“สันธนะ” มอบตัวคดีอุ้มรีดค่าไถ่ชาวไต้หวัน-ปัดเอี่ยว

กทม. 3 ส.ค.-“สันธนะ” มอบตัว คดีร่วมอุ้มรีดค่าไถ่ชาวไต้หวัน ยอมรับรู้จักแก๊งอุ้ม แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด พร้อมตั้งข้อสังเกตถูกออกหมายจับทั้งที่อยู่ในกระบวนการกักตัวหลังหายจากโควิด-19 เป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่

นายสันธนะ ประยูรรัตน์ เดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ในคดีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับในข้อหา กระทำความผิดร่วมกันเป็นอั้งยี่, ซ่องโจร, ข่มขืนใจ กรณีอุ้มนักธุรกิจชาวไต้หวันรีดค่าไถ่ 90 ล้านบาท บริเวณคอนโดย่าน สน.ทองหล่อ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่สวมชุด PPE มารับตัวเพื่อไปสอบปากคำ ซึ่งคดีนี้มีการแจ้งความและดำเนินการจับกุมเมื่อเดือนมิถุนายน ได้ผู้ต้องหาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งตำรวจ โดยศาลได้ออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีไปแล้วทั้งหมด 15 คน มีการขยายผลจนทราบว่า นายสันธนะ เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และปรากฏตัวในจุดเกิดเหตุ


ด้านนายสันธนะ ระบุว่า ตัวเองเข้ามามอบตัว หลังทราบว่าตำรวจ สน.ทองหล่อ ได้ขอให้ศาลอนุมัติออกหมายจับ เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมองว่ากระบวนการต่างๆ ที่เกิดขึ้น เป็นการกลั่นแกล้ง เนื่องจากว่า ตัวเอง เพิ่งหายจากโควิด-19 และอยู่ระหว่างกระบวนการกักตัวอีก 14 วัน ซึ่งจะครบกำหนดวันศุกร์นี้ แต่เจ้าหน้าที่กลับไม่รอและพยายามยัดเยียดข้อหาให้กับตัวเอง โดยยอมรับว่าตัวเองรู้จักกลุ่มชาวต่างชาติ ทั้งหมดจริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในครั้งนี้ จึงอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยพิจารณาว่าการกระทำที่เกิดขึ้นเหมาะสมหรือไม่

นอกจากนี้นายสันธนะ ยังระบุว่าตัวเองเคยมายื่นหนังสือขอเลื่อนการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้ ไปเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ที่ สน.ทองหล่อ ซึ่งตำรวจก็ยังออกหมายจับในวันที่ตัวเองยังกักตัวไม่ครบ โดยหลังจากนี้ ตัวเองจะใช้เงินส่วนตัวในการประกันตัวออกมาเพื่อให้มีเสรีภาพ และจะใช้สิทธิฟ้องกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และหัวหน้าพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ที่ทำเรื่องขออนุมัติหมายจับด้วย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชนรถบรรทุก

แพทย์หญิงดับสลด ขับชนท้ายรถบรรทุก

แพทย์หญิง ขับรถพุ่งชนท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ เสียชีวิตคาที่ บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้ากรุงธนบุรี มุ่งหน้าสะพานตากสิน ถนนกรุงธนบุรี ตรวจสอบในรถพบซองยาแก้หวัด-คัดจมูก

แสตมป์ถูกข่มขู่

โฆษก ทบ. พร้อมให้ความเป็นธรรม​​ “แสตมป์​-​ภรรยา​”

โฆษกกองทัพบก พร้อมให้ความเป็นธรรม​​ “แสตมป์​-​ภรรยา​” ถูกนายพลข่มขู่​ ขอข้อมูลเพิ่มตรวจสอบอยู่ในประจำการหรือไม่​ ลั่น​ หากยังรับราชการถือผู้วินัยร้ายแรง​แม้เป็นเรื่องส่วนตัว​

ข่าวแนะนำ

น้ำค้างแข็งดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์ น้ำค้างแข็งต่อเนื่อง อุณหภูมิยอดหญ้าติดลบ

ภาคเหนือหนาวต่อเนื่อง บริเวณกิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งขาวโพลน เป็นวันที่ 10 อุณหภูมิยอดหญ้า ติดลบ 0.4 องศาฯ

U.S. President Joe Biden and Trump shaking hands during meeting in Oval Office on November 13, 2024

“ทรัมป์” เตรียมสาบานตนรับตำแหน่ง ปธน.สหรัฐวันนี้

วอชิงตัน 20 ม.ค. – นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐประกอบกิจกรรมหลายอย่างเมื่อวานนี้ ก่อนเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น นายทรัมป์เดินทางมาถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ตั้งแต่เย็นวันเสาร์ และเมื่อวานนี้เขาและนายเจดี แวนซ์ ว่าที่รองประธานาธิบดี ได้เดินทางไปร่วมพิธีวางพวงมาลาและเคารพเหล่าทหารที่เสียชีวิตในสงครามที่สุสานแห่งชาติอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย จากนั้นนายทรัมป์ได้ไปเข้าร่วมงานปราศรัยกับผู้สนับสนุนที่แคปิตอลวันอารีนา ซึ่งเป็นสนามกีฬาในร่มในกรุงวอชิงตัน นับเป็นการปราศรัยใหญ่ในกรุงวอชิงตันครั้งแรกของทรัมป์ หลังจากที่เคยปราศรัยเรียกร้องผู้สนับสนุนให้ยกขบวนไปอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 คัดค้านที่เขาพ่ายแพ้ให้แก่นายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งปี 2563 สนามกีฬาแห่งนี้ยังจะเปิดให้ผู้คนได้เข้าชมงานพิธีสาบานตนของทรัมป์ผ่านการถ่ายทอดสดทางจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้ายจากอิทธิพลของกระแสลมวนขั้วโลกแผ่ปกคลุมสหรัฐ ทำให้ต้องย้ายการจัดพิธีสาบานตนจากด้านหน้าอาคารรัฐสภาเข้าไปจัดด้านใน โดยมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยพื้นที่โดยรอบ ขณะที่ชาวอเมริกันจากทั่วประเทศเดินทางถึงกรุงวอชิงตันแล้วเพื่อร่วมงานที่เกี่ยวข้องกับพิธีสาบานตนของทรัมป์ หลายคนผิดหวังที่พลาดโอกาสได้ร่วมพิธีสาบานตนของทรัมป์ แต่ส่วนใหญ่เข้าใจเกี่ยวกับปัญหาสภาพอากาศเลวร้าย นายทรัมป์ วัย 78 ปี จะทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในเวลาเที่ยงวันของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาไทย ตามด้วยการกล่าวปราศรัย ซึ่งจะเป็นการประกาศแนวทางสำหรับการบริหารงานเป็นเวลา 4 ปีหลังจากนี้.-815(814).-สำนักข่าวไทย

ฝุ่นPM

เตือนเฝ้าระวังค่าฝุ่น PM2.5 สูงตลอดสัปดาห์นี้

กรมควบคุมมลพิษ แจ้งเตือนแนวโน้มค่าฝุ่น PM2.5 มีแนวโน้มสูงขึ้นตลอดสัปดาห์ โดยเฉพาะระหว่างวันที่ 22-25 ม.ค. ทั้งสาเหตุจากอากาศนิ่งและจมตัว อัตราการระบายอากาศค่อนข้างต่ำ ประกอบกับข้อมูลจุดความร้อนที่ยังพบการเผาในหลายพื้นที่ รวมถึงหมอกควันข้ามแดน