โฆษก บช.น. แถลงจับม็อบทะลุแก๊ส 52 คน

กรุงเทพฯ 12 ก.ย.-โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เตือนผู้ชุมนุมรวมกลุ่ม เข้าข่ายผิดกฎหมายหลายข้อ ส่วนการควบคุมสถานการณ์ที่สามเหลี่ยมดินแดงเมื่อคืนที่ผ่านมา จับผู้ร่วมชุมนุมได้ 52 คน ในจำนวนนี้มีเยาวชน 9 คน


พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจบาล ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผย ผลปฏิบัติการตำรวจควบคุมฝูงชนควบคุมดูแลสถานการณ์การชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดง เมื่อวานนี้ (11 ก.ย.) ว่า มีการจัดกิจกรรม 2 กลุ่มหลักๆ คือ กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ เวลา 14.50 น. ได้มายื่นหนังสือที่วัดราชบพิธฯ ไม่มีเหตุรุนแรง ส่วนอีกกลุ่มคือ กลุ่มทะลุแก๊ส ที่บริเวณแยกดินแดง เริ่มรวมตัว 17.30 น. มีการขว้างปาสิ่งของ ยิงหนังสติ๊ก ลูกแก้ว ประทัดยักษ์ พลุไฟ ระเบิดต่างๆ ที่มีความรุนแรงมากขึ้น บริเวณหน้ากรมดุริยางค์ทหาร มีการนำแผงเหล็กมาปิดการจราจร จุดไฟเผาทรัพย์สินต่างๆ ใต้ทางด่วน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประกาศเตือนให้ยุติการกระทำและออกจากพื้นที่หลายครั้ง แต่การชุมนุมยังดำเนินกิจกรรมต่อเนื่อง กระทั่งเวลาประมาณ 21.15 น. เจ้าหน้าที่จึงต้องบังคับใช้กฎหมายและผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมให้ออกจากพื้นที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย หลังปฏิบัติการสามารถควบคุมผู้ชุมนุมได้ 52 คน ในจำนวนนี้ มีเยาวชน 9 คน ซึ่งทั้งหมดได้แยกฝากขัง ไว้ที่ สน.พหลโยธิน, สน.บางเขน, สน.ดอนเมือง และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด

ซึ่งผู้ถูกจับกุมทั้งหมดจะถูกแจ้งข้อหาตั้งแต่สิบคนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ, เมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมให้เลิกแล้วไม่เลิกฯ และร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่โดยมีอาวุธฯ หรือความผิดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยตำรวจจะดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิด เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ความรุนแรงและก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ซึ่งหากเยาวชนได้กระทำความผิด ผู้ปกครองอาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ด้วยเช่นกัน


ส่วนกรณีบุคคลต่างด้าว สัญชาติกัมพูชา ถูกจับกุมดำเนินคดีนี้ข้อหา ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และข้อหามั่วสุมก่อความวุ่นวายฯ ในทางปฏิบัติ บุคคลดังกล่าวจะต้องถูกส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และเนื่องจากบุคคลนั้นกระทำผิดในความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง โดยกระทรวงมหาดไทย จะได้พิจารณาออกคำสั่งให้เนรเทศผู้นั้นออกไปนอกราชอาณาจักร

อีกทั้งจะมีรายชื่อเป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร ของตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งหมายความว่าบุคคลนั้นจะไม่สามารถขออนุญาตกลับเข้ามาในประเทศไทยได้ ยังมีการนำเข้าข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่เป็นข่าวบิดเบือน หรือปลอม ในลักษณะที่ทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดจนอาจนำไปสู่ความวุ่นวาย ซึ่งผู้ส่งต่อหรือเผยแพร่ข้อความนั้นอาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ขณะเดียวกันผลการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 203 คดี มีผู้ต้องหาทั้งหมด 754 คน ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 509 คน
 
พลตำรวจตรีปิยะ ยังได้ระบุถึงกลุ่มผู้ชุมนุมที่นัดรวมตัวชุมนุมทำกิจกรรมต่างๆ ในวันนี้ด้วยว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองไว้แล้วและจะบังคับใช้กฎหมายตามยุทธวิธีเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย พร้อมเตือนประชาชนที่จะร่วมกิตกรรมชุมนุมเคลื่อนไหวต่างๆ เข้าข่ายมีความผิดหลายข้อหา ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”