fbpx

ผบช.น. ยืดอกรับตำรวจขับรถชนผู้ชุมนุมจริง

กทม. 13 ก.ย.-ผบช.น. รับตำรวจขับรถชนผู้ชุมนุมจริง เหตุถูกรุมใช้ไม้ทุบตีรถ มีเสียงระเบิดดังรอบรถหลายครั้ง ไม่ใช่ชนแล้วหนี ย้ำปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีการเผาทำลายทรัพย์สิน เกิดความเสียหาย ก่อความวุ่นวาย

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ชี้แจงกรณีมีการแชร์คลิปเหตุการณ์รถควบคุมผู้ต้องหาเฉี่ยวชนผู้ชุมนุม จนได้รับบาดเจ็บและหลบหนี ว่า จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งรถดังกล่าวเป็นรถควบคุมผู้ต้องหาของ สน.พลับพลาไชย 1 ซึ่งเมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา ส.ต.อ.นรเศรษฐ ผบ.หมู่ ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 ได้รับคำสั่งจากต้นสังกัด ให้นำรถควบคุมผู้ต้องหาของ สน.พลับพลาไชย 1 คันหมายเลขทะเบียน ฮจ 5399 กทม. ไปสนับสนุนภารกิจที่ ตร. และหลังจากการเสร็จภารกิจที่ ตร. ให้ไปสนับสนุนภารกิจ ที่ บช.ปส. จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. ได้มีการสั่งกำลังพลบางส่วนที่สนับสนุนการปฏิบัติการควบคุมสถานการณ์ที่แยกดินแดง สามารถถอนกำลังกลับที่ตั้งได้ ส.ต.อ.นรเศรษฐ จึงได้ขับรถคันดังกล่าว เดินทางกลับ สน.พลับพลาไชย 1 เพื่อนำรถยนต์คันดังกล่าวมาเก็บที่ สน. และจะนอนพักที่ สน. เพื่อรอปฏิบัติหน้าที่ในวันรุ่งขึ้น โดยคิดว่ากลุ่มผู้ชุมนุม ผู้ก่อความไม่สงบได้ออกนอกพื้นที่แยกดินแดงแล้ว จึงได้ใช้เส้นทางถนนวิภาวดีรังสิต และเมื่อเวลาประมาณ 23.45 น. ได้ขับมาถึงบริเวณแยกดินแดง มีกลุ่มคนประมาณ 6-7 คน วิ่งออกจากข้างถนน เข้ามายังรถควบคุมผู้ต้องหาคันดังกล่าว และได้ใช้ไม้ วัตถุของแข็ง ตีบริเวณกระจกหน้าฝั่งคนขับ รวมถึงรอบๆ ตัวรถ และมีเสียงระเบิดดังขึ้นบริเวณรอบรถหลายครั้ง ส.ต.อ.นรเศรษฐ เกรงว่าจะได้รับอันตราย เนื่องจากไม่ได้พกพาอาวุธประจำกาย จึงพยายามขับรถออกจากบริเวณดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ในจังหวะนั้นได้มีบุคคลเข้ามาขวางบริเวณด้านหน้ารถ เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนบุคคลดังกล่าว ต่อมารถคันดังกล่าวยางแตก ไม่สามารถขับต่อได้ จึงได้เลี้ยวเข้าจอดที่ รพ.พระมงกุฎ ส.ต.อ.นรเศรษฐ ได้เดินทางกลับไปที่ สน.พลับพลาไชย 1 แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะดำเนินการนำรถควบคุมผู้ต้องหาคันดังกล่าว มาเก็บรักษาไว้ที่ สน.พลับพลาไชย 1 ก่อนแจ้งให้พนักงานสอบสวน สน.ดินแดง ทราบเหตุดังกล่าว ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน เวลาประมาณ 03.20 น. และแจ้งเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ตรวจพยานหลักฐานรถคันเกิดเหตุ


ส่วนประเด็นชนแล้วหนีหรือไม่ ไม่ใช่ชนแล้วหนี แต่พยายามตรวจสอบสถานพยาบาล ไม่ได้มีใครเข้ารับการรักษาบุคคลใดที่ได้ระบุบาดเจ็บจากการดำเนินการของตำรวจ เป็นสิทธิ์ของคนที่ถูกกระทำ เหตุที่ไม่จอดเนื่องจากเกรงว่าจะเกิดอันตราย

ส่วนการปฏิบัติหน้าที่เป็นการปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีการเผาทำลายทรัพย์สิน เกิดความเสียหาย ก่อเหตุความวุ่นวาย ส่วนเหตุการที่มีการเข้าพื้นที่แฟลตดินแดงนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากมีเหตุความรุนแรงเกิดขึ้นไม่หยุด เป็นเหตุให้ตำรวจถูกระเบิดได้รับบาดเจ็บสาหัส ตนเองจะพูดที่ข้อเท็จจริงเกิดขึ้นจากอะไรให้คนใช้ดุลยพินิจเอา ตำรวจทำในกรอบของกฎหมาย ไม่ใช่เอากำลังไล่ตีกลุ่มคนชุมนุม อยู่ในที่ตั้ง บางครั้งคนก่อเหตุเผาทำลายทรัพยทำลายทรัพย์สินจึงใช้กำลังเข้าควบคุม อย่างการเผาทำลายซุ้ม


