กรุงเทพฯ 28 ธ.ค.- ตำรวจ PCT ขยายผลจับเพิ่ม 9 คนจีน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หนีการบุกจับจากกัมพูชาเข้ามายังฝั่งไทยทางสระแก้ว ยึดมือถือที่ใช้โทรลวงเหยื่อ 35 เครื่องซึ่งคนร้ายซื้อจากร้านค้าในศูนย์การค้าชื่อดังย่านราชประสงค์
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร.หรือ PCT เปิดเผยว่า หลังจากตำรวจ PCT เดินทางไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อประสานติดตามจับกุมตัวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คนไทยและจีน รวม 39 คน ในเมืองพระสีหนุ และเมืองพนมเปญ ปรากฎว่า มีคนจีน 9 คนไหวตัวหลบหนีออกจากกัมพูชา ข้ามมายังฝั่งไทยทางจังหวัดสระแก้ว โดยลักลอบมากับรถยนต์กระบะ 2 คัน เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวพร้อมตรวจยึดโทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน จำนวน 35 เครื่อง
จากการตรวจสอบพมือถือ 10 เครื่อง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้เปิดสัญญานโรมมิ่งมาจากประเทศจีน ส่วนอีก 25 เครื่องคาดว่าเตรียมการไว้สำหรับโทรหลอกลวงเหยื่อ มือถือดังกล่าวยี่ห้อไอโฟน 8 มือ 2 ซื้อจากร้านค้าในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตรงข้ามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แสดงว่าขบวนการคอลเซ็นเตอร์ อยู่ไม่ไกล ซึ่งจะเร่ง ขยายผลไปยังขบวนการที่เกี่ยวข้อง
ส่วนการสอบสวนขยายผลผู้ต้องหาที่จับได้ที่พระสีหนุและพนมเปญ พบว่าทำงานเป็นขบวนการทั้ง สั่งการ จัดหาบัญชีและเปิดบัญชีธนาคาร ติดต่อหลอกลวงผู้เสียหาย สาย 1 สาย 2 สาย 3 , จัดการเรื่องการเงิน และจัดหา คนไปทางานเพื่อหลอกลวงคนไทย
อย่างไรก็ตามปฏิบัติการบุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติครั้งนี้ สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายมาแจ้งความที่ สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ว่าได้รับการติดต่อจากคนร้าย อ้างเป็นบริษัทขนส่ง DHL แจ้งว่ามีพัสดุถูกส่งมาจากต่างประเทศ ได้แก่ พาสปอร์ต บัตรเครดิตและบัตรเอทีเอ็ม มีความเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน คนร้ายได้ปลอมบัญชีไลน์โดยใช้ชื่อว่า “สภ.เชียงใหม่”ติดต่อกับผู้เสียหายและหลอกให้โอนเงินจำนวนกว่า 500,000 บาท ไปยังบัญชีของกลุ่มคนร้าย ตำรวจPCTจึงสืบสวนจนทราบว่าธุรกรรมทางการเงินของกลุ่มคนร้ายนั้น ทำการโอนเงินตามคำสั่งซึ่งอยู่ประเทศกัมพูชา และมีลักษณะเป็นการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศผิดกฎหมาย โดยมีผู้เสียหายแล้ว 60 ราย หลงเชื่อโอนเงินไปให้คนร้าย มูลค่าความเสียหายกว่า 73 ล้านบาท
รอง ผบ.ตร.ย้ำว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีนโยบายให้ผู้เสียหายหรือใครโอนเงินมาเพื่อตรวจสอบธุรกรรมใดๆ ทั้งสิ้น หากพบผู้แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ เช่น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ป.ป.ส., ปปง. หรือ DSI ขอให้ใช้ความระมันระวังการถูกแอบอ้าง หากพบเบาะแส หรือเกรงจะตกเป็นเหยื่อ สามารถแจ้งข้อมูลเข้ามาได้ที่ www.pct.police.go.th หรือ สายด่วนศูนย์ PCT 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสายตรง 081-866-3000 .-สำนักข่าวไทย