รวบภัยสังคมแชตลวงสาว ถ่ายคลิปแบล็กเมล์

กรุงเทพฯ 24 ก.ย. – รวบหนุ่มใหญ่แชตลวงสาวถ่ายคลิปแบล็กเมล์เรียกเงิน 200,000 บาท แลกกับการไม่ปล่อยคลิป


ตำรวจรวบหนุ่มใหญ่ภัยสังคม แชตลวงสาวถ่ายคลิปแบล็กเมล์ เหตุเกิดเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ตำรวจได้รับการร้องเรียนผ่าน “เพจศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและผู้ร้ายสำคัญ” ว่ามีผู้ใช้บัญชีอินสตาแกรมชื่อ “โกโก้” ara1_234567890 มีพฤติการณ์นำคลิปวิดีโอลามกอนาจาร และภาพของบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหาย มาข่มขู่เรียกเงิน 200,000 บาท แลกกับการไม่ปล่อยคลิป และขอร่วมหลับนอนด้วย เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมทำตาม คนร้ายจะข่มขู่ต่อเนื่อง รวมถึงกดดันไปยังคนในครอบครัวและคนรอบข้าง ทำให้เกิดความอับอาย ส่งผลต่อหน้าที่การงานและสภาวะจิตใจเป็นอย่างมาก

ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ทำให้ทราบว่าคนร้ายรายนี้เคยรู้จักและเคยมีความสัมพันธ์กับผู้เสียหายมาก่อน ผ่านทางเว็บไซต์หาคู่ ตั้งแต่ปี 2560 โดยคนร้ายใช้ชื่อว่านาย “ยุ” หรือ “วายุ” (นามแฝง) ซึ่งจะพูดคุยออกอุบายต่างๆ คอยให้คำปรึกษาแก่ผู้เสียหายมาโดยตลอด จนผู้เสียหายเกิดความไว้ใจ นายยุจึงลวงให้ผู้เสียหายไปพบและพาเข้าโรงแรมเพื่อกระทำอนาจาร พร้อมอัดคลิปวิดีโอไว้ ซึ่งเป็นคลิปเดียวกันกับที่อินสตาแกรม “โกโก้” ara1_234567890 ใช้ในการข่มขู่ หลังจากนั้นนายยุยังคงรบเร้าให้ผู้เสียหายมาพบอีก โดยจะนำคลิปวิดีโอที่ถ่ายไว้มาข่มขู่และล่อลวงให้ผู้เสียหายไปพบอยู่เสมอ ผู้เสียหายเกรงว่าหากไม่ยอมทำตามจะทำให้เกิดความเสียหายต่อสวัสดิภาพและชื่อเสียง จึงทำตามที่นายยุข่มขู่ เมื่อผู้เสียหายไปถึงสถานที่ที่นายยุนัดหมาย พบว่านายยุพาเพื่อนมาอีก 2 คน จากนั้นนายยุ และเพื่อนอีก 2 คน ได้ขู่ทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัว และใช้กำลังข่มขืนผู้เสียหายหลายครั้ง นอกจากนี้ยังบังคับให้ผู้เสียหายอยู่ในห้อง จนผู้เสียหายทนต่อพฤติกรรมดังกล่าวไม่ไหว ออกอุบายหลบหนีออกมาจากห้องพักดังกล่าวได้ และไม่ได้ติดต่อกันอีก


ต่อมาวันที่ 1 ก.ค.2564 มีผู้ใช้อินสตาแกรม “โกโก้” ara1_234567890 ส่งข้อความพร้อมคลิปวิดีโอของผู้เสียหายกับนายยุ มาข่มขู่เรียกเงิน 200,000 บาท แลกกับการไม่ปล่อยคลิป และขอร่วมหลับนอนด้วย ผู้เสียหายจึงร้องเรียนผ่านทาง “เพจศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและผู้ร้ายสำคัญ”

