กทม. 4 ก.ย.-ตร. เตรียมพร้อมดูแลการชุมนุม 3 จุด เย็นวันนี้ แนะเลี่ยงเส้นทางชุมนุมที่สวนลุมพินี เมื่อวานจับกุมผู้ต้องหาได้ 10 คน ในนั้นเป็นเยาวชน 2 คน
พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล, พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงการเตรียมพร้อมการรับสถานการณ์และดูแลความปลอดภัยการชุมนุมในวันนี้ ที่มีการนัดหมายชุมนุมทางการเมืองผ่านช่องทางออนไลน์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 3 กลุ่มหลัก กลุ่มแรก คือ กลุ่มเยาวชนปลดแอก และกลุ่ม REDEM นัดหมาย 16.00 น. ที่สถานเอกอัครราชทูตสวิสเซอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย ซึ่งจะเคลื่อนขบวนไปที่ลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มอาชีวะคนพันธ์ R นำโดยนายธนเดช ศรีสงคราม หรือ ม่อน อาชีวะ จะนัดหมายไปรัฐสภา แต่ยังไม่ทราบ้วลาที่แน่ชัด และกลุ่มที่ 3 คือกลุ่มทะลุแก๊ส นัดหมายรวมตัวที่แยกดินแดงในช่วงเย็น
กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขอเตือนว่า กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ที่ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมหรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค จะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิกฯ และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ หากมีพฤติการณ์กระทำผิดอื่นๆ อาจจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาที่เกี่ยวข้องด้วย และการข่าว ขณะนี้มีรายงานว่า อาจมีการกระทำที่ไม่เหมาะสม ที่พระบรมราชานุเสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 สถานที่สำคัญ โดยทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดเตรียมกำลังตำรวจไว้ดูแลความสงบแล้ว เพื่อดูแลและปกป้องทรัพย์สินของทางราชการแล้ว
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมความพร้อมตั้งจุดตรวจ 3 จุด ประกอบด้วย บริเวณถนนสารสิน, แยกศาลาแดง และใต้สะพานไทยเบลเยี่ยม เพื่อไม่ให้มวลชนเข้าไปในพื้นที่ต้องห้าม โดยเฉพาะบริเวณหน้า โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้มีป้ายประกาศงดใช้เสียง เนื่องจากเกรงว่าจะไปรบกวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล จึงขอให้อย่าใช้ความรุนแรงในการชุมนุมวันนี้
นอกจากนี้ ยังได้แนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางที่อาจได้รับผลกระทบจากการชุมนุมที่สวนลุมพินีในวันนี้ คือ ถนนราชดำริ ตั้งแต่แยกศาลาแดงถึงแยกราชประสงค์ , ถนนพะราม 4 ตั้งแต่แยกวิทยุถึงแยกอังรีดูนังค์ , ถนนสีลม ตั้งแต่แยกสีลม-นราธิวาสถึงแยกศาลาแดง , ถนนหลังสวน , ถนนวิทยุ และถนนสารสิน
ส่วนกรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา ของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม , กลุ่มทะลุฟ้า เหตุการณ์ปกติดี ไม่มีความรุนแรง แต่ในส่วนของกลุ่มทะลุแก็สที่ก่อความวุ่นวายที่แยกดินแดง มีการขว้างปาสิ่งของ ยิงหนังสติ๊ก พลุ ประทัดยักษ์ ระเบิดปิงปอง ระเบิดแสวงเครื่องต่างๆ ,วางแผงเหล็กปิดการจราจร ,จุดไฟเผาสิ่งของบริเวณใต้ทางด่วน เป็นเหตุให้มีทรัพย์สินเพื่อสาธารณประโยชน์ของทางราชการ และเอกชนเสียหายจำนวนหนึ่ง โดยตำรวจจะสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อพิสูจน์ทราบบุคคลที่ได้กระทำผิดในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย ในความผิดฐาน ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บโรคติดต่อ , รวมตัวมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ ,วางเพลิงเผาทรัพย์ , ทำให้เสียทรัพย์ และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 10 คน ในนั้นเป็นเยาวชน 2 คน พร้อมของกลาง รถเครื่องขยายเสียง 3 คัน ที่ใช้ในการปราศรัยบริเวณแยกราชประสงค์ ดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนร่วมกัน มากกว่ายี่สิบห้าคนในเขตพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และร่วมชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค” ส่วนเยาวชน 2 คน ถูกจับกุมที่บริเวณแยกดินแดง ก่อนทางลงอุโมงค์ดินแดง ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลา 21.00-04.00 น.
ส่วนความคืบหน้ากรณีจับกุมผู้ชุมนุมเมื่อวาน ทั้งหมดถูกนำตัวไปควบคุมที่ห้องกักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ภายในสโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต แต่ไม่พบว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาให้กำลังใจ หรือมารวมตัวกันแต่อย่างใด โดยจากนี้จะสอบสวนพร้อมกับแยกอายุของผู้ต้องหา หากเป็นเยาวชนจะประสานสหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคำ แต่ถ้าไม่ได่เป็นเยาวชน พนักงานสอบสวนจะดำเนินการไปตามขั้นตอนปกติ เมื่อสอบสวนแล้วเสร็จก็จะส่งตัวไปยังโรงพักท้องที่ที่ผู้ต้องหาก่อเหตุ คือ สน.ลุมพินี และ สน.ดินแดง จากนั้นจะนำตัวไปจออำนาจศาบฝากขัง โดยจะแยกเป็น 2 ส่วน คือ หากเป็นเยาวชนจะต้องส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ในส่วนที่ไม่ใช่เยาวชนจะส่งไปศาลอาญารัชดาภิเษก และศาลอาญากรุงเทพใต้ต่อไป
การดำเนินคดีการชุมนุมตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีการดำเนินคดีไปแล้ว 176 คดี , มีผู้ต้องหา 660 คน , จับกุมแล้ว 403 คนด้วยกัน.-สำนักข่าวไทย