กทม. 23 ส.ค.-“อัจฉริยะ” จี้ ผบ.ตร.สอบ “บิ๊กโจ๊ก” นำ 17 ตำรวจรับใช้ครอบครัว ด้าน “จตช.” พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สั่งการให้ตรวจสอบกรณีมีข้าราชการตำรวจชั้นประทวน 17 นาย ร้องขอความเป็นธรรมกล่าวหา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษ สบ.9 เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผบช.สตม.มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับผู้ใต้บังคับบัญชา โดยนำผู้ใต้บังคับบัญชาทั้ง 17 นาย ไปรับใช้ครอบครัว ซึ่งเป็นการผิดระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งวินัยและอาญา อีกทั้งยังมีการข่มเหงทำร้ายร่างกาย ตบตี ใช้วาจาด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย กลั่นแกล้งโยกย้ายไม่เหมาะสม ลงโทษไม่เป็นธรรม และถูกสภาพบังคับจนต้องลาออกจากราชการ ซึ่งกรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว แต่คณะกรรมการชุดดังกล่าวกลับมีเพื่อนร่วมรุ่น 47 และคนสนิทของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จึงเกรงจะเกิดความไม่เป็นธรรม อีกทั้งคณะกรรมการไม่เคยเรียกคณะกรรมการ ชุดตรวจสอบเดิมที่มีการบันทึกวิดีโอ สอบปากคำตำรวจชั้นประทวนทั้ง 17 นาย มาให้การกับคณะกรรมการชุดดังกล่าว อาจมีเจตนาให้การช่วยเหลือ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ให้พ้นผิด และการที่มีตำรวจชั้นประทวนจำนวน 6 นาย มาขอถอนเรื่องร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งตำรวจชั้นประทวนเป็นตำรวจชั้นผู้น้อย การมาร้องผู้บังคับบัญชา ระดับนายพล ถ้าไม่เป็นเรื่องจริงคงไม่กล้ามาร้องและการกลับคำให้การของตำรวจชั้นประทวน จำนวน 6 นายที่มีการบันทึกวิดีโอไว้แล้วนั้นจึงเป็นเรื่องผิดปกติ ขอให้ตรวจสอบว่าการกระทำดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ พร้อมกล่าวว่าการมาร้องเรียนครั้งนี้เนื่องมีข้อเท็จจริงปรากฎและไม่กลัวว่าจะถูกดำเนินคดีกลับแต่อย่างใด
ด้าน พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเชิญตำรวจทั้ง 17 นาย มาให้ปากคำกับคณะกรรมการที่ตนเป็นประธานรวมทั้งที่คณะกรรมการชุดก่อนทำไว้มาประกอบการพิจารณา แต่ยอมรับว่าการสอบสวนอาจจะล่าช้าเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคและจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ถึงแม้ว่าจะมีข้าราชการบางนายลาออกจากข้าราชตำรวจแล้วแต่สามารถเรียกมาสอบย้อนหลังได้ ยืนยันว่าจะตรวจสอบให้ความจริงปรากฏ.-สำนักข่าวไทย