ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตั้งฐานที่กัมพูชา

กทม.23 ธ.ค.- ผบ.ตร.ประสานกระทรวง DES เปิดปฏิบัติการข้ามแดน สตม.-ชุด PCT ร่วมตำรวจ-ทหารกัมพูชา จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 2 เมืองกลางแดนกัมพูชา จับผู้ต้องหาคนสำคัญกลับมาดำเนินคดี


เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยนำโดยนายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล เลขา รมว.DES พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม.ในฐานะหัวหน้าชุดเทคนิคและสืบสวนที่ 1 ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT นำกำลังเข้าประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารประเทศกัมพูชา เข้าตรวจค้นอาคารต้องสงสัยจำนวน 2 แห่งใน 2 เมืองของกัมพูชา หลังชุดสืบสวน บก.สส.สตม.และตำรวจ PCT สืบสวนแกะรอยพบว่าทั้ง 2 แห่งเป็นจุดที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทยใช้เป็นแหล่งกบดานและฐานในการกระทำความผิดหลอกลวงคนไทยให้โอนเงินด้วยวิธีต่างๆทำให้เกิดความเสียหายจำนวนหลายร้อยล้านบาท

จุดแรกที่เข้าตรวจค้นคือ  อาคารคาสิโนหลังหนึ่งกลางเมืองสีหนุวิลล์ จังหวัดกำปงโสม จากการตรวจค้นบนชั้น  10 ซึ่งเช่าช่วงจากบ่อนคาสิโนพบชาวไทยกำลังใช้อุปกรณ์คอลเซ็นเตอร์ติดต่อสื่อสาร จึงเข้าควบคุมตัวทั้ง 32 คน นอกจากนี้ยังพบชาวต่างชาติอื่นอีกจึงส่งตัวให้ตำรวจกัมพูชาสอบสวน เพื่อตรวจสอบการกระทำความผิดและตรวจสอบสถานะการเข้าเมืองของแต่ละคน


จุดที่ 2 เข้าตรวจค้นอาคารที่พักแห่งหนึ่งใกล้กับสนามบินแห่งชาติกัมพูชา กรุงพนมเปญ พบว่าเป็นอาคาร 8 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิดพร้อมกับติดรั้วลวดหนามที่กำแพง จากการตรวจค้นพบคนจีน 5 คน และคนไทยอีก 7 คน อยู่ในอาคาร เบื้องต้นพบว่ามีการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์บางอย่างออกจากจุดเกิดเหตุ และพบตัวนายพยัคฆพล ชิงหลู่ อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย ตรงตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ สตม. ขอศาลออกไว้ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันฟอกเงิน จึงควบคุมตัวพร้อมประสานเพื่อส่งกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. ในฐานะ ผอ. ศปอส.ตร. และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อ เศรษฐกิจและสังคมให้ติดตามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่หลอกลวงคนไทยให้โอนเงินจนเกิดความเสียหายหลายร้อยล้านบาท ก่อนหน้านี้ สํานักงานตํารวจแห่งชาติได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย กรณีถูกคนร้ายแอบอ้างเป็นพนักงานคอลเซนเตอร์ บริษัทส่งสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งแจ้งว่าพบสินค้าเป็นยาเสพติด จํากน้ันได้มีคนร้ายอ้างว่าเป็นตํารวจไทย และแจ้งว่าผู้เสียหายฟอกเงินเกี่ยวกับยาเสพติดและต้องให้ผู้เสียหายโอนเงินในธนาคารที่มีท้ังหมด เพื่อตรวจสอบ โดยผู้เสียหายหลงเชื่อ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวต่อว่า ชุดสืบสวนตรวจสอบพบว่าบัญชีธนาคารที่คนร้ายใช้กระทําความผิด มีการทําธุรกรรมทางการเงิน ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพชูา ซึ่งเชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ใช้ในการกระทําความผิด มีร้ัวล้อมรอบสูงประมาณ 3 เมตร ล้อมรอบบนกําแพงทุกด้าน มีประตูเข้าออกช่องทางเดียวหากมีรถเข้าจะมีเจ้าหน้ําที่รักษาความปลอดภัยติดกล้องวงจรปิดควบคุม จากการสืบสวนพบว่าคนร้ายโทรศัพท์หลอกลวงคนไทยในสถานที่ดังกล่าว โดยใช้สคริปข้อความหลอกเหยื่อคนไทยจากการรับแจ้ง ต้ังแต่เดือนกันยายน 2564 ถึงปัจจุบัน พบกลุ่มคนร้ายกระทําความผิดในลักษณะเดียวกัน ได้หลอกลวงผู้เสียหายชาวไทย 60 ราย มูลค่าความเสียหายรวม 73 ล้านบาท


นอกจากนี้ยังพบบัญชีธนาคารที่ใช้ในการกระทําความผิด รวมมูลค่าเสียหายกว่า 100 ล้านบาท โดยเชื่อว่ายังมีผู้ที่ยังไม่ได้แจ้งความอีกหลายราย ซึ่งอาจมีความเสียหายสูงถึง 300 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ตํารวจได้ขอศาลออกหมายจับผู้กระทําความผิดชาวไทยจํานวน 15 ราย โดยเชื่อว่าผู้ต้องหาบางส่วนทํางานอยู่ในสองจังหวัดดังกล่าว สํานักงานตํารวจแห่งชาติ จึงประสานความร่วมมือกับทางการกัมพูชาเข้าตรวจค้น โดยสามารถจับกุมนายพยัคฆพล ผู้ต้องหารายสำคัญได้

ด้านนายเอกสิทธิ์ กล่าวว่า ได้ร้บคำสั่งจากนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้ประสานกับตำรวจชุดจับกุม เนื่องจากการกระทําดังกล่าว สร้างความเสียหายให้ประชาชน สังคม และเศรษฐกิจอย่างร้ายแรง ซึ่งได้รับการร้องเรียนผ่านเว็บไซต์อาสาจับตาออนไลน์ของทางกระทรวงฯผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ อีกท้ังมีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งเป็นการกระทําที่ฝ่าฝืนและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายในรูปแบบอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งมีความซับซ้อนในการสืบสวนติดตามจับกุม และคนร้ายกระทําในต่างประเทศ กระทรวงฯ จึงประสาน สํานักงานตํารวจแห่งชาติเพื่อขอความร่วมมือในการดําเนินการคร้ังนี้ ขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ และสามารถตรวจสอบข้อมูลข้อสงสัยจากตำรวจและกระทรวงฯได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อภิปรายนายก

“บิ๊กป้อม” ซักฟอก 10 นาที นายกฯ แจงที่พูดมาไม่เป็นความจริง

“บิ๊กป้อม” ลุกอภิปรายครั้งแรก ซัดแรง “ประเทศไม่ใช่เวทีให้มือสมัครเล่นมาซ้อมมือ” ชี้ มีพฤติการณ์ไม่อาจไว้วางใจให้บริหารประเทศ เหตุเศรษฐกิจล้มเหลว-เสี่ยงเสียดินแดนปม MOU44-กาสิโนจะนำชาติไปสู่ความหายนะ ลั่น เคยใช้ใจบันดาลแรง บริหารประเทศสำเร็จหลายอย่าง แนะ นายกฯ เห็นประโยชน์ประเทศมากกว่าครอบครัว-พวกพ้อง ขณะที่ นายกฯ ลุกขึ้นแจงสภาครั้งแรกย้อนกลับ คำพูด “ประวิตร” ทุกอย่างที่พูดมาไม่เป็นความจริง

ลดราคาน้ำมัน

“พีระพันธุ์” ลดราคาน้ำมัน 1 บาท ช่วงสงกรานต์ ตรึง LPG -หาทางลดค่าไฟ

“พีระพันธุ์” ประธาน กบน.ใช้ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ประกาศข่าวดี ผลงานเด่น ลดราคาน้ำมันเบนซิน-ดีเซล 1 บาท/ลิตร เป็นของขวัญให้ประชาชนช่วงสงกรานต์ ตรึงราคาแอลพีจี และเตรียมหาทางลดค่าไฟฟ้าลงอีก

สกัดจับรถตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลงขนยาเสพติดข้ามประเทศ

ตำรวจขยายผลสกัดจับยาบ้าลักลอบขนมาจากตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลง ข้ามชายแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พบพฤติกรรมผู้ต้องหาเปิดบริษัทซื้อรถบรรทุกขนตู้คอนเทนเนอร์ส่งน้ำข้ามชายแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน แต่กลับดัดแปลงรถตู้คอนเทนเนอร์นำยาเสพติดเข้าประเทศ

Noon Varanuch in China

“นุ่น วรนุช” ลุคสวยสะกด ร่วมรายการวาไรตี้จีน

ฉางซา 24 มี.ค. – “นุ่น วรนุช” ดารานักแสดงชื่อดังของไทย โชว์ความสามารถในรายการ “ไรด์ เดอะ วินด์” (Ride The Wind) หรือเฉิงเฟิง ปี 2025 ของช่องแมงโกทีวี (Mango TV) ในจีน ซึ่งเริ่มต้นออกอากาศตอนแรกเมื่อวันศุกร์ 21 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า นุ่น วรนุช นักแสดงหญิงชาวไทย เข้าร่วมบันทึกเทปรายการไรด์ เดอะ วินด์ หรือเฉิงเฟิง ปี 2025 โดยเธอได้ร้องเพลง “พิง” ของนนท์ ธนนท์ ฉบับภาษาไทย-ภาษาจีน บนเวทีริมทะเลที่อำเภอปกครองตนเองหลิงสุ่ย กลุ่มชาติพันธุ์หลี มณฑลไห่หนานทางตอนใต้ของจีนเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2568 ไรด์ เดอะ วินด์ หรือเฉิงเฟิง เป็นรายการวาไรตี้โชว์ชื่อดังที่ออกอากาศมา 6 ซีซันแล้ว เปิดโอกาสให้ดารานักแสดงหญิงจากทั่วโลกมาทำการแสดงด้วยเป้าหมายส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างจีนกับนานาชาติ โดยซีซันก่อนหน้านี้มีนักแสดงหญิงชาวไทยอย่างใหม่ ดาวิกา […]

ข่าวแนะนำ

“ผศ.พิมล” นั่งประธานโอลิมปิคไทยคนที่ 8

ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานคณะคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยคนที่ 8 โดยนับเป็นพลเรือนคนแรกในรอบ 60 ปี ที่ไม่มีตำแหน่งทางทหาร

โจรชุดไรเดอร์บุกชิงทอง 30 บาท กลางห้างดังย่านบางแค

ล่าโจรแต่งชุดไรเดอร์บุกเดี่ยวชิงทอง ร้านทองห้างดัง ย่านบางแค กวาดทอง 30 บาท มูลค่าเกือบ 1.5 ล้านบาท ไล่กล้องวงจรปิดพบเดินเท้าออกมาจากซอยข้างห้าง ก่อนทิ้งเสื้อไรเดอร์หนี

นายกฯ แจงปมชั้น 14 รพ.ตำรวจ ยันไม่มีดีลปีศาจ

นายกฯ แจงปมชั้น 14 รพ.ตำรวจ ยันไม่มีดีลปีศาจ ต่อให้ก้าวไกลเป็นรัฐบาล “ทักษิณ” ก็กลับประเทศ ชี้ “ทักษิณ“ ได้รับความไม่ยุติธรรมตลอด 20 ปี บอกลาออกจากความเป็นลูกสาว-ความเป็นแม่ไม่ได้ ขอวิจารณ์การทำงานจะเป็นประโยชน์มากกว่า

โรมอภิปรายนายใหญ่

“โรม” จัดหนักพุ่งเป้า “นายใหญ่”

“โรม” จัดหนักชั่วโมงกว่า พุ่งเป้า “นายใหญ่” สงสัย “นายกฯ แพทองธาร” ดีลปีศาจพาพ่อกลับบ้านหรือไม่ ท้าตอบคำถามเอง ในฐานะประจักษ์พยานเห็นเหตุการณ์มากที่สุด