กทม. 17 ต.ค.- ผบ.ตร.นำข้าราชการตำรวจ ประกอบพิธี “วันตำรวจ” ประจำปี 2564 พร้อมเปิดตัวแอปพลิเคชัน “แทนใจ” เชื่อมต่อข้อมูลข่าวสารสำคัญและสวัสดิการต่างๆ
วันที่ 17 ต.ค.เวลา 07.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต. จักกฤษ เครือสุนทรวานิช เลขานุการ ตร. เป็นตัวแทน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นำข้าราชการตำรวจในสังกัด สักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มี พระภูมิเจ้าที่ พระนารายณ์ พระนิรันตราย สักการะรูปจำลอง พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ ต่อมา ผบ.ตร.พร้อมด้วยนายกสมาคมตำรวจแม่บ้านตำรวจและคณะ ได้ร่วมวางพานพุ่มสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 4 พร้อมเป็นประธานพิธีสงฆ์ เจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ กับข้าราชการตำรวจผู้วายชนม์จากการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องในโอกาสวันตำรวจ ประจำปี 2564 โดยมี รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, ผู้บัญชาการตำรวจ, ผู้บังคับการ, ข้าราชการตำรวจ และสมาคมแม่บ้านตำรวจ ร่วมในพิธีฯอย่างพร้อมเพรียง
ทั้งนี้ เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งกองตำรวจขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2405 มีชื่อเรียกว่ากองโปลิศ ต่อมามีการปรับปรุงโครงสร้างเรื่อยมา กระทั่งวันที่ 13 ตุลาคม 2458 มีการประกาศรวมกรมพลตระเวนกับตำรวจภูธรเป็นกรมเดียวกัน เรียกว่า กรมตำรวจ ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงถือเอาวันที่ 13 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันตำรวจ และได้มีการประกอบพิธี วันตำรวจ อย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2492 กระทั่งเมื่อปี 2560 ได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงวันตำรวจไทย ให้เป็นวันที่ 17 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันสถาปนา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2541 เนื่องจากวันที่ 13 ตุลาคม ตรงกับวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงเปลี่ยนแปลง เพื่อเป็นการแสดงความเคารพเทิดทูนพระองค์
ในขณะเดียวกันพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ยังได้มีสารเนื่องในวันตำรวจ ถึงข้าราชการตำรวจมีใจความว่า : “เพื่อนข้าราชการตำรวจที่รัก เนื่องในโอกาสวันตำรวจ ได้เวียนมาบรรจบครบรอบอีกวาระหนึ่ง กระผมขอส่งความปรารถนาดีมายังเพื่อนข้าราชการตำรวจและครอบครัวทุกท่าน มา ณ โอกาสนี้ ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา นับเป็นหนึ่งปีที่พวกเราต้องเผชิญกับการแก้ไขวิกฤติของชาติ ร่วมกันในหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติจากโรคระบาด จากความแตกต่างทางความคิดของคนในชาติ หรือวิกฤติจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี ซึ่งส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของพวกเราอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนอย่างไรก็ตาม วิกฤติเหล่านี้ก็เป็นโอกาสให้เราได้สำรวจตรวจสอบและพัฒนาปรับปรุงตัวเอง ในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสมความมุ่งหมายของทางราชการ ภารกิจของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์คือ การพิทักษ์ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ การรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศ การระงับทุกข์บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ตลอดจนการให้บริการต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเราพืงต้องระลึกไว้อยู่ตลอดเวลา ว่าเป็นภาระหน้าที่อันทรงเกียรติ และจงภูมิใจกับเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายนี้ ขอขอบคุณในสำนึกของความเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ความทุ่มเท ความเสียสละ รวมทั้งความร่วมมือร่วมใจของพวกท่านทั้งหลาย ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชน ขอขอบคุณสมาชิก ครอบครัวข้าราชการตำรวจที่อยู่เคียงข้างร่วมทุกข์ร่วมสุข เป็นขวัญกำลังใจให้พวกเราได้สานต่ออุดมการณ์ของการเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไปด้วยกัน ในโอกาสอันสำคัญนี้ กระผมขอกราบอาราธนาอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลายในสากลโลก ตลอดจนเดชะพระบารมีแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯพระบรมราชินี ได้โปรดดลบันดาลพระราชทานพร ให้พี่น้องข้าราชการตำรวจและครอบครัวทุกท่าน จงประสบแต่ความสุขความเจริญ มีสุขภาพกาย สุขภาพใจ สมบูรณ์แข็งแรง แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวงมีความพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ที่ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธา ร่วมกันตลอดไป”
ต่อมาเวลา 09.45 น. พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิดตัวแอปพลิเคชัน “แทนใจ” ซึ่งเป็นการเปลี่ยนระบบด้านสวัสดิการและฐานข้อมูลกำลังพลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เข้าสู่ระบบดิจิทัล เชื่อมต่อข้อมูลข่าวสารสำคัญและสวัสดิการต่างๆ ให้ข้าราชการตำรวจสามารถตรวจสอบเรื่องสิทธิสวัสดิการ การประเมินขั้น สิทธิฌาปนกิจสงเคราะห์ การคำนวณเงินเยียวยากรณีได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ หลักสูตรการฝึกอบรมนอกหน่วย ผ่านทางแอปพลิเคชันได้ ซึ่งแอปพลิเคชันดังกล่าว ถือเป็นแอปสวัสดิการตำรวจ ที่จะช่วยให้การส่งข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็วและโปร่งใสยิ่งขึ้น .-สำนักข่าวไทย