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นายยุ หรือวายุ ผู้ต้องหาในคดีนี้ ซึ่งเป็นบุคคลที่ผู้เสียหายเคยพูดคุยผ่านทางเว็บไซต์หาคู่ และล่อลวงผู้เสียหายไปข่มขืนกระทำชำเราร่วมกับเพื่อนอีก 2 คน และเป็นบุคคลเดียวกับชายที่ปรากฏในคลิปที่นำมาข่มขู่ผู้เสียหาย จึงรวบรวมพยานหลักฐานโดยละเอียด กระทั่งทราบผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในครั้งนี้

โดยศาลจังหวัดชลบุรีได้อนุมัติหมายจับนายวรพตน์ อายุ 41 ปี ในความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และกรรโชกทรัพย์”


ล่าสุดสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว พร้อมกับตรวจยึดของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.แสนสุข เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จากการตรวจสอบพยานหลักฐานเบื้องต้นพบว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ที่ใช้อินสตาแกรม “โกโก้” ara1_234567890 ในการข่มขู่ผู้เสียหายจริง นอกจากคลิปที่ใช้ในการข่มขู่ผู้เสียหายแล้ว ผู้ต้องหายังมีคลิปวิดีโอที่ผู้ต้องหามีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหายรายอื่นด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหามีการเปิดบัญชีแอปพลิเคชันไลน์ เฟซบุ๊ก และแอปพลิเคชันหาคู่ เพื่อแชตพูดคุยกับเหยื่ออีกหลายราย ซึ่งตำรวจจะได้ตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียดต่อไป

กองปราบปรามจึงฝากประชาสัมพันธ์และเตือนภัยว่าในปัจจุบันคนร้ายมักแฝงตัวมาในสื่อโซเชียล หรือเว็บไซต์หาคู่ ซึ่งจะสร้างโปรไฟล์ที่ดูดี ทำทีพูดคุยหว่านล้อมด้วยคำพูดให้ดูน่าเชื่อถือ ทำให้ผู้ที่ใช้โซเซียลตกเป็นเหยื่อ หลงเชื่อให้ความไว้วางใจ จากนั้นเมื่อสามารถนัดพบกับผู้เสียหายได้แล้ว มิจฉาชีพกลุ่มนี้จะฉวยโอกาสจากความไว้วางใจกระทำชำเราและอัดคลิปวิดีโอไว้ ซึ่งอาจนำมาใช้ข่มขู่ว่าจะเผยแพร่ในภายหลัง จึงเป็นปัญหาอาชญากรรมที่สร้างความเสียหายแก่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเยาวชน หรือผู้ใหญ่ และมักเกิดขึ้นบ่อยกับผู้ใช้งานสื่อโซเซียลมีเดีย จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตรวจสอบโปรไฟล์บุคคล หรือพูดคุยให้แน่ใจว่าบุคคลนั้นมีตัวตนแท้จริงเป็นอย่างไร มีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหน

ทั้งนี้ ขอแจ้งเตือนไปยังกลุ่มมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสจากการใช้เทคโนโลยีเป็นช่องทางในการกระทำผิดกฎหมาย หากมีการเผยแพร่คลิป หรือนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ อาจเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(4) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากท่านตกเป็นเหยื่อ หรือพบเห็นพฤติการณ์ข้างต้น ให้แจ้งมาที่เพจกองบังคับการปราบปราม หรือสายด่วน 1195 หรือสถานีตำรวจในท้องที่ที่รับผิดชอบ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย

