ถกศึก 2 มูลนิธิ จับมือหาทางออกได้ข้อสรุป 4 ข้อ

กรุงเทพฯ 14 ม.ค. – ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เรียก 2 มูลนิธิ “ร่วมกตัญญู-เพชรเกษม” ถกป้องกันเหตุทะเลาะวิวาท คลอด 4 แนวทาง หากเกิดอีกหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที ขีดเส้นเย็นนี้ผู้ก่อเหตุมอบตัว ตรวจค้นอาวุธก่อนทำงาน  


จากกรณีที่เกิดเหตุความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูและมูลนิธิเพชรเกษม สาขากรุงเทพฯ จนถึงขั้นยกพวกทำร้ายร่างกายกัน และใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่กัน เหตุเกิดเมื่อคืนที่ผ่านมา ใน 2 พื้นที่ คือ สน.ทุ่งสองห้อง และ สน.โคกคราม ล่าสุดพล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เรียกตัวแทนมูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิเพชรเกษม หาทางออกและข้อสรุป เพื่อป้องกันเหตุทะเลาะวิวาท หลังจากมีเหตุเผชิญหน้ากันของทั้ง 2 ฝ่ายจนมีการยิงปืนกันและมีผู้บาดเจ็บ 2 คน

โดยได้ข้อสรุป 4 ข้อ คือ 1.ให้ทั้งสองฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรงเด็ดขาดระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากพบว่ามีเกิดขึ้นอีกก็จะส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีคำสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที 2.ให้ทั้งสองฝ่ายพาผู้ก่อเหตุทะเลาะวิวาททั้งพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง และ สน.โคกคราม มามอบตัวกับพนักงานสอบสวนภายในเย็นนี้ หากยังไม่มาจะขอศาลออกหมายจับ เนื่องจากทราบตัวบุคคลทั้งสองฝ่ายแล้ว 3.ตำรวจจะตรวจสอบการทำงานของทุกมูลนิธิว่ามีการได้รับอนุญาตให้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้องก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย และ 4.สั่งการให้สายตรวจตรวจค้นรถมูลนิธิทุกคัน จะต้องไม่พกพาอาวุธทุกชนิด รวมถึงเจ้าหน้าที่มูลนิธิที่ปฏิบัติงานให้รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณนั้นให้ตรวจค้น หากพบจะบันทึกภาพไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย


พล.ต.ต.อรรถพล ระบุข้อกำหนดนี้จะเริ่มใช้ในพื้นที่ของกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ก่อน และอาจเสนอให้บังคับในทุกพื้นที่ เพื่อป้องกันความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจุดที่ทะเลาะกันไม่มีการการแจ้งเกิดเหตุ ส่วนด้านคดีจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งในพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง จะเป็นคดีทำร้ายร่างกาย จากเหตุชกต่อยระหว่างสองมูลนิธิ และพื้นที่ สน.โคกคราม จะดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่า เนื่องจากมีการยิงอาวุธปืนร่วมด้วย ขณะนี้ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดได้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว จึงได้ประสานให้ทั้งสองมูลนิธินำตัวผู้ก่อเหตุมามอบตัว

ด้านนายเอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ ตัวแทนมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า ยอมรับในข้อตกลงของตำรวจ และอยากให้เป็นในรูปแบบนี้มานานแล้ว ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เน้นย้ำกับอาสากู้ภัยทุกคนไปแล้วว่า อย่าตอบโต้กับคู่กรณีให้ถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้เพื่อใช้แจ้งความดำเนินคดี ส่วนรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไม่ทราบแน่ชัด เพียงแต่ทราบว่ามีการใช้อาวุธปืนทั้งสองฝ่าย รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมามีเหตุปะทะกันระหว่างมูลนิธิเพชรเกษมมาแล้วรวม 5 ครั้ง จะพยายามติดต่อนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามข้อตกลงของตำรวจ

ทั้งนี้ ยอมรับเหตุทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้นไม่ใช่ครั้งแรก แต่มีความขัดแย้งของระหว่างสองมูลนิธิมาก่อนแล้ว โดยเหตุที่แยกพงษ์เพชรได้รับรายงานว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทกัน แต่ได้แยกย้ายกันและนึกว่าไม่เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันแล้ว แต่ในเวลาประมาณ 01.00 น. ได้รับรายงานว่าถูกท้าทายจากฝั่งมูลนิธิเพชรเกษมที่ยังรวมตัวกันอยู่ที่ปั้มน้ำมัน ถนนเกษตรนวมินทร์ จากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้นจากฝั่งมูลนิธิเพชรเกษม 4 นัด ทางร่วมกตัญญูจึงยิงกลับเข้าไปเพื่อป้องกันตัว


