน้า จึงไม่เสียหายมากนัก จากภาพมุมสูงด้านชุมชนทางฝั่งขวาของสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 อย่างชุมชนเกาะทราย ไม้ลุงขน และชุมชนเหมืองแดง ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ในบางพื้นที่ อย่างบริเวณห้าแยกเกาะทราย ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่คาดว่าภายในวันนี้สถานการณ์น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ.-สำนักข่าวไทย

ตร.ไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์

บช.สอท. 29 ก.ค. – ตำรวจไซเบอร์ เชิญชวนคนไทยร่วมโพสต์แชร์ และแสดงพลังออนไลน์ ด้วยข้อความภาษาอังกฤษ พร้อมติด #TruthFromThailand ร่วมกันสื่อสารให้โลกได้รับรู้ว่าเราไม่ได้เริ่ม แต่เราจะไม่ยอมแพ้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยถึงกรณีที่สถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมีรายงานข่าวจากหลายสำนักและบทวิเคราะห์ของนักวิชาการนานาชาติ ที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างความขัดแย้งดังกล่าวกับปฏิบัติการด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ และการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ขอชี้แจงว่า ภารกิจสำคัญของเราคือ การปกป้องประชาชนไทยจากภัยคุกคามทางเทคโนโลยีทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอาชญากรรมที่มีลักษณะเป็นเครือข่ายข้ามชาติ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บไซต์พนันออนไลน์ เครือข่ายฟอกเงิน โดยจับกุมผู้ต้องหาที่เข้ามาทางด่านสระแก้วจัมผู้ต้องตามหมายจับ 13 ราย เป็นคดีที่หลอกลวงพี่น้องประชาชน อีก 7 ราย มีร้องทุกข์กล่าวโทษในข้อหาหลอกลวงพี่น้องประชาชน และจะมีกลับเข้ามีอีก 200 กว่านายจะเดินทางกับเข้ามา แต่เมื่อ สถานการณ์ไม่น่ากลัวและทราบว่าจะมีการหยุดยิงจึงไม่เดินทางกับ แต่ยังมีการหลอกลวงทั้งในและต่างประเทศ โดยตลอดปีที่ผ่านมากองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีต่อเครือข่ายเหล่านี้อย่างจริงจัง ภายใต้กรอบของกฎหมายภายในประเทศ และการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในต่างประเทศ เพื่อสกัดกั้นเส้นทางการเงิน การดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย และการใช้ประเทศไทยเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มทุนสีเทา พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า จากการสืบสวนในหลายคดีที่ผ่านมา พบความเชื่อมโยงกับ กลุ่มผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะในกัมพูชา […]

เปิด 7 ข้อตกลง วงหารือ “กองทัพภาค 2 – กัมพูชา”

29 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 หารือผู้บัญชาการทางทหารฝ่ายกัมพูชา ก่อนได้ข้อสรุปตกลงร่วมกัน 7 ข้อ พลตรี กิติศักดิ์ ถาวร โฆษกกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เมื่อช่วงเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ผู้แทนกองทัพภาคที่ 2 ได้พบปะกับผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา ในพื้นที่ช่องจอม จ.สุรินทร์ โดยได้หารือและมีข้อตกลงร่วมกัน 7 ข้อ ประกอบด้วย อย่างไรก็ตาม การหารือดังกล่าวใช้เวลาเพียงไม่นาน ก่อนที่รถตู้ของผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ฝั่งไทย จะขับออกจากด่านช่องจอมไป -สำนักข่าวไทย