“ฮั่น-จียอน” แจ้งความถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกโอนเงิน

กรุงเทพฯ 19 ธ.ค.-“ฮั่น เดอะสตาร์” จูงมือ “จียอน” แฟนสาว แจ้งความ สน.หัวหมาก หลังถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกโอนเงิน โทรศัพท์ข่มขู่พนักงาน ฝ่ายบัญชี อ้างฟอกเงิน ต้องให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ พนักงานโอนเงินเข้า 3 บัญชี เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน มารู้ตัวว่าถูกหลอก เมื่อถูกตัดสายทิ้ง หลังโอนเงินแล้ว​


นายอิสริยะ ภัทรมานพ หรือ ฮั่น เดอะสตาร์​ พร้อมด้วยนางสาว ซอ จียอน แฟนสาว ดาราสาวชื่อดัง และพนักงานในบริษัท เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ให้อายัดบัญชีและดำเนินคดีกับกลุ่มมิจฉาชีพ ที่โทรศัพท์มาหลอกลวงให้พนักงานในบริษัทโอนเงินให้กว่า 1 แสนบาท โดยอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งชื่อดังและตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ทำให้เกิดความเสียหาย เนื่องจากเงินที่โอนไป ส่วนหนึ่งเป็นเงินบริษัทของฮั่น ที่ไลฟ์ขายของประมาณ 60,000-90,000 บาท

ฮั่น เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเองไลฟ์ขายของครั้งแรก และเมื่อวันอังคารที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา ก็มีมิจฉาชีพโทรเข้าเบอร์บริษัท ทำให้พนักงานในบริษัทรับสาย จากนั้นก็อ้างเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่ง หลอกว่าทางบริษัทได้ส่งพัสดุผิดกฎหมาย ก่อนจะโอนสายให้กับผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งอ้างว่าเป็นตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ อีก 2 คน ซึ่งกล่าวหาว่าพนักงานคนดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน เพราะมีการจับกุมผู้ต้องหา พร้อมของกลางเป็นพาสปอร์ตปลอมกว่า 10 เล่ม และผู้ต้องหาซัดทอดว่าพนักงานคนดังกล่าวขายบัญชีให้กับผู้ต้องหา ดังนั้นจึงขอให้พนักงานคนดังกล่าวให้ความร่วมมือด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีที่กำหนด เพื่อให้ตำรวจตรวจสอบเส้นทางการเงิน ด้วยความตกใจกลัว พนักงานคนดังกล่าวจึงโอนเงินไปให้หลายครั้ง เข้าบัญชีมิจฉาชีพไม่ต่ำกว่า 3 บัญชี รวมกว่า 1 แสนบาท ซึ่งบัญชีที่โอนเงินออกไป แม้จะเป็นบัญชีส่วนตัวพนักงาน แต่ก็มีเงินของบริษัทรวมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นลักษณะเงินสำรองจ่าย


เบื้องต้นจึงต้องการให้ตำรวจอายัดบัญชีของมิจฉาชีพทั้ง 5-​6 บัญชี และดำเนินคดีกับขบวนการดังกล่าว ซึ่งคาดว่ามีไม่น้อยกว่า 3 คน

อย่างไรก็ตาม ฮั่นยังบอกอีกว่า สาเหตุที่ต้องนำเงินของบริษัทเข้าบัญชีพนักงานในบริษัทตนเองถึง 3 บัญชี เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยให้พนักงานถือเงินสด แต่ปรากฏว่าต่อมาเงินหายไป และพนักงานไม่สามารถชี้แจงได้ว่าเงินหายไปไหน จึงตัดสินใจใช้วิธีการเอาเงินเข้าบัญชี เพื่อให้สามารถตรวจสอบรายการเดินบัญชีได้ โดยได้รับความยินยอมจากพนักงาน พร้อมเปลี่ยนพนักงานยกชุด ซึ่งพนักงานที่ถูกหลอกเป็นชุดใหม่ที่มาทำงานได้เพียงปีเศษ และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่พนักงานชุดเก่าที่ออกไป อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มมิจฉาชีพ ฮั่นตอบว่าไม่ปักใจเชื่อ แต่มีความเป็นไปได้ เพราะมิจฉาชีพทราบข้อมูลส่วนตัวของพนักงานรายใหม่นี้ได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ฮั่นยังฝากเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพที่โทรศัพท์มาหลอกลวงลักษณะนี้ และควรตรวจสอบไปยังหน่วยงานหรือสถานีตำรวจที่มิจฉาชีพแอบอ้างก่อนว่า เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ขณะที่จียอนบอกว่า เชื่อว่าหน่วยงานรัฐจะไม่มีการโทรศัพท์หาก่อนโดยเด็ดขาด จึงขออย่าหลงเชื่อ และอย่าโอนเงินของเราให้ไปโดยเด็ดขาด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

อดีตผู้บังคับบัญชา “ผู้กำกับโจ้” เผยสมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร

อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดประวัติอดีตผู้กำกับโจ้ สมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร เชื่อได้รับผลกรรมที่ทำแล้ว

ข่าวแนะนำ

Exclusive! เปิดห้องขังแดน 5 “อดีต ผกก.โจ้”

กรมราชทัณฑ์ เปิดห้องขัง แดน 5 ของ “อดีต ผกก.โจ้” ให้สังคมได้เห็นสภาพความเป็นจริงอีกด้าน พบด้านในยังรักษาพื้นที่ และข้าวของเครื่องใช้ของอดีต ผกก.โจ้ เอาไว้ เผื่อเจ้าหน้าที่จะเข้ามาเก็บหลักฐานเพิ่มเติม

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ปี ฮ.ศ. 1446 ขณะที่นายกรัฐมนตรี ร่วมส่งใจให้พี่น้องชาวมุสลิมตั้งจิตมุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจถือศีลอด ในช่วงเวลาแห่งเดือนอันศักดิ์สิทธิ์

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท