กรุงเทพฯ 8 ต.ค. – จับแพทย์ปลอม แอบอ้างนำใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์หญิงมาใช้สมัครงานเป็นแพทย์นอกเวลาในสถานเสริมความงามหลายแห่ง
ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เข้าจับกุมนางสาวณัฐชานันท์ อายุ 30 ปี พร้อมตรวจยึดของกลางชุดที่ผู้ต้องหาสวมใส่ขณะทำงานหัตถการ จำนวน 5 ชุด อุปกรณ์ทางการแพทย์
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากสื่อสังคมออนไลน์ระบุว่ามีบุคคลใช้เฟชบุ๊กชื่อ Puguntong pacharamonna โพสต์ข้อความและภาพถ่ายของบุคคลสวมเสื้อกาวน์แพทย์ ปักชื่อของแพทย์ผู้อื่น ทำหัตถการด้านศัลยกรรมความงามอยู่ในสถานเสริมความงามแห่งหนึ่ง
ตรวจสอบแล้วพบว่าบุคคลดังกล่าวได้แอบอ้างนำใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของแพทย์หญิงท่านหนึ่งมาใช้สมัครงานเป็นแพทย์นอกเวลาในสถานเสริมความงามหลายแห่ง จึงสืบสวนขยายผล และสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง ทั้งแพทย์หญิงที่ถูกนำใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมไปใช้ เจ้าของคลินิกแห่งหนึ่งย่านบางแค ที่ผู้ต้องหานำเอกสารของแพทย์หญิงไปใช้สมัครงาน และผู้เสียหายที่เข้ารับการทำหัตถการ จนสามารถขอศาลอาญาธนบุรี อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา
สอบสวนนางสาวณัฐชานันท์ รับว่าได้โพสต์กระทู้ในเว็บไซต์อ้างว่าจะเปิดคลินิกเสริมความงาม ต้องการรับสมัครแพทย์มาทำงาน โดยให้ส่งเอกสารมาให้ทางไลน์ เมื่อได้รับเอกสารจากแพทย์ จะคัดเลือกแพทย์หญิงที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับตน แล้วนำเอกสารดังกล่าวมาใช้สมัครทำงานในคลินิกเสริมความงามในเขต กทม.หลายแห่ง
เบื้องต้นแจ้งข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 ฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้คำหรือข้อความอื่นใดที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเองเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และความผิดอาญา ฐานฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น เพื่อให้ได้ซึ่งทรัพย์สิน ฐานเอาไปเสียซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
ตรวจสอบประวัติยังพบว่านางสาวณัฐชานันท์ เคยถูกดำเนินคดี 2 ครั้ง เมื่อปี 56 และ 59 คดีอยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม
พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผู้บังคับการตำรวจ ปคบ. ระบุก่อนตัดสินใจเลือกใช้บริการสถานเสริมความงาม ควรตรวจสอบข้อมูลให้แน่ใจเสียก่อน พร้อมเตือนผู้ที่ประกอบกิจการสถานเสริมความงาม กรณีรับสมัครแพทย์หรือบุคลากรอื่นๆ มาทำหัตถการภายในสถานเสริมความงาม จะต้องตรวจสอบเอกสารและพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง หากพี่ประชาชนพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ. เตือนภัยผู้บริโภค.-สำนักข่าวไทย