เรือนจำคลองเปรมสั่งกักโรค อดีต ผกก.โจ้ 21 วัน – รวมไทม์ไลน์ขั้นตอนคดี

กรุงเทพฯ 4 ก.ย.- ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาอดีต ผกก.โจ้ และดาบโบ้ ครอบครองยาเสพติด หลังบุกไปค้นคอนโด และบ้านพัก ขณะที่ราชทัณฑ์รับตัวอดีต ผกก.โจ้ กับพวก เข้าเรือนจำกลางคลองเปรมแล้ว พร้อมคุมเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 สั่งกักโรค 21 วัน 


เมื่อวันที่ 3 ก.ย. พลตำรวจตรี จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สั่งให้กำลังตำรวจชุดสืบสวนกองปราบปราม และกำลังตำรวจหนุมานกองปราบ ติดอาวุธครบมือ เข้าคุมตัวอดีต ผกก.โจ้ พร้อมพวกอีก 6 คน ขึ้นรถตู้เรือนจำกลางพิษณุโลกเดินทางมาเรือนจำกลางคลองเปรม กรุงเทพฯ เพื่อรอดำเนินคดี หลังจาก พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งโอนสำนวนการสอบสวนคดีนี้ มาอยู่ในความดูแลของกองปราบ โดยเจ้าหน้าที่คุมตัวทั้ง 7 ผู้ต้องหาออกจากเรือนจำกลางพิษณุโลกตั้งแต่เช้ามืด

เวลา 9.45 น. นักข่าวที่ปักหลักรอหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม สังเกตเห็นรถวิทยุกองปราบปราบขับนำรถกรมราชทัณฑ์ของรถเรือนจำพิษณุโลก โดยมีรถตู้ รถกระบะควบคุมผู้ต้องขัง รถ 6 ล้อ ซึ่งเป็นรถที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 ปิดท้ายด้วยรถควบคุมผู้ต้องหา ขับมาพร้อมมีรถตู้หน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบปราม ขับประกบมาด้วย และทันทีที่รถขับถึงประตูทางเข้าเรือนจำกลางคลองเปรม เจ้าหน้าที่ได้กันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้พื้นที่และเปิดทางให้รถควบคุมผู้ต้องขังเรือนจำพิษณุโลกเข้าไปด้านใน 


ภายหลังเสร็จสิ้นการส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คน เจ้าหน้าที่เรือนจำกลางพิษณุโลกได้เดินทางกลับทันที โดยที่นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยว่านายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้เข้าติดตามควบคุมการรับตัวอดีต ผกก.โจ้ และพวกทั้ง 6 คนด้วยตัวเอง พร้อมสั่งตรวจเชื้อ และกักโรคเป็นเวลา 21 วัน  

พลตำรวจเอก สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.ให้ข้อมูลว่า การควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 มายังเรือนจำกลางคลองเปรม นอกจากเป็นเพราะคดีถูกโอนสำนวนการสอบสวนมาอยู่ในความรับผิดชอบของกองปราบแล้ว คดีนี้ยังอยู่ในขอบเขตอำนาจของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางด้วย 

ส่วนการเข้าตรวจค้นห้องพักในคอนโดอดีต ผกก.โจ้ และบ้านพักของดาบตำรวจ วิสุทธิ์ บุญเขียวหรือดาบโบ้ ที่พบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่จำนวนหนึ่งนั้น ผู้ต้องหาทั้งคู่ยังให้การปฎิเสธ และยาทั้งหมดจะเป็นของกลางที่ตรวจยึดมาได้จากผู้ต้องหาคดียาเสพติดหรือไม่ ตอนนี้ยังชี้ชัดไม่ได้ ต้องรอการสอบสวนจากพนักงานสอบสวน แต่เบื้องต้นมีการเตรียมพิจารณาแจ้งข้อหา “มียาเสพติดไว้ในครอบครอง” เพิ่มเติมกับอดีต ผกก.โจ้ และดาบโบ้แล้ว


ขณะที่ความคืบหน้าการสอบปากคำตำรวจ 6 นายที่เป็นชุดจับกุมนายมาวิน หรือจีระพงษ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่เสียชีวิต และเป็นพยานในคดีนี้ ทั้งหมดรับว่าเป็นชุดจับกุม แต่ส่งมอบตัวนายมาวินให้ชุดจับกุมของอดีต ผกก.โจ้ไปขยายผล ทำให้การสอบสวนเบื้องต้น ไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องทำให้เหยื่อในคดียาเสพติดเสียชีวิต 

