บช.น.เผยผลตรวจสอบเหตุวุ่นวาย ที่วงเวียนใหญ่

บช.น.29 ธ.ค.-โฆษก บช.น.เผยตรวจสอบเหตุวุ่นวายระหว่างการเสด็จฯ เมื่อวานนี้ ที่วงเวียนใหญ่พื้นที่ สน.บุปผาราม พบเป็นหญิงมีปัญหาทางจิต ส่วนอีกกรณีพบบุคคล 3 คนพยายามแสดงสัญลักษณ์ มีเหตุชุลมุน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เปรียบเทียบปรับ


พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.)ในฐานะโฆษก บช.น.พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก แถลงข่าวเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับสถานการณ์ การชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง

โฆษก บช.น.เปิดเผยว่า วันนี้มีแจ้งการรวมตัวในพื้นที่ทั้งหมด 3 จุดที่จะกระทบต่อการจราจร 1.คือบริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ของกลุ่มศิลปินราษฎร , 2.บริเวณหน้าศาลฎีกา ของกลุ่มพลเมืองโต้กลับ เวลา17.30 น. ,3.กลุ่มที่ตำรวจเฝ้าระวังการรวมตัว ในช่วงเย็น คือกลุ่มทะลุแก๊ส ซึ่งตำรวจได้จัดกำลังในการป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน แต่เบื้องต้นยังไม่มีรายงานว่าจะรวมตัวแต่อย่างใด ขณะที่ผ่านมาตำรวจได้มีการดำเนินคดีทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการชุมชุมทางการเมืองทั้งหมด 808 คดี ในจำนวนนี้ ส่งฟ้องแล้ว 409 คดี และอยู่ระหว่างการสอบสวน 399 คดี


ส่วนกรณีที่มีการชุมนุมระหว่างการเสด็จฯ เมื่อวานนี้ (28ธ.ค.) ที่วงเวียนใหญ่ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดในพื้นที่ สน.บุปผาราม แบ่งเป็น 2 กรณี คือ 1.กรณีที่มีหญิง พยายามเข้าไปในขบวนเสด็จฯ พบว่าเป็นหญิงชาวลาว มีสามีเป็นคนไทย จากการตรวจสอบพบว่ามีปัญหาทางจิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวให้แพทย์แล้วก็ยืนยันมีปัญหาทางจิตจริง ขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาตัวที่ รพ.สมเด็จเจ้าพระยา โดยยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีใดๆ

ส่วนกรณีที่ 2 ที่มีกลุ่มบุคคล 3คน พยายามแสดงสัญลักษณ์และมีช่วงจังหวะชุลมุนวุ่นวายเกิดขึ้น ได้รับรายงานว่าทั้ง 3 คน ตำรวจจากสน.บุปผาราม ได้แจ้ง 2 ข้อหา คือส่งเสียงกระทำการอื้ออึงฯ และขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าซึ่งได้ทำการเปรียบเทียบปรับไปแล้วทั้ง 3 รายซึ่งทั้ง 2 กรณีที่เกิดข้องพบว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด ส่วนจากภาพที่ปรากฎว่ามีการทำร้ายร่างกายกันอย่างไรนั้น อยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหาการทำร้ายร่างกาย

ขณะที่วันนี้มีกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) จำนวนหนึ่ง มาติดตามการแถลงข่าวและซักถามตำรวจความคืบหน้าจากเหตุการณ์เมื่อวานนี้ที่วงเวียนใหญ่ด้วย ซึ่งพ.ต.อ.กฤษณะ ได้เข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจจนกลุ่มพอใจและแยกย้ายกันกลับไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยตึก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัย ค้นหาผู้สูญหายเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมสอบถามถึงอุปสรรคในการทำงานและความต้องการเพิ่มเติม

ปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน

รองผู้ว่าฯ กทม. เผยยอดผู้เสียชีวิตเหตุตึกถล่ม ที่ผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว อยู่ที่ 16 ราย และอยู่ระหว่างการค้นหาอีก 78 ราย พร้อมแจงปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน

นายกฯ วางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะ เนื่องในวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์

นายกรัฐมนตรี วางพานพุ่มดอกไม้ถวายราชสักการะพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เนื่องในวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ พุทธศักราช 2568 ณ ปฐมบรมราชานุสรณ์ สะพานพระพุทธยอดฟ้า