fbpx

ตร.แถลงสรุปสถานการณ์หลังปะทะเดือด “คาร์ม็อบ”

กรุงเทพฯ 2 ส.ค. – สถานการณ์ชุมนุม “คาร์ม็อบ” ตั้งแต่ช่วงบ่ายถึงค่ำวานนี้ มีเหตุปะทะระหว่างตำรวจกับกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วน ตำรวจแถลงรวบผู้ชุมนุม 10 คน ขณะที่มีตำรวจบาดเจ็บ 4 นาย


นี่เป็นภาพสถานการณ์ที่อุโมงค์สามเหลี่ยมดินแดง หลังกลุ่ม “คาร์ม็อบ” ที่นัดรวมตัวเมื่อวานนี้ (1 ก.ค.) ยุติการจัดกิจกรรม แต่ปรากฏว่า บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง มีกลุ่มมวลชนยังคงปะทะกับตำรวจ รวมถึงมีการยิงกระสุนยางและแก๊สน้ำตาของเจ้าหน้าที่ FFP รายงานว่า การกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้นประมาณ 19.00 น. หลังจากมวลชนบางส่วนยังไม่แยกย้ายกันเดินทางกลับ แม้จะมีการประกาศยุติการชุมนุม

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง เพื่อสกัดผู้ชุมนุมเป็นระยะ นอกจากนี้ยังมีเสียงคล้ายเสียงปืนและระเบิดดังขึ้นหลายครั้งในพื้นที่เกิดเหตุ จากนั้นเวลา 19.30 น. กลุ่มมวลชนได้ถอยร่นออกมาจากบริเวณที่เกิดการปะทะ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตาอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่ามีเจ้าหน้าที่บางส่วนขึ้นไปด้านบนทางด่วนและขว้างแก๊สน้ำตาลงมา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมเกิดความไม่พอใจ จนกระทั่งช่วงกลางดึก กลุ่มมวลชนจึงได้แยกย้ายกันกลับ


ก่อนหน้านี้ ในช่วงเย็นยังพบการกระทบกระทั่งระหว่างมวลชนและเจ้าหน้าที่ ระหว่างปักหลักรวมตัวช่วงเวลาประมาณ 17.50 น. บริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ถ.วิภาวดีรังสิต ทำให้ชุดควบคุมฝูงชนต้องกดดันด้วยการใช้รถเครื่องขยายเสียง ประกาศขอให้ยุติการชุมนุมและออกจากพื้นที่ เพื่อคืนพื้นผิวการจราจรให้ประชาชนใช้สัญจรตามปกติ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยินยอม จนเกิดการปะทะขึ้น เจ้าหน้าที่จึงนำรถฉีดน้ำแรงดันสูงออกมา และฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุมเพื่อผลักดัน ใช้เวลาประมาณ 15 นาที จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

หลังจากนั้น พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะ แถลงสรุปสถานการณ์การชุมนุมแนวร่วมกลุ่มราษฎร 5 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้า, กลุ่มประชาชนคนไทย, เครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี, กลุ่มคนไทยไม่ทน สามัคคีประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ที่รวมตัวกันจัดกิจกรรมคาร์ม็อบ พบมีการกระทำความผิด คือ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, ผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ, ผิด พ.ร.บ.จราจรทางบก, ผิด พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยการใช้เครื่องขยายเสียง, รวมตัวมั่วสุมมากกว่า 10 คนขึ้นไป ก่อเหตุความวุ่นวาย และไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่

ทั้งนี้ มีการนัดหมายชุมนุมตั้งแต่เวลา 10.00 น. และยุติการชุมนุมในเวลา 16.00 น. แต่มีผู้ชุมนุมบางส่วนก่อความวุ่นวาย บริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 1 มีการใช้หนังสติ๊ก ขว้างปาสