จ่อเรียก 9 มูลนิธิทำความเข้าใจการทำงาน

กทม. 15 ม.ค.-โฆษกนครบาล ระบุเตรียมเรียก 9 มูลนิธิช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ​ เข้ามาทำความเข้าใจการทำงานและขอให้ตรวจสอบประวัติ​อาชญากร​ในองค์กร​ทั้งหมดใหม่ หากมีประวัติ​ต้องให้ออกทันที

พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงกรณีมูลนิธิเลือดร้อนก่อเหตุยกพวกยิงกันเมื่อคืนวานที่ผ่านมาว่า ทางผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้สั่งการให้เรียกมูลนิธิทั้ง 9 แห่ง ประกอบด้วย 8 มูลนิธิที่ได้รับใบอนุญาตก่อนหน้านี้ และมูลนิธิเพชรเกษมซึ่งอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาต มาทำความเข้าใจการปฏิบัติงานด้านการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บให้มีการแบ่งพื้นที่กันปฏิบัติงานเพื่อความเท่าเทียม รวมถึงให้ทำการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของบุคลากรในแต่ละมูลนิธิใหม่หลังเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งหากพบว่ามีประวัติหรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมก็ต้องดำเนินการพักงานหรือดำเนินการตามระเบียบ


ส่วนเรื่องการตรวจค้นรถมูลนิธิ จะต้องเชิญผู้บริหารมูลนิธิมาพูดคุยกำหนดแนวทางกันก่อน เพราะหากจะเข้าไปตรวจค้นเลยทันที ก็อาจจะไม่เหมาะสม โดยหลังจากนี้จะเชิญผู้บริหารมาเพื่อกำหนดแนวทางในการคัดเลือกบุคลากรและแนวทางในการตรวจค้นร่วมกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก

ด้าน พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ดังนั้น อยากให้ทุกฝ่ายใช้เป็นบทเรียนในการทำงานรวมทั้งแก้ไขปัญหา และแนวทางป้องกันเหตุในอนาคตด้วย โดยเฉพาะองค์กรมูลนิธิเอง ต้องทำการปัดกวาดเช็ดถูบ้านให้เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็นการขออนุญาตตามกรอบของกฎหมาย ต้องทำการอบรมขั้นตอนการช่วยเหลือตามกฎระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข และที่สำคัญ ต้องเรียนรู้การแบ่งพื้นที่ในการปฏิบัติงานเพื่อป้องกันปัญหาการกระทบกระทั่งกัน ส่วนตัวเชื่อว่ากรณีดังกล่าว ไม่ใช่การบาดหมางขององค์กร แต่เป็นเรื่องความบาดหมางส่วนบุคคลมากกว่า สำหรับกรณีนี้เป็นเรื่องของบุคคลที่เคยทำงานร่วมกันมาก่อน และเพิ่งแยกตัวออกมา แตเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติงาน เชื่อว่าเป็นความตั้งใจดีที่ต้องการช่วยเหลือสังคม ซึ่งต้องขอบคุณ แต่ขอย้ำว่าให้ทำอย่างถูกต้อง อย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย