ภรรยาเปรมชัย ยื่น ยธ.ขอย้ายสามีไปรักษาที่ รพ.

กรุงเทพฯ 29 ธ.ค.-“ภรรยาเปรมชัย” ดักยื่นหนังสือ-ใบรับรองแพทย์ ต่อ รมว.ยุติธรรม ร้องขอย้ายสามีไปรักษาตัวโรงพยาบาลหลังป่วย 7 โรคเรื้อรัง ด้าน “สมศักดิ์” ยันต้องทำตามกฎระเบียบ ไม่มีสิทธิพิเศษ เชื่อเรือนจำมีมาตรฐานดูแลให้ทุกคนปลอดภัย


เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กระทรวงยุติธรรม นางคณิตา กรรณสูต ภรรยานายเปรมชัย กรรณสูต ผู้บริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ที่ถูกศาลตัดสินจำคุกคดีเสือดำ เดินทางมายังกระทรวงยุติธรรม เพื่อมาดักรอ ยื่นหนังสื่อขอความเป็นธรรม ถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

นางคณิตา กล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือเพื่อขอความเห็นใจ อยากให้นายเปรมชัยอยู่ใกล้แพทย์ในโรงพยาบาล เพราะนายเปรมชัยมีปัญหาด้านสุขภาพ เป็นโรคเรื้อรัง ทั้งเบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ และพึ่งผ่าตัดตามา โดยเฉพาะโรคเบาหวานที่เป็นหนัก เป็นแผลที่เท้าพึ่งคว้านเนื้อ นอกจากนี้ขณะนี้มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตนกลัวว่า นายเปรมชัยจะติดโควิดในเรือนจำแล้วอาการจะหนักเพราะเป็นโรคเรื้อรัง 7 ประเภทที่อันตราย เกรงว่าเครื่องมือของเรือนจำจะดูแลได้ไม่ดีพอ อยากให้สามีของตนมีความปลอดภัยในชีวิต จึงมายื่นหนังสือเพื่อขอให้ย้ายนายเปรมชัยไปรักษายังโรงพยาบาล ซึ่งที่ผ่านมาตนและลูกชายได้ยื่นหนังสือถึงกรมราชทัณฑ์ไปแล้ว 4 ครั้ง แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเลย และวันนี้ตนได้นำใบรับรองแพทย์ของนายเปรมชัยมายื่นให้ด้วย


นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องทำระเบียบของราชการเราจะทำตามใจใครไม่ได้ ต้องทำตามกฎ เพราะสังคมจะวิพากษ์วิจารณ์ได้ว่าเราให้สิทธิพิเศษกับคนบางคน ตนยืนยันไม่ให้สิทธิพิเศษกับใคร กฎต้องเป็นกฎ ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน คดีนี้สังคมจับตามองเป็นอย่างมาก ตนก็เห็นใจแต่ทุกอย่างต้องทำตามกฎระเบียบ ส่วนการดูแลผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์ตนมั่นใจว่าทำได้ดีแล้วตามมาตรฐาน มีระบบการดูแลที่ดีพยายามทำให้ทุกคนปลอดภัยที่สุดตามที่เราจะทำได้ โดยเรื่องนี้ตนมอบหมายให้ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า หากพบว่าในพื้นที่ดูแลอาการไม่ไหวเราจะมีการพิจารณา แต่จากที่รับทราบรายงานมาในด้านปัญหาสุขภาพของผู้ต้องขังนั้น เราได้ดูแลตามระบบระเบียบตลอดเสมอมา ยืนยันว่าการดูแลผู้ต้องขังของกรมราชทัณฑ์ไม่เคยปล่อยปะละเลยแต่อย่างใด และไม่เคยปล่อยให้ผู้ต้องขังถึงขั้นเจ็บป่วยถึงขั้นมีอาการย่ำแย่ ส่วนบุคคลไหนมีอาการป่วยเราก็นำส่งโรงพยาบาลราชทัณฑ์ทันทีโดยมีหมอในพื้นที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”