นายเอกพันธ์ กล่าวว่า อยากให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี แต่สาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่ามาจากความขัดแย้งที่สะสมมาเป็นเวลาหลายปี จนเกิดความขัดแย้งรุนแรงขึ้น ที่ผ่านมาแจ้งความไว้ 4 สน.แล้ว แต่เรื่องยังไม่มีความคืบหน้าจนมาเกิดเหตุดังกล่าวอีก เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิเพชรเกษมบางส่วนเคยทำงานอยู่ในมูลนิธิร่วมกตัญญูและบางส่วนถูกให้ออกจากมูลนิธิ เนื่องจากตรวจสอบแล้วมีทั้งเรื่องร้องเรียน โดยเฉพาะการนำส่งผู้บาดเจ็บไปนอกโรงพยาบาลตามสิทธิของผู้ป่วย และการทำผิดกฎระเบียบข้อบังคับ ทำให้บางคนอาจไม่พอใจ และเหตุที่เกิดขึ้นเชื่อว่ามาจากการแย่งเคสผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล เพราะผู้นำส่งจะได้ค่าตอบแทนจากโรงพยาบาลเอกชนที่นำส่ง

นายเอกพันธ์ มองว่าต้องทำให้เกิดความชัดเจนเรื่องการอนุญาตให้มูลนิธิต่าง ๆ ปฎิบัติหน้าที่ ให้เกิดความถูกต้อง เพื่อป้องกัน กลุ่มคนเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง ทำให้มีอาสาสมัครหลายคนที่ไม่ได้ทำเพื่อสังคมหรือทำด้วยความบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง ซึ่งที่ผ่านมามูลนิธิร่วมกตัญอยู่ก็ให้ออกมาหลายคนแล้ว ยืนยันตาม MOU 8 มูลนิธิ กับศูนย์เอราวัณ กทม.นั้น มูลนิธิร่วมกตัญญูได้รับอนุญาตให้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ แต่ไม่มีมูลนิธิเพชรเกษม ซึ่งที่ผ่านมาได้ไปพูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วให้ช่วยแก้ปัญหานี้ เพราะหวั่นจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้

ขณะที่นายบัญชา ศรีนิลพันธ์ ผู้จัดการมูลนิธิเพชรเกษม สาขากรุงเทพฯ เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเริ่มต้นมาจากเหตุไปรับผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุหน้าวัดเสมียนนารีเมื่อสัปดาห์ก่อน จากนั้นมีมูลนิธิร่วมกตัญญูมาช่วยเหลือต่อนำส่งโรงพยาบาล และอาสามีการขับรถตามกันจนมีเหตุเผชิญหน้ากัน จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดเหตุขึ้นอีกครั้งที่แยกพงษ์เพชร ซึ่งเป็นจุดจอดรถของมูลนิธิเพชรเกษม จนมีเหตุชกต่อยกันและลุกลามไปถึงหน้าปั้ม ปตท. ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้เป็นฝ่ายที่เริ่มก่อน ส่วนการขอใบอนุญาตช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินและศูนย์เอราวัณ ขณะนี้ได้ยื่นเอกสารไปทั้งหมดแล้ว พร้อมยืนยันว่ามูลนิธิมีความพร้อมทั้งเครื่องมือและบุคลากร แต่หากหน่วยงานที่จะอนุญาตพบว่ามีจุดไหนบกพร่องก็ควรที่จะแจ้งมา เพื่อที่จะได้แก้ไข แต่ระหว่างนี้จำเป็นต้องช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บไปก่อน เนื่องจากเป็นอาสามูลนิธิที่มีความต้องการช่วยเหลือคน

ส่วนการออกปฏิบัติงานวันเดียวกับมูลนิธิร่วมกตัญญู ไม่มีประเด็นอื่นนอกจากความชำนาญในพื้นที่ เพราะอาสาส่วนใหญ่ก็ออกมาจากมูลนิธิร่วมกตัญญู และยอมรับว่าบางส่วนก็ถูกไล่ออกมา และย้ายมาอยู่ที่มูลนิธิเพชรเกษม ส่วนจะมีบุคคลใดมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนหรือไม่ เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมพูดคุยกับตำรวจแล้ว ก็ได้จับมือเพื่อแสดงถึงการยอมรับข้อตกลงร่วมกันที่ตำรวจได้เสนอไว้ และพร้อมที่จะปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าวหลังจากนี้

ทั้งนี้ ในพื้นที่ กทม.ตาม MOU ระหว่างศูนย์เอราวัณ กทม.มีเพียง 8 มูลนิธิที่ได้รับอนุญาตให้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ คือ มูลนิธิร่วมกตัญญู มูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง มูลนิธิสยามร่วมใจ ปู่อินทร์ มูลนิธิกู้ภัยร่วมไทร มีนบุรี มูลนิธิ ราชพฤกษ์ กู้ชีพหงส์แดง กู้ชีพกู๊บแดง และ กู้ชีพพิรุน ซึ่งมูลนิธิเพชรเกษม ไม่ได้อยู่ในจำนวนที่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]