ทำเนียบ 10 มิ.ย.-นายกฯ พบชาวไร่อ้อย รับข้อเสนอราคาอ้อย มอบ รมว.อุตสาหกรรม แก้ปัญหาราคา ก่อนประชุม ครม. ไม่ตอบคำถามสื่อปมเอกสาร รทสช.ขอปรับรัฐมนตรี จับตา ครม. ถกข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ก่อนประชุม JBC 14 มิ.ย.นี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ โดยก่อนการประชุม ประธานสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และคณะ เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีติดตามการแก้ไขปัญหาของเกษตรกรมาโดยตลอด และมารายงานเรื่องนี้อย่างละเอียดอยู่ตลอด ตนทราบปัญหา ทางเกษตรกรจึงเน้นย้ำว่า ปัญหาจะแก้ไขได้ก็ต้องเป็นไปภายใต้การสนับสนุนจากนายกรัฐมนตรี “อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี จึงไหว้รับขอบคุณ พร้อมกับกล่าวต่อว่า อะไรที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมที่จะแก้ไขในทุกเรื่องอยู่แล้ว จึงอยากให้จัดระบบให้ดี เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนทุกกลุ่ม ขณะเดียวกันเกษตรกรยังฝากรัฐบาลให้ไปดูแลในการรับซื้อใบอ้อย เนื่องจากเกษตรกรให้ความร่วมมือในการตัดอ้อยสด ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับกล่าวแซว โห นี่จริงๆ ทำไมไม่ไปเป็นนักการเมือง ในสภาน่าจะเก่งเรื่องนี้ ทำให้เกษตรกรคนดังกล่าวกล่าวว่าลูกชายของตนเป็นนายก 6 สมัยรวด ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะกล่าวขอบคุณ และขอให้ทุกคน”รวยๆ […]

พญ. สังกัด รพ.ตำรวจ แอบสั่งยาเสียสาว ขายนอกระบบ

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจ และ อย. ร่วมกันตรวจค้นแฟลตตำรวจ พร้อมคุมตัวแพทย์หญิงสังกัด รพ.ตำรวจ หลังพบหลักฐานสั่งซื้อยาเสียสาว มาขายนอกระบบ ตั้งแต่ปี 65 อ้างชื่อ 11 คลินิก เงินหมุนเวียนกว่า 80 ล้านบาท เตรียมขยายผลต่อถึงผู้เกี่ยวข้อง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ลงพื้นที่แฟลตตำรวจแห่งหนึ่งย่านอารีย์ เขตพญาไท กรุงเทพ โดยได้รับรายงานจากนายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ว่าพบความผิดปกติในการสั่งซื้อยาอัลปราโซแลม หรือยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาวที่ทำให้หลับและเคลิ้มไป ในทางสืบสวนสอบสวน พบว่า หมอคนนี้ สั่งซื้อยาจาก อย. ตั้งแต่ปี 2565-2568 15 ล้านบาท ทาง อย. เห็นความผิดปกติ จึงพูดคุยกับตำรวจและตรวจสอบเส้นทางการเงิน พบมีการแอบอ้าง 11 คลินิกในการสั่งซื้อยา […]

สามียิงภรรยาดับคารถ ซอยเพชรเกษม 67

กทม. 10 มิ.ย. – ตำรวจปิดล้อมจับกุมสามีวัย 40 ยิงภรรยาวัย 36 เสียชีวิตคารถ ก่อนหนีไปหลบในบ้าน ซอยเพชรเกษม 67 ตรวจค้นที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 3 กระบอก ตำรวจ สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุ พบศพภายในรถเก๋ง HRV ทะเบียนกรุงเทพมหานคร จอดอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เบื้องต้น ทราบชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นายมีพาพัฒน์ อายุ 40 ปี สามี ส่วนผู้เสียชีวิต น.ส.นันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยา ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า ผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านพัก จึงตรึงกำลังปิดล้อมบ้านพักซึ่งลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ ระหว่างนั้นญาติของผู้ตายได้เดินทางมาเพื่อสอบถามเหตุ ทันทีที่รับรายงานจากตำรวจ ญาติก็มีสีหน้าเครียด น้ำตาคลอ ให้ข้อมูลว่านายมีพาพัฒน์ คบหากับผู้เสียชีวิตมาเป็นเวลาหลาย 10 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน ตำรวจปิดล้อมพื้นที่นานกว่า […]

ตั้งค่าหัว 1 แสน ไล่ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ

เชียงราย 9 มิ.ย. – ญาติสุดแค้น ตั้งค่าหัว 100,000 บาท ล่าอดีตสามีโหดฆ่า 2 ศพ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหายังไร้ร่องรอย เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 32 (ตชด.32) นำ “โทมี่” สุนัขตำรวจ K9 พันธุ์ลาบราดอร์ เข้าร่วมภารกิจติดตามจับกุมนายซ้งปอ อายุ 55 ปี คนร้ายก่อเหตุฆ่าโหดอดีตภรรยาและน้องชายอดีตภรรยาเสียชีวิต ในพื้นที่บ้านร่มฟ้าผาหม่น หมู่ 15 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 และ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนหลบหนีเข้าป่าดอยผาหม่น ซึ่งเป็นภูเขาสูงชันและเต็มไปด้วยถ้ำและซอกเขา ทำให้ภารกิจไล่ล่ายากลำบาก แม้ใช้โดรนตรวจจับความร้อนทั้งกลางวันและกลางคืนก็ยังไม่พบตัว นายสุรชัย ผู้ใหญ่บ้านร่มฟ้าผาหม่น เปิดเผยว่า นายซ้งปอเป็นคนพื้นที่และมีความชำนาญเส้นทางป่า เคยหลบซ่อนตัวในป่านานถึง 2 เดือน โดยไม่มีใครเจอ และเป็นบุคคลอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปค้นหา ก่อนหน้านี้นายซ้งปอเคยขู่ฆ่าผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่เคยมีส่วนไกล่เกลี่ยให้แยกทางกับภรรยา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้เหลือประชาชนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 20-30% ส่วนที่เหลือพากันอพยพไปอยู่กับญาติในหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อความปลอดภัย […]

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพความจริง! อดีต-ปัจจุบันชายแดนช่องบก

11 มิ.ย. – ‘กองทัพไทย’ เปิดภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ ชายแดนช่องบก อุบลราชธานี เปรียบเทียบอดีต-ปัจจุบัน พบการทำกิจกรรมทางทหาร-ขุดคูเลต-ทำถนนส่งกำลังบำรุง ก่อนเหตุปะทะช่องบก 28 พ.ค.2568 ทีมโฆษกกองทัพไทย เปิดข้อมูลแผนที่ทางอากาศ จัดทำโดยกองบัญชาการกองทัพไทย จากกรณีไทย และกัมพูชา มีข้อสังเกตหลายประเด็นที่ปรากฏในภาพถ่ายทางอากาศตรงจุดปะทะ โดยภาพถ่ายทางอากาศ เริ่มตั้งแต่ปี 2497 ช่วงแรกถ่ายไว้จนถึงปี 2520, 2527 และมีการถ่ายภาพทางอากาศอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีที่อ้างถึงการยึดครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่ที่มีปัญหานานมากแล้วนั้น หากมองตามภาพถ่ายทางอากาศ จะยืนยันได้ว่า ไม่มีการเข้าไปใช้พื้นที่อย่างที่อ้าง ข้อมูลของกองทัพไทย ยังได้เปรียบเทียบเส้นสีแดงในแผนที่ เป็นเส้นแนวที่ไทยยึดถือ ใช้แบ่งแนวเขตระหว่างไทย กัมพูชา และลาว ส่วนจุดปะทะที่เกิดขึ้นนั้น เป็นพื้นที่ที่เข้ามาทางฝั่งไทย ทั้งนี้ กองทัพไทยยังมีการถ่ายทางอากาศต่อเนื่องยาวมาถึงปี 2539, 2546, 2553 และ 2561 เป็นที่สังเกตได้ว่า ช่วง 70 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2497 ไม่มีใครเข้ามาถือครอง และใช้ชีวิตในพื้นที่นั้น หากมองถึงกิจกรรมของประเทศเพื่อนบ้านที่ประเด็นในปัจจุบันนั้น เห็นได้อย่างชัดเจนตามภาพถ่ายทางอากาศว่า มีการเคลื่อนไหวทางการทหารที่แตกต่าง […]

