ถกศึก 2 มูลนิธิ จับมือหาทางออกได้ข้อสรุป 4 ข้อ

กรุงเทพฯ 14 ม.ค. – ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เรียก 2 มูลนิธิ “ร่วมกตัญญู-เพชรเกษม” ถกป้องกันเหตุทะเลาะวิวาท คลอด 4 แนวทาง หากเกิดอีกหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที ขีดเส้นเย็นนี้ผู้ก่อเหตุมอบตัว ตรวจค้นอาวุธก่อนทำงาน  


จากกรณีที่เกิดเหตุความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูและมูลนิธิเพชรเกษม สาขากรุงเทพฯ จนถึงขั้นยกพวกทำร้ายร่างกายกัน และใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่กัน เหตุเกิดเมื่อคืนที่ผ่านมา ใน 2 พื้นที่ คือ สน.ทุ่งสองห้อง และ สน.โคกคราม ล่าสุดพล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 เรียกตัวแทนมูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิเพชรเกษม หาทางออกและข้อสรุป เพื่อป้องกันเหตุทะเลาะวิวาท หลังจากมีเหตุเผชิญหน้ากันของทั้ง 2 ฝ่ายจนมีการยิงปืนกันและมีผู้บาดเจ็บ 2 คน

โดยได้ข้อสรุป 4 ข้อ คือ 1.ให้ทั้งสองฝ่ายยุติการใช้ความรุนแรงเด็ดขาดระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากพบว่ามีเกิดขึ้นอีกก็จะส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีคำสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันที 2.ให้ทั้งสองฝ่ายพาผู้ก่อเหตุทะเลาะวิวาททั้งพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง และ สน.โคกคราม มามอบตัวกับพนักงานสอบสวนภายในเย็นนี้ หากยังไม่มาจะขอศาลออกหมายจับ เนื่องจากทราบตัวบุคคลทั้งสองฝ่ายแล้ว 3.ตำรวจจะตรวจสอบการทำงานของทุกมูลนิธิว่ามีการได้รับอนุญาตให้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บถูกต้องหรือไม่ หากไม่ถูกต้องก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย และ 4.สั่งการให้สายตรวจตรวจค้นรถมูลนิธิทุกคัน จะต้องไม่พกพาอาวุธทุกชนิด รวมถึงเจ้าหน้าที่มูลนิธิที่ปฏิบัติงานให้รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณนั้นให้ตรวจค้น หากพบจะบันทึกภาพไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย


พล.ต.ต.อรรถพล ระบุข้อกำหนดนี้จะเริ่มใช้ในพื้นที่ของกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ก่อน และอาจเสนอให้บังคับในทุกพื้นที่ เพื่อป้องกันความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจุดที่ทะเลาะกันไม่มีการการแจ้งเกิดเหตุ ส่วนด้านคดีจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งในพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง จะเป็นคดีทำร้ายร่างกาย จากเหตุชกต่อยระหว่างสองมูลนิธิ และพื้นที่ สน.โคกคราม จะดำเนินคดีข้อหาพยายามฆ่า เนื่องจากมีการยิงอาวุธปืนร่วมด้วย ขณะนี้ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดได้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว จึงได้ประสานให้ทั้งสองมูลนิธินำตัวผู้ก่อเหตุมามอบตัว

ด้านนายเอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ ตัวแทนมูลนิธิร่วมกตัญญู เปิดเผยว่า ยอมรับในข้อตกลงของตำรวจ และอยากให้เป็นในรูปแบบนี้มานานแล้ว ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เน้นย้ำกับอาสากู้ภัยทุกคนไปแล้วว่า อย่าตอบโต้กับคู่กรณีให้ถ่ายคลิปวิดีโอเก็บไว้เพื่อใช้แจ้งความดำเนินคดี ส่วนรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไม่ทราบแน่ชัด เพียงแต่ทราบว่ามีการใช้อาวุธปืนทั้งสองฝ่าย รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมามีเหตุปะทะกันระหว่างมูลนิธิเพชรเกษมมาแล้วรวม 5 ครั้ง จะพยายามติดต่อนำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามข้อตกลงของตำรวจ