ส่วนมาตรการป้องกันในการระงับเหตุอย่างไรนั้น พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ระบุว่า ทุกวันนี้ตำรวจได้รับบาดเจ็บ และข้อเท็จจริงตำรวจไม่ได้ใช้อาวุธปืนจริงสักครั้ง แต่เราใช้กระสุนยาง ใช้แก๊ส ส่วนการป้องกันตั้งด่านสกัดนั้น ตำรวจพยายามตรวจค้นรถต้องสงสัย รถจักรยานยนต์เป็นหลัก จุดตรวจจุดสกัดเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ พยายามรักษาความสงบใช้กำลังตามสมควรแก่เหตุ ตรวจค้นก่อนการชุมนุมก็ตาม ดำเนินคดีภายหลังก็ทำ เหตุการณ์ลุกลามก็พยานามใช้กำลังระงับเหตุ ส่วนผู้หญิง 2 คนถูกดำเนินการ ได้รับฟังจากสื่อ โดยจะดำเนินการตรวจสอบ

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษก บช.น. ระบุว่ากรณีที่มีการนัดหมายชุมนุมผ่านช่องทางออนไลน์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 13 ก.ย. จะมีการรวมตัวกันของกลุ่มหลักๆ คือ กลุ่มทะลุแก๊ส ยังไม่ทราบเวลา นัดหมาย ที่แยกดินแดง บช.น. ขอเตือนว่ากรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ที่ประกาศ เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมหรือรวมกลุ่มทํากิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรค จะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไข สถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 10 ลง 31 ส.ค.64 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ อีกส่วนหนึ่ง โดยทาง บช.น. ได้จัดเตรียมกําลังเจ้าหน้าที่ตํารวจเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองไว้แล้ว

พล.ต.ต.ปิยะ ระบุอีกว่า จากการชุมนุมในวันที่ 12 ก.ย. 2564 มีการจัดกิจกรรม 2 กลุ่มหลักๆ คือ 1.กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ เวลา 19.00-19.30 น. ได้ทํากิจกรรมปราศรัย และสาดสีบริเวณหน้าวัดสระปทุม ฝั่งตรงข้ามสํานักงานตํารวจแห่งชาติ 2.กลุ่มต่อต้านเผด็จการและกลุ่มทะลุแก๊สที่บริเวณแยกดินแดง เริ่มรวมตัวเวลา 17.30 น. มีการนําแผงเหล็กมาปิดการจราจร จุดไฟเผาทรัพย์สินต่างๆ บริเวณทางขึ้นด่วนมุ่งหน้าบางนา ใต้ทางด่วน และบริเวณ หน้า ปปส. เป็นเหตุให้มีเพลิงไหม้เป็นจํานวนมาก เวลา 19.50 น. เจ้าหน้าที่จึงออกมาควบคุมเพลิง ระหว่างนั้นกลุ่มฯได้ใช้หนังสติ๊ก,วัสดุท่ออัดแก๊ส ในการยิงลูกแก้ว ประทัดยักษ์ พลุไฟ ระเบิดต่างๆ บริเวณหน้ากรมดุริยางค์ทหาร และฝั่งถนนมิตรไมตรี เป็นระยะๆ


เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้มีการประกาศเตือนให้กลุ่มผู้ชุมนุม ยุติการกระทําและออกจากพื้นที่ทั้งหมด แต่กลุ่มฯ ไม่ยอมเชื่อฟังและยังคงก่อความวุ่นวายต่อ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ ลุกลามบานปลาย เวลาประมาณ 22.00 น. เจ้าหน้าที่จึงต้องเข้าบังคับใช้กฎหมายและผลักดัน กลุ่มผู้ชุมนุมให้ออกจากพื้นที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ต่อมามีการจุดไฟเผา บริเวณหน้าสนามไทยญี่ปุ่นดินแดง รถไม่สามารถผ่านได้ และลงมาปิดถนน โรยตะปูเรือใบ บริเวณปากซอยบุญอยู่ ไม่ให้รถผ่านลงอุโมงค์ดินแดง จากการก่อความวุ่นวายของผู้ชุมนุมเป็น เหตุให้มีทรัพย์สินสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหายจํานวนหนึ่ง ทั้งนี้มีการจับกุม ผู้กระทําความผิดพร้อมของกลาง เป็นอาวุธปืน, เครื่องกระสุนปืน, หนังสติ๊ก และลูกแก้ว จํานวนหนึ่ง ส่งพนักงานสอบสวนดําเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ, เมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมให้เลิกแล้วไม่ เลิกฯ ,ครอบครองและพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับ อนุญาตฯ หรือความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และยังตรวจพบของกลางที่ตกในบริเวณรอบ สามเหลี่ยมดินแดง เป็นระเบิดแสวงเครื่อง ระเบิดปิงปอง อีกส่วนหนึ่ง

ส่วนกรณีประชาชนถูกทำร้ายร่างกายมีผู้เสียหาย 1 ราย นายภวดล ประสิทธิ์ อายุ 20 ปี แจ้งความถูกทำร้ายบริเวณเชิงสะพานพระรามเก้า ทำให้ศีรษะแตก แขนขาถูกอาวุธมีดฟัน ทางพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง รับเรื่องไว้แล้ว จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดตามกฎหมาย

ขณะที่ประเด็นการยิงเด็ก 14 ปี และอายุ 15 ปี นั้น ความคืบหน้าการสืบสวนมีคืบหน้าไปค่อนข้างมาก โดยได้คลิปภาพเหตุการณ์ที่เกิดเหตุเบื้องต้น อยู่ระหว่างสืบสวนให้ทราบตัวผู้กระทำผิดให้แน่ชัด เพื่อออกหมายจับกุมผู้กระทำความผิด

ขณะที่ประเด็นสถานทูตญี่ปุ่นแจ้งเตือนเหตุก่อการร้ายนั้น พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า ข้อมูลจากกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) มีการแจ้งเตือนสถานทูตญี่ปุ่นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ใช่แค่ประเทศไทย เป็นการแจ้งเตือนวงรอบ ไม่มีสิ่งใดบอกเหตุในการก่อการร้าย เนื่องจากมีการก่อการร้ายจากตะวันออกกลาง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.