Los Angeles mayor issues curfew for downtown Los Angeles

นายกฯ เล็กแอลเอประกาศเคอร์ฟิว

ลอสแอนเจลิส 11 มิ.ย.- นางแคเรน แบสส์ นายกเทศมนตรีนครลอสแอนเจลิส (LA) ประกาศมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว ย่านใจกลางเมือง หลังจากมีการทำลายทรัพย์สินในวงกว้างจากเหตุประท้วงต่อต้านเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง นางแบสส์แถลงว่า เคอร์ฟิวจะมีผลครอบคลุมพื้นที่ในรัศมี 1 ตารางไมล์หรือราว 2.6 ตารางกิโลเมตรจากย่านใจกลางเมือง ตั้งแต่เวลา 20.00 น.วันที่ 10 มิถุนายนจนถึงเวลา 06.00 น.วันที่ 11 มิถุนายนตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าไทย 14 ชั่วโมง  ก่อนหน้านี้เธอย้ำระหว่างการแถลงข่าวว่า เหตุไม่สงบเกิดขึ้นอย่างจำกัดในบางพื้นที่เท่านั้น ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ประท้วงอย่างสันติ มีเพียงกลุ่มปลุกปั่นกลุ่มเล็ก ๆ เท่านั้นที่ก่อเหตุรุนแรงและฉกชิงทรัพย์สิน การประท้วงในแอลเอเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน เมื่อเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐหรือไอซ์ (ICE) กวาดจับผู้อพยพลอบเข้าเมือง กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิแจ้งเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนว่า ไอซ์จับกุมผู้ลอบเข้าเมืองได้วันละ 2,000 คน มากกว่าสมัยรัฐบาลโจ ไบเดนที่จับกุมเฉลี่ยวันละ 311 คนในปีงบประมาณ 2567 ตำรวจแจ้งว่า เมื่อวานนี้จับกุมผู้ชุมนุม 197 คน […]

นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

ดอนเมือง 11 มิ.ย.- นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจกำลังพล กองกำลังสุรนารี และพบปะประชาชนที่ด่านช่องจอม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ตำบลร่อนทอง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดสุรินทร์ ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา จากนั้น เวลา 11.05 น. นายกรัฐมนตรี เดินทางต่อไปเป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์การคลี่คลายปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และมาตรการสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ณ ห้องประชุมอัมพรพิมาน โรงพยาบาลกาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ก่อนที่ นายกรัฐมนตรี […]

เปิดปมสามียิงภรรยาดับคารถ ปัญหาเรื่องเงิน

กทม. 11 มิ.ย. – เปิดปมเหตุสามียิงภรรยาดับคารถ พี่ชายกับเพื่อนรุ่นน้องเผยว่าผู้ก่อเหตุมีปัญหาเรื่องเงิน พบช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป จากกรณีนายมีนาพัฒน์ อายุ 40 ปี ก่อเหตุยิงนางสาวนันทิชา อายุ 36 ปี ภรรยาของตัวเอง แล้วทิ้งศพไว้ในรถ ในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 เขตบางแค และหลังก่อเหตุปิดล็อกประตูเงียบอยู่ในบ้านพัก เจ้าหน้าที่ล้อมจับนาน 4 ชั่วโมง จนยอมมอบตัวเมื่อคืนวานนี้ (10 มิ.ย.) ต่อมาพี่ชายของนายมีนาพัฒน์ มาเยี่ยมผู้ก่อเหตุที่ สน.เพชรเกษม เปิดใจยอมรับว่าสาเหตุส่วนใหญ่มาจากปัญหาเรื่องเงิน เมื่อช่วงเดือนเมษายน น้องสะใภ้ (ผู้ตาย) บอกว่า น้องชายนำบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดกไปเข้าธนาคาร 2 ล้านกว่าบาท ซึ่งผิดจากปกติที่น้องไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินมาก่อน เพราะแม่ยกสมบัติให้เยอะมาก ครั้งสุดท้ายที่คุยกับน้องชายคือเมื่อวานนี้ช่วง 19.30 น. น่าหลังจากก่อเหตุฆ่าภรรยาแล้ว คุยกันประมาณครึ่งชั่วโมงสังเกตได้ว่าน้องชายมีอาการสับสน พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มีบางประโยคที่น้องชายพูดออกมาแล้วรู้สึกหงุดหงิดใจ เรื่องบ้านที่แม่ยกให้เป็นมรดก บอกว่า “บ้านหลังนี้ครอบครัวเราจะต้องได้อยู่” […]