กรุงเทพฯ 14 ม.ค. – โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนล่า-ค้าซาก “สัตว์ป่าคุ้มครอง สัตว์ป่าสงวน” คุก 15 ปี ปรับ 1.5 ล้านบาท
พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยจากกรณีเหตุการณ์เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ตรวจสอบพบกลุ่มพรานล่าสัตว์และพบซากเสือโคร่ง 2 ตัว ถูกแล่เนื้อและถลกหนังออก คาดอาจจะนำไปจำหน่าย เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าฯ จึงยึดซากเสือโคร่งไว้เป็นของกลางนั้น ถือเป็นเหตุการณ์ที่หดหู่ใจอย่างมาก เนื่องจากเสือโคร่งจัดเป็นสัตว์ป่าที่กำลังใกล้จะสูญพันธุ์ และได้รับการขึ้นบัญชีเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามบัญชีแนบท้ายกฎกระทรวง ฉบับที่ 13 (พ.ศ.2523) ออกตามความในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2503 จึงอยากเตือนไปยังผู้กระทำความผิด ล่าสัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครอง จะมีความผิดตามกฎหมาย
พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง มาตรา 17 ห้ามมิให้ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าดังกล่าว มาตรา 29 ห้ามมิให้ผู้ใดค้าสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าดังกล่าว หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าดังกล่าว มาตรา 89 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 12 หรือมาตรา 29 ถ้ากระทำต่อสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 12 มาตรา 22 วรรคหนึ่ง หรือมาตรา 29 ถ้ากระทำต่อสัตว์ป่าสงวน ซากสัตว์ป่าสงวน หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าสงวน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3-15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 300,000-1,500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 92 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 17 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง หรือมาตรา 55 (3) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความมุ่งมั่นตั้งใจปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างเข้มงวด หากประชาชนพบเบาะแสการล่าสัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือพบการกระทำความผิด ขอให้ช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สถานีตำรวจในพื้นที่ใกล้ท่าน หรือโทร.สายด่วน 191 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย