คุมตัวหนุ่มจับเจ้าของโรงแรมเป็นตัวประกัน ส่งเรือนจำ

กรุงเทพฯ 23 ต.ค.-ตำรวจ สน.ยานนาวา คุมตัวผู้ต้องหาก่อเหตุ ใช้อาวุธมีดจับเจ้าโรงแรมเป็นตัวประกัน ส่งเรือนจำคลองเปรม หลังศาลรับฝากขังผู้ต้องหาไว้ในการควบคุม ขณะที่พี่สาวเผยน้องชายมีเรื่องเครียด


ตำรวจ สน.ยานนาวา คุมตัวนายกำพล หรือ หมี นากระโทก อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ใช้อาวุธมีดจับเจ้าโรงแรมบริเวณซอยเจริญกรุง 44 เป็นตัวประกัน ก่อนที่ตำรวจจะเข้าระงับเหตุและช่วยเหลือตัวประกันไว้ได้อย่างปลอดภัยเมื่อวานนี้ (22 ต.ค.) เพื่อนำตัวไปส่งยังเรือนจำคลองเปรม

หลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพนักงานสอบสวน ได้ดำเนินการการฝากขังผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ ต่อศาลอาญากรุงเทพฯใต้ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา 6 ข้อหา ประกอบด้วย บุกรุกเคหสถาน , กักขังหน่วงเหนี่ยว, ชิงทรัพย์, กรรโชกทรัพย์, พกพาอาวุธมีดไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และครอบครองยาแอมเฟตามีน(ยาเค) ทั้งนี้ไม่รวมข้อหาที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดต่อเด็กหญิงอายุ 14 ปี ที่ถูกทำร้ายร่างกาย กักขังหน่วง ซึ่งวันนี้ จะมีการนำเด็กหญิงอายุ 14 ปี มาสอบปากคำโดยสหวิชาชีพ จึงจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาที่ทำผิดเกี่ยวกับเด็กเพิ่มต่อไป


เบื้องต้น พนักงานสอบสวน ได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว และท้ายคำร้องได้ระบุ ถึงพฤติกรรมที่มีการกระทำความผิดซ้ำ โดยขอให้ศาลเพิ่มโทษตามดุลยพินิจ ซึ่งศาลอนุญาตตามคำร้องของพนักงานสอบสวน รับฝากขังผู้ต้องหาไว้ในการควบคุม

ด้านพี่สาวและน้องสาวของผู้ต้องหา ซึ่งเดินทางมาเยี่ยมน้องชาย เปิดเผยว่า ขณะที่ตนเองเข้าเยี่ยมนายกำพล น้องชาย ร้องไห้พร้อมกับกล่าวว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะก่อเหตุ จึงถามว่าแล้วทำไปทำไมน้องบอกมีเรื่องเครียด ยอมรับ​ว่าตอนนี้ ตนเองเป็นห่วง กลัวน้องชายจะคิดสั้นฆ่าตัวตายเพราะก่อนหน้านี้เคยทำร้ายตัวเองโดยใช้มีดกรีดหน้าและหัวมาแล้ว และระหว่างที่ถูกจำคุกอยู่ภายในเรือนจำก็เคยพยายามผูกคอตายมาแล้ว

แต่หลังจากที่ตนเองเข้าเยี่ยมทำให้นายกำพล คลายความเครียดลงได้บ้าง และยืนยันว่าหลังจากพ้นโทษมาแล้วจะไม่ก่อเหตุขึ้นอีก แต่ตนเองในฐานะที่เป็นพี่สาวรู้จักน้องชายเป็นอย่างดี เชื่อว่านายกำพลจะก่อเหตุอีก เพราะน้องชายเคยบอกกับตนเองว่าโลกภายนอก โดยเฉพาะ​สังคมสมัยนี้อยู่ยาก อยู่ข้างในคุกดีกว่าไม่ต้องสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ทำงานไก้วันละ 300 บาท กินวันเดียวหมดแล้ว อยู่ในไม่มีใครเดือดร้อน พ่อแม่พี่น้องไม่ต้องมารับภาระ​ โดยพี่สาวของผู้ต้องหายังเชื่อว่าน้องชายไม่คิดทำร้ายใคร หรือทำร้ายตัวประกันอย่างแน่นอน เพราะจากการสอบถามน้องชาย บอกว่าแค่ต้องการที่จะเอาตัวเองออกจากบริเวณที่เกิดเหตุ เท่านั้น หากปล่อยตัวประกันไปก่อน เกรงว่าจะถูกตำรวจวิสามัญ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น-อีสานอุณหภูมิลดลงอีกเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยในภาคอีสาน ส่วนภาคเหนือตอนบน ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก

พาชมเรือใบอิตาลีจอดเทียบท่าภูเก็ต

เมื่อ 2 วันก่อน สำนักข่าวไทยเก็บภาพของเรืออเมริโกเวส ปุชชี่ ขณะกำลังจะเข้าจอดเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ตให้ได้ชมไปแล้ว วันนี้คุณเพลินพิศ ชูเสน จะพาไปทำความรู้จักเรือลำนี้ให้มากขึ้นพร้อมกับพาไปเยี่ยมชมภายในตัวเรือ