เร่งคลี่คลายคดีอาชีวะยกพวกยิงกัน เด็กปั๊มถูกลูกหลง

กรุงเทพฯ 30 ธ.ค.-ผบก.น.9 เรียกประชุมเร่งคลี่คลายคดีนักเรียนอาชีวะก่อเหตุยกพวกยิงกันเสียชีวิต 1ศพ บาดเจ็บ 2 ราย และ “เด็กปั๊ม”เคราะห์ร้ายถูกลูกหลงสาหัส


เวลา13.45 น.พล.ต.ต.พงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 (ผบก.น.9) เรียกประชุมตำรวจฝ่ายสืบสวนเพื่อคลี่คลายคดีนักเรียนอาชีวะก่อเหตุยกพวกยิงกัน เสียชีวิต 1 ศพและบาดเจ็บ 2 ราย เมื่อคืนที่ผ่านมา ย่านซอยสะแกงาม 14

ผบก.น.9 กล่าวก่อนการประชุมว่า เรียกประชุมเพื่อแบ่งกำลังออกทำงานเป็น 3 ส่วน เพื่อร่วมกันคลี่คลายคดีและทำการรวบรวมพยานหลักฐานตามกระบวนการกฎหมาย โดยแบ่งงานออกเป็น ฝ่ายสืบสวน สน.แสมดำ , ตำรวจฝ่ายสืบสวนของกองบังคับการตำรวจนครบาล 9 และฝ่ายสืบสวนนครบาล


ส่วนสาเหตุเกิดจากกรณีของเด็กนักเรียนอาชีวะ 2 สถาบัน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่ามีปัญหาทะเลาะวิวาทมาก่อนแล้ว เมื่อมาเจอหน้ากัน มีการท้าทายเกิดขึ้น จึงใช้อาวุธปืนติดตัวมายิงใส่กัน จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว และที่สำคัญมีประชาชนทั่วไปซึ่งทำมาหากินอยู่ในพื้นที่ได้รับบาดเจ็บด้วย ขณะนี้ตำรวจสามารถพิสูจน์ตัวบุคคลได้แล้วบางส่วน ล่าสุดสามารถคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ฝ่ายมาได้รวม 4 คน ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการ ติดตามตัว

ผบก.น.9 กล่าวด้วยว่า อยากฝากเตือนไปยังกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ว่าควรทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด มีหน้าที่เรียนหนังสือก็ต้องเรียนหนังสือ อย่ามาสร้างความเดือดร้อนในลักษณะนี้อีกเพราะการกระทำดังกล่าวส่งผลกระทบในวงกว้างทั้งอนาคตตัวเอง สร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัว สังคมรอบข้าง ตำรวจจำเป็นต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่มีการละเว้น ถึงแม้จะเป็นแค่เยาวชนอายุเพิ่งจะ 16 ปีก็ตาม และกรณีนี้หากผลการสืบสวนพบว่าพ่อแม่ผู้ปกครอง ขาดการดูแลเอาใจใส่ ไม่ควบคุมดูแลบุตรหลาน ก็จำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

ในส่วนของเหยื่อลูกหลงเด็กปั๊ม ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ ขณะนี้มอบหมายให้ผกก.สน.แสมดำ ลงพื้นที่ไปดูแลให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ส่วนสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย หลังตกเป็นเหยื่อในคดีอาชญากรรม ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิจะต้องเข้าไปดูแลเยียวยาต่อไป


สำหรับมาตรการป้องกันเหตุ นักเรียนยกพวกตีกันในพื้นที่ นครบาล 9 ทำมาตลอด มีทุกยุคทุกสมัย ขอยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ละเลย มีทั้งชุดเคลื่อนที่เร็ว สายตรวจเดินเท้า สายตรวจรถยนต์และชุดระงับเหตุเร่งด่วน นอกจากนี้ยังจัดชุดตำรวจชุมชนสัมพันธ์เข้าไปพูดคุยเจรจา ทำความเข้าใจกับสถาบันการศึกษา ซึ่งหากขาดมาตรการดังกล่าวเหล่านี้ เหตุการณ์ ในลักษณะนี้จะเกิดขึ้น ไม่เว้นแต่ละวันและความสูญเสีย อาจเยอะกว่าที่เป็นอยู่ ดังนั้นอยากให้ทุกฝ่าย เห็นใจตำรวจด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