กรุงเทพฯ 24 ต.ค. – เหตุชายคลุ้มคลั่งใช้มีดจี้รถแท็กซี่แล้วขับไปชนเสาไฟฟ้า ก่อนไปเสียชีวิตหน้าสถานีตำรวจ ผู้กำกับการ สน.บางชัน ยืนยันผู้เสียชีวิตไม่ได้ถูกตำรวจทำร้ายร่างกาย พบมีอาการเมาสุราจริง ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตต้องรอแพทย์นิติเวชชันสูตรยืนยัน
ความคืบหน้าเหตุการณ์ที่มีชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 40 ปี เสียชีวิตบริเวณหน้าห้องสายตรวจ สน.บางชัน หลังถูกจับกุมเพราะไปก่อเหตุจี้คนขับรถแท็กซี่แล้วขับไปชนเสาไฟฟ้า เหตุเกิดเมื่อประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา
พ.ต.อ.กิตติ แสงศิริวุฒิ ผู้กำกับการ สน.บางชัน เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาถูกตำรวจและพลเมืองดีจับกุมไว้ได้ หลังขับรถแท็กซี่ที่ขโมยมาไปชนเสาไฟฟ้าใกล้โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ก็ได้ตรวจสอบสภาพร่างกายแล้วไม่พบว่ามีอาการบาดเจ็บสาหัส จึงพาตัวมาที่ สน.บางชัน เพื่อรอให้สร่างเมา จะได้ทำการสอบสวน แต่เมื่อมาถึงที่หน้าห้องสายตรวจ ผู้ต้องหาก็ทิ้งตัวลงนอนกับพื้น มีอาการกระสับกระส่ายคล้ายคนเมาสุราอย่างหนัก จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพมาดูอาการและปฐมพยาบาล แต่จากนั้นไม่นานผู้ต้องหาก็เกิดหมดสติไป เจ้าหน้าที่ที่มาถึงก็ได้เร่งให้การช่วยเหลือแล้ว แต่ไม่เป็นผล จึงแจ้งแพทย์นิติเวชทำการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งจากการชันสูตรก็ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกาย ไม่พบบาดแผลใดๆ ตามร่างกาย จึงได้ทำบันทึกไปตามกระบวนการ และส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบอีกระยะหนึ่ง จึงจะทราบว่าเสียชีวิตจากสาเหตุใด ส่วนคดีที่ผู้เสียชีวิตชิงทรัพย์รถแท็กซี่นั้น ก็ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน เพียงแต่ในท้ายที่สุดเมื่อผู้ก่อเหตุเสียชีวิตไปแล้ว การดำเนินคดีย่อมระงับ
ขณะที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ญาติของผู้เสียชีวิตได้ติดต่อขอรับศพเพื่อไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ และไม่ขอตอบรายละเอียดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด. – สำนักข่าวไทย