คดีนี้ต้องเกาะติดเพราะวันจันทร์ที่ 6 กันยายนนี้ ช่วงเช้าพนักงานสอบสวนกองปราบจะนำตัวอดีต ผกก.โจ้และพวก ยื่นฝากขังต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ และช่วงบ่าย พลตำรวจเอกสุชาติ รอง ผบ.ตร.หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดี จะเรียกคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดประชุมกันที่กองปราบ โดยมีรายงานว่าพนักงานสอบสวนจะนำสำนวนส่งให้ป.ป.ช. ในวันอังคารที่ 7 กันยายน

และประเด็นที่ต้องจับตาอีก คือการพลิกลิ้นของ อดีต ผกก.โจ้ ที่นอกจาก นายสมพงษ์ เย็นแก้ว รองอธิบดีอัยการภาค 6 เปิดเผยภายหลังเข้าสอบปากคำอดีต ผกก.โจ้ ในเรือนจำพิษณุโลก แล้วเจ้าตัวยืนยันให้การภาคเสธ โดยอ้างว่าทำจริง แต่ไม่ได้มีเจตนาฆ่าแค่ต้องการเค้นข้อมูล ล่าสุดมีข้อมูลเพิ่มเติมว่า ช่วงกลางดึกก่อน อดีต ผกก.โจ้ จะถูกส่งตัวเข้ากรุงเทพฯ ชุดสืบสวนได้ไปสอบปากคำอดีต ผกก.โจ้ เพิ่มเติม ผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ ปรากฏว่าอดีต ผกก.โจ้ ปฏิเสธคำให้การเดิม ที่เคยให้ปากคำไว้กับตำรวจในครั้งแรกทั้งหมด โดยอ้างว่าการสอบปากคำที่กองบังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ไม่ได้เซ็นชื่อรับทราบข้อกล่าวหา

ด้านนายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายของอดีต ผกก.โจ้ ยืนยันว่า ตอนนี้อดีต ผกก.โจ้ ยังแข็งแรงดีทั้งร่างกายและจิตใจ แม้จะซูบผอมไปบ้าง แต่อาจเป็นเพราะทุกข์ใจ ทำให้กินข้าวได้น้อย นอกจากนี้ตัว ผกก.โจ้ ยังยืนยันว่าไม่เคยป่วย หรือต้องเข้ารับการรักษาอาการไบโพลาร์ และที่ตำรวจค้นห้องพักในคอนโดเจอยาคลายเครียดก็มองว่าเป็นเรื่องธรรมดาคนเราเครียดกันได้ รวมถึงย้ำว่าการที่มีข้อมูลว่าพนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยการทรมาน เป็นสิทธิของพนักงานสอบสวน แต่ทางทนายก็จะสู้ในประเด็นว่า อาจจริงอยู่มีการนำถุงพลาสติกคลุมศีรษะผู้ตายจนขาดอากาศหายใจ แต่น่าจะเป็นการพลั้งมือ ซึ่งประเด็นนี้ อดีต ผกก.โจ้ ยืนยันว่าไม่มีเจตนาฆ่าแน่นอน ส่วนการยื่นขอประกันตัวอดีต ผกก.โจ้ ตอนนี้คงต้องชะลอไว้ก่อน เพราะคดีนี้สังคมให้ความสนใจ และมีผู้ต้องหารายอื่นที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมด้วย

ส่วนความคืบหน้าเรื่องรถหรูของอดีต ผกก.โจ้ นายชัยยุทธ คำคุณ โฆษกกรมศุลกากร ยืนยันการตรวจสอบย้อนหลัง 10 ปี พบว่ามีรถยนต์ที่อดีต ผก.โจ้ จับกุมนำส่งกรมศุลกากร 368 คัน เช่น เบนซ์ บีเอ็ม เบลเล่ ปอร์เช่ เฟอรารี่ โดยรถทุกคันตรวจสอบแล้ว มีกล่องสมองกล หรือ กล่อง ECU ครบทุกคัน ไม่ปรากฏคันที่ถูกถอดออก เพื่อด้อยค่ารถให้ราคาถูกลงตามที่ปรากฏเป็นข่าว และรถที่อดีต ผกก.โจ้ไปจับมาถูกนำไปประมูลแล้ว 363 คัน เหลือตกค้างอีกแค่ 5 คัน ซึ่งตรวจสอบลึกลงไปไม่พบชื่อของอดีต ผกก.โจ้ มายื่นประมูล แต่จะมีนอมินี มาแทนหรือไม่ ตรวจสอบไม่ได้ สอดคล้องกับข้อมูลของ พันตำรวจโท กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ ที่ยืนยันว่าดีเอสไอไม่เคยพบการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว ตามที่มีกระแสข่าวว่าเป็นพฤติการณ์ของอดีต ผกก.โจ้ แต่ยอมรับว่า ในวงการรถมีการพูดถึงวิธีนี้อยู่บ้าง แต่ดีเอสไอไม่มีข้อมูล.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจ

มุกดาหาร 27 ก.ค. – แม่ “จ.ส.อ.ธวัชชัย” ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เปลี่ยนความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายที่ได้รับใช้ชาติ ที่จังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด เชิญสิ่งของพระราชทานมอบให้ครอบครัว จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ซึ่งเสียชีวิตบริเวณฐานปฏิบัติการฟ้าลั่น (เขาสัตตะโสม) อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากเหตุปะทะและการยิงถล่มของกัมพูชาบริเวณเนิน 333 แม่ของ จ.ส.อ.ธวัชชัย บอกว่าตอนนี้ตนได้เปลี่ยนจากความเสียใจเป็นภาคภูมิใจในตัวลูกชายในการรับใช้ชาติ อีกทั้งครอบครัวได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถือเป็นบุญของลูกชายและครอบครัว ส่วนน้องชายที่เป็นทหารพรานอยู่ตอนนี้ก็ไม่ถอดใจ ส่วนที่ศาลาประชาคมชาวบ้านห้วยเตย ตำบลศรีสุขสำราญ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาพร้อมใจกันร้องเพลงชาติไทยดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังและส่งกำลังใจให้ทหารทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องรักษาชายแดนไทยและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเปิดจุดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำส่งความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่และผู้ประสบภัย.-สำนักข่าวไทย

ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก แม้ “ทรัมป์” เสนอเจรจาหยุดยิง

สุรินทร์ 27 ก.ค.-ชายแดนสุรินทร์ยังปะทะหนัก กัมพูชาเปิดฉากยิงใส่แต่เช้ามืด กระสุนบางส่วนตกใส่หมู่บ้านฝั่งไทย ขยายรัศมีไกลขึ้นเรื่อยๆ แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เสนอเจรจาหยุดยิง แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา แต่ขณะที่ยังไม่มีการเจรจาทวิภาคี ระหว่างไทย-กัมพูชา เช้ามืดวันนี้ ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ ก็ยังมีการปะทะกันอย่างหนัก จนกระสุนมาตกสร้างความเสียหายให้ราษฎรไทยอย่างที่เห็น“ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควายและตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เริ่มเปิดฉากปะทะกันตั้งแต่ช่วงตี 4 กระสุนจากการประทะบางส่วนเข้ามาตกในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งปรากฏกระสุนรุกล้ำดินแดนไทยลึกเข้ามาเรื่อยๆ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง และมีไฟลุกไหม้ เศษสังกะสี ซีเมนต์ วัสดุโครงสร้างบ้านปลิวกระจัดกระจาย เคราะห์ยังดี ที่เจ้าของบ้านอพยพออกนอกพื้นที่หมดแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ขอร้องให้อพยพออกไปเมื่อวานนี้ จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต บางจุดลงฟาร์มวัววากิว ทำให้วัวตายไป 6 ตัว เจ้าของวัวเล่าว่า ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงลูกปืนใหญ่ของ 2 ฝ่าย และสังเกตเห็นจรวด BM-21 พุ่งเข้ามาที่คอกวัว จึงได้หลบหาที่กำบัง พอเสียงเงียบ ตนก็รีบออกมาดู ก็พบว่า วัวของตนถูกกระสุนตายไป […]

บุรีรัมย์สั่งอพยพชาวบ้านเพิ่ม 3 อำเภอ

บุรีรัมย์ 27 ก.ค.-บุรีรัมย์ ประกาศให้ชาวบ้านอพยพเพิ่มอีก 3 อำเภอ หลังพื้นที่ปะทะและรัศมีอาวุธขยายไปไกลขึ้น ทั้งวัด โรงเรียน ศูนย์พักพิงชั่วคราว และ รพ.อีก 2 แห่ง ต้องอพยพผู้ป่วยด่วน เหลือเพียงหน่วยรับผู้ป่วยฉุกเฉิน ช่วงเวลาบ่าย 2-3 โมง เมื่อวานนี้ ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีเสียงปืน เสียงระเบิดดังเป็นระยะ และมีกระสุนปืนใหญ่ ตกในพื้นที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จึงประกาศให้ชาวบ้านในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ละหานทราย อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนดินแดง อพยพไปอยู่ตามบ้านญาติ หรือศูนย์พักพิงที่ห่างไกลจากรัศมีวิถีกระสุนปืนใหญ่ และอาวุธหนัก บางครัวเรือนก็มีลูกหลานมารับออกไปแล้ว ส่วนชาวบ้านที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ทางเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ก็ได้จัดรถไปช่วยอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่ด้วย ด้าน โรงพยาบาลในพื้นที่ 2 แห่ง คือ รพ.ละหานทราย และ รพ.เฉลิมพระเกียรติ ก็มีการอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลเช่นกัน รวมถึงให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เหลือไว้แค่หน่วยที่จะรับผู้ป่วยฉุกเฉิน […]

Trump says he is seeking a ceasefire between Thailand, Cambodia

“ทรัมป์” โยงเรื่องการค้ากับหยุดยิงไทย-กัมพูชา

เอดินบะระ 27 ก.ค.-  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ พูดคุยกับผู้นำของทางการไทยและกัมพูชา โดยโยงเรื่องการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐกับเรื่องหยุดยิงของทั้ง 2 ประเทศ ด้านนายกรัฐมนตรีมาเลเซียจะผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ในระหว่างการเยือนสกอตแลนด์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ไทยและกัมพูชา 3 โพสต์ติดต่อกัน โพสต์แรกระบุว่า ได้หารือทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี มาเนตกัมพูชาและนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษานายกรัฐมนตรีของไทย เรื่องการหยุดยิงและยุติสงครามที่กำลังดำเนินอยู่ สหรัฐซึ่งกำลังหารือทางการค้ากับทั้ง 2 ประเทศอยู่ในขณะนี้ไม่ต้องการทำข้อตกลงกับประเทศใดประเทศหนึ่งหากยังมีการสู้รบกันอยู่ กัมพูชาจะแสดงท่าทีเรื่องหยุดยิงหลังจากที่เขาได้คำตอบจากไทยในเรื่องนี้ นายทรัมป์ระบุด้วยว่า สถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาทำให้เขานึกถึงสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างปากีสถานกับอินเดียที่ได้รับการยับยั้งเป็นผลสำเร็จ หลังจากนั้นราว 1 ชั่วโมง ประธานาธิบดีทรัมได้โพสต์ข้อความใหม่ว่า ได้สนทนากับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย ฝ่ายไทยต้องการหยุดยิงและสันติภาพเช่นเดียวกับกัมพูชา และหลังจากนั้นไม่นานผู้นำสหรัฐโพสต์ข้อความที่ 3 ว่า เพิ่งเสร็จสิ้นการสนทนากับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและแจ้งเรื่องที่ได้หารือกับทางการไทย ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการหยุดยิงและสันติภาพ และต้องการกลับมาเจรจาทางการค้ากับสหรัฐ โดยตกลงจะพบหารือและหาทางหยุดยิงโดยทันที ด้านนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซีย เปิดเผยกับสื่อที่เมืองปุตราจายาเมื่อวานนี้ว่า จะเดินหน้าผลักดันข้อเสนอหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งยังคงมีการยิงปะทะกันอยู่ เขาได้ขอให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียประสานงานกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยและกัมพูชา และหากเป็นไปได้ เขาจะเข้าไปประสานงานด้วยตัวเองเพื่อหยุดยั้งการสู้รบ รอยเตอร์รายงานว่า กัมพูชาสนับสนุนข้อเสนอของนายอันวาร์ ส่วนไทยระบุว่า เห็นชอบในหลักการ.-820(814).-สำนักข่าวไทย