ทั้งนี้ ยอมรับเหตุทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้นไม่ใช่ครั้งแรก แต่มีความขัดแย้งของระหว่างสองมูลนิธิมาก่อนแล้ว โดยเหตุที่แยกพงษ์เพชรได้รับรายงานว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทกัน แต่ได้แยกย้ายกันและนึกว่าไม่เกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันแล้ว แต่ในเวลาประมาณ 01.00 น. ได้รับรายงานว่าถูกท้าทายจากฝั่งมูลนิธิเพชรเกษมที่ยังรวมตัวกันอยู่ที่ปั้มน้ำมัน ถนนเกษตรนวมินทร์ จากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้นจากฝั่งมูลนิธิเพชรเกษม 4 นัด ทางร่วมกตัญญูจึงยิงกลับเข้าไปเพื่อป้องกันตัว


นายเอกพันธ์ กล่าวว่า อยากให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี แต่สาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่ามาจากความขัดแย้งที่สะสมมาเป็นเวลาหลายปี จนเกิดความขัดแย้งรุนแรงขึ้น ที่ผ่านมาแจ้งความไว้ 4 สน.แล้ว แต่เรื่องยังไม่มีความคืบหน้าจนมาเกิดเหตุดังกล่าวอีก เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิเพชรเกษมบางส่วนเคยทำงานอยู่ในมูลนิธิร่วมกตัญญูและบางส่วนถูกให้ออกจากมูลนิธิ เนื่องจากตรวจสอบแล้วมีทั้งเรื่องร้องเรียน โดยเฉพาะการนำส่งผู้บาดเจ็บไปนอกโรงพยาบาลตามสิทธิของผู้ป่วย และการทำผิดกฎระเบียบข้อบังคับ ทำให้บางคนอาจไม่พอใจ และเหตุที่เกิดขึ้นเชื่อว่ามาจากการแย่งเคสผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล เพราะผู้นำส่งจะได้ค่าตอบแทนจากโรงพยาบาลเอกชนที่นำส่ง

นายเอกพันธ์ มองว่าต้องทำให้เกิดความชัดเจนเรื่องการอนุญาตให้มูลนิธิต่าง ๆ ปฎิบัติหน้าที่ ให้เกิดความถูกต้อง เพื่อป้องกัน กลุ่มคนเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง ทำให้มีอาสาสมัครหลายคนที่ไม่ได้ทำเพื่อสังคมหรือทำด้วยความบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง ซึ่งที่ผ่านมามูลนิธิร่วมกตัญอยู่ก็ให้ออกมาหลายคนแล้ว ยืนยันตาม MOU 8 มูลนิธิ กับศูนย์เอราวัณ กทม.นั้น มูลนิธิร่วมกตัญญูได้รับอนุญาตให้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ แต่ไม่มีมูลนิธิเพชรเกษม ซึ่งที่ผ่านมาได้ไปพูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วให้ช่วยแก้ปัญหานี้ เพราะหวั่นจะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้

ขณะที่นายบัญชา ศรีนิลพันธ์ ผู้จัดการมูลนิธิเพชรเกษม สาขากรุงเทพฯ เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเริ่มต้นมาจากเหตุไปรับผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุหน้าวัดเสมียนนารีเมื่อสัปดาห์ก่อน จากนั้นมีมูลนิธิร่วมกตัญญูมาช่วยเหลือต่อนำส่งโรงพยาบาล และอาสามีการขับรถตามกันจนมีเหตุเผชิญหน้ากัน จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดเหตุขึ้นอีกครั้งที่แยกพงษ์เพชร ซึ่งเป็นจุดจอดรถของมูลนิธิเพชรเกษม จนมีเหตุชกต่อยกันและลุกลามไปถึงหน้าปั้ม ปตท. ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้เป็นฝ่ายที่เริ่มก่อน ส่วนการขอใบอนุญาตช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินและศูนย์เอราวัณ ขณะนี้ได้ยื่นเอกสารไปทั้งหมดแล้ว พร้อมยืนยันว่ามูลนิธิมีความพร้อมทั้งเครื่องมือและบุคลากร แต่หากหน่วยงานที่จะอนุญาตพบว่ามีจุดไหนบกพร่องก็ควรที่จะแจ้งมา เพื่อที่จะได้แก้ไข แต่ระหว่างนี้จำเป็นต้องช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บไปก่อน เนื่องจากเป็นอาสามูลนิธิที่มีความต้องการช่วยเหลือคน

ส่วนการออกปฏิบัติงานวันเดียวกับมูลนิธิร่วมกตัญญู ไม่มีประเด็นอื่นนอกจากความชำนาญในพื้นที่ เพราะอาสาส่วนใหญ่ก็ออกมาจากมูลนิธิร่วมกตัญญู และยอมรับว่าบางส่วนก็ถูกไล่ออกมา และย้ายมาอยู่ที่มูลนิธิเพชรเกษม ส่วนจะมีบุคคลใดมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อนหรือไม่ เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมพูดคุยกับตำรวจแล้ว ก็ได้จับมือเพื่อแสดงถึงการยอมรับข้อตกลงร่วมกันที่ตำรวจได้เสนอไว้ และพร้อมที่จะปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าวหลังจากนี้

ทั้งนี้ ในพื้นที่ กทม.ตาม MOU ระหว่างศูนย์เอราวัณ กทม.มีเพียง 8 มูลนิธิที่ได้รับอนุญาตให้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ คือ มูลนิธิร่วมกตัญญู มูลนิธิป่อเต๊กตึ๊ง มูลนิธิสยามร่วมใจ ปู่อินทร์ มูลนิธิกู้ภัยร่วมไทร มีนบุรี มูลนิธิ ราชพฤกษ์ กู้ชีพหงส์แดง กู้ชีพกู๊บแดง และ กู้ชีพพิรุน ซึ่งมูลนิธิเพชรเกษม ไม่ได้อยู่ในจำนวนที่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไฟไหม้รถยนต์ อดีต สส.ศิริโชค วอดทั้งคัน

สงขลา 5 ก.ค.-“ศิริโชค” อดีต สส.ปชป. เผยเหตุระทึก รถยนต์ PHEV ไฟลุกไหม้วอดทั้งคันกลางดึก ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ ภาพคลิปเหตุการณ์ไฟไหม้รถยนต์ส่วนตัวของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจอดอยู่บริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ช่วงตี 3 เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ก.ค.68) โดยเพจเฟซบุ๊ก “ศิริโชค โสภา” ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมระบุข้อความว่า “อุทาหรณ์สยอง! ผมตื่นมากับเปลวเพลิงกลางดึก-ไฟลุกท่วมรถ PHEV ทั้งคัน ทั้งที่ไม่ได้ชาร์จ! เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆ แต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว รถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัว ไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ […]

ตาขับรถทับศีรษะหลานวัย 1 ขวบ ดับสลด

สุราษฎร์ธานี 5 ก.ค. – สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ ตายายร้องไห้แทบขาดใจ สุดสลด ตาขับรถกระบะไม่ทันดู เหยียบศีรษะหลานสาว วัย 1 ขวบ 5 เดือนเสียชีวิตคาที่ หลังจากที่ตากลับจากซื้อของที่ตลาด เมื่อมาถึงบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำในอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขนของลงจากรถเสร็จ ระหว่างจะนำรถไปจอดไม่ทันสังเกตว่าหลานวิ่งอ้อมรถมา รู้อีกทีล้อรถหน้าด้านคนขับเหยียบเข้าที่ศีรษะของหลานแล้ว ทำให้หลานเสียชีวิตทันที เมื่อเห็นร่างหลาน ตาและยายร้องไห้แทบขาดใจ เพราะเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กๆ ก่อนนำร่างส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลพระแสงต่อไป.- สำนักข่าวไทย

อ.อ๊อด ชี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ กรณีรถยนต์ไฟฟ้า อดีตสส.สงขลา ไฟไหม้

นครปฐม 5 ก.ค. – อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ แสดงความคิดเห็นว่า กรณีรถยนต์ไฟฟ้าของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา เกิดไฟไหม้ ถือเป็นเหตุการณ์ไม่ปกติ และแบตเตอรี่อาจจะมีปัญหา จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก Sirichok Sopha หรือ นายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ แชร์ประสบการณ์ โดยระบุข้อความว่า “เช้ามืดวันนี้ ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมเสียง “ปะทุ” ดังสนั่นกลางความเงียบของตีสาม…เมื่อรีบวิ่งออกมาดู สิ่งที่ผมเห็นคือเปลวไฟสีส้มแดงกำลังลุกโชนอย่างบ้าคลั่งจากรถยนต์ PHEV ที่จอดนิ่งหน้าบ้าน รถคันนี้ซื้อจากศูนย์หาดใหญ่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมใช้งานตามปกติ และที่สำคัญคือ ตอนนั้นผมไม่ได้เสียบชาร์จไว้ด้วยซ้ำ-จอดไว้เฉยๆแต่จู่ๆ ไฟกลับลุกขึ้นมาเอง โดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียวรถดับเพลิงต้องใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะควบคุมเพลิงได้ และเมื่อไฟดับลง… สิ่งที่เหลืออยู่คือ ซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคันนี่ไม่ใช่แค่ความเสียหาย แต่คือคำเตือนที่น่ากลัวสำหรับผู้ใช้รถ EV และ PHEVแม้ไม่ได้ชาร์จ แม้จอดนิ่ง แบตเตอรี่ก็ยังมีโอกาสลุกไหม้ได้เองโดยไม่ทันตั้งตัวไฟฟ้าเงียบ-แต่มันเผาผลาญทุกอย่างได้ในพริบตา” รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายนวัตกรรมและกิจการเพื่อสังคม […]

สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน

กทม. 5 ก.ค.-สพฐ. จัดทีมนิติกรช่วยครูการเงิน กรณีถูกชี้มูลร่วมลงชื่อเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่มีรายงานข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ กรณีข้าราชการครูผู้รับผิดชอบงานการเงินของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ร้องขอความเป็นธรรมภายหลังถูกชี้มูลความผิดร่วมกับอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน จากการลงนามในเอกสารเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวัน โดยยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต้นสังกัด และยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งลงโทษทางวินัยออกโดยเขตพื้นที่ฯ แต่อย่างใด สำหรับการดำเนินการในขั้นต่อไป สพฐ. ได้จัดเตรียมนิติกรจากส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนการให้คำปรึกษาทางกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ครูสามารถใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ตามมาตรา 99 แห่งพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 ได้อย่างเต็มที่ เลขาธิการ กพฐ. ระบุว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความจำเป็นที่ต้องทบทวนบทบาทภาระงานของครูในภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านการเงินและพัสดุ ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยงเชิงกฎหมายสูง สพฐ. จึงอยู่ระหว่างการปรับปรุงระบบสนับสนุนภายในโรงเรียน เพื่อให้โครงสร้างงานสนับสนุนมีความเหมาะสมกับวิชาชีพครูมากยิ่งขึ้น “ข้าราชการครูที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตจะไม่ต้องเผชิญกระบวนการตามลำพัง สพฐ. พร้อมอยู่เคียงข้างและสนับสนุนในทุกขั้นตอน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิและเข้าถึงความเป็นธรรมได้อย่างมั่นใจครับ” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว.-416.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ศิริโชค” เชื่อรถถูกเผาโยงการเมือง ตร.เร่งหาเบาะแสคนร้าย

6 ก.ค.- “ศิริโชค” ฟันธงเหตุรถยนต์ถูกลอบวางเพลิงมาจากเรื่องการเมือง ด้านตำรวจเร่งหาเบาะแสคนร้าย ส่วนบริษัทเจ้าของรถออกหนังสือชี้แจงสาเหตุไฟไหม้ ความคืบหน้าเหตุการณ์ไฟไหม้ รถ GWM HAVAL H6 PHEV ของนายศิริโชค โสภา อดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ 4 สมัย ซึ่งจอดอยู่ในบริเวณบ้านพักที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อช่วงตี 3 วานนี้ (5ก.ค.68) ทำให้รถเสียหายทั้งคันและได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.นาทวี เพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นความบกพร่องของรถหรือลอบวางเพลิง ล่าสุดในทางคดีมีการยืนยันชัดเจนแล้วว่า เป็นการจงใจลอบวางเพลิง โดยหลังจากที่วานนี้ พนักงานสอบสวน สภ.นาทวี และตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้รถยนต์คันนี้ ปรากฏว่าพบมียางรถยนต์จำนวน 6 เส้นถูกเผาเหลือแต่เส้นใยเหล็ก พร้อมด้วยตับสิเหรงที่ใช้มุงหลังคา ซึ่งน่าจะเป็นเชื้อเพลิงในการจุดไฟเพื่อทำการเผารถยนต์คันนี้อยู่บริเวณใต้ท้องรถ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสผู้ก่อเหตุ ไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุหรือความบกพร่องของรถแต่อย่างใด ด้านนายศิริโชค เปิดเผยว่า ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็นการวางเพลิงโดยใช้ยางรถยนต์ ตับสิเหรง และใช้น้ำมันเบนซินราด จากที่ตนสังเกตแม้ว่าทางศูนย์หลักฐานจะยังไม่ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่ว่าดูจากรูปการแล้วพุ่งเป้าไปที่คนวางเพลิง ไม่ใช่ความบกพร่องของรถ แต่มีความตั้งใจที่จะให้เป็นความบกพร่องของรถเพราะเป็นรถไฟฟ้า แต่สุดท้ายจากหลักฐานที่พบบ่งชี้ไปที่การวางเพลิง มองว่ามาจากเรื่องการเมืองมากกว่าเรื่องการสร้างสถานการณ์ด้านความมั่นคงหรือเรื่องส่วนตัว เพราะตนไม่มีความแค้นส่วนตัวกับใครไม่ได้ทำธุรกิจในพื้นที่ ไม่มีเรื่องชู้สาว สิ่งที่เดียวที่มีคือการเป็นนักการเมือง […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดดังพิษณุโลก ย่องลาสิกขา หลังพัวพันข่าวดัง

พิษณุโลก 6 ก.ค.- “พระ ส.” เจ้าอาวาสวัดดัง จ.พิษณุโลก ย่องลาสิกขาเงียบ หลังพัวพันข่าวดัง ขณะทางวัดยังไม่แถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุ เจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ได้ลาสิกขาอย่างเงียบ ๆ โดย พระครูวิโรจน์ธรรมากร เจ้าอาวาสวัดกรุงกรัก เจ้าคณะตำบลท่านางงาม เขต 2 เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางระกำ เป็นผู้ทำพิธีลาสิกขาให้พระ ส. ท่ามกลางกระแสข่าวว่าเป็นสามีคนแรกของหญิงสาวที่รู้จักในฉายา “น้องดอกไม้” หรือสีกา ก. และยิ่งได้รับความสนใจเมื่อมีข้อมูลระบุว่า น้องดอกไม้มีบุตรสาววัย 13 ปี ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ในอดีตของพระ ส. ขณะทางวัดยังไม่มีการออกแถลงชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุของการลาสิกขา แต่แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่าเป็นการตัดสินใจส่วนตัวของเจ้าอาวาส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของวัดและศาสนา -สำนักข่าวไทย

ไทยเปิดด่านกรณีพิเศษ ช่วยนายพลกัมพูชาป่วยฉุกเฉิน

สระแก้ว 6 ก.ค.- เพื่อมนุษยธรรม! ไทยเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ ช่วยเหลือนายทหารระดับสูงกัมพูชา ป่วยฉุกเฉิน ส่งรักษาโรงพยาบาล อ.อรัญประเทศ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังคงตึงเครียดและมีการปิดจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ได้เกิดภาพความประทับใจ เมื่อหน่วยงานความมั่นคงของไทย ร่วมกันตัดสินใจเปิดด่านเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่นายทหารระดับสูงกัมพูชา โดยเจ้าหน้าที่ไทยจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันอำนวยความสะดวกบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์เนชั่นแนลอรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ เพื่อทำการรักษาให้ทันท่วงที ปัจจุบันด่านคลองลึก ยังคงปิดทำการจากปัญหาชายแดนที่ยังไม่คลี่คลาย แต่การดำเนินการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า หลักมนุษยธรรมและความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันนั้นอยู่เหนือปัญหาความขัดแย้งใด ๆ ทั้งปวง และยังแสดงถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานของทั้งสองประเทศ -สำนักข่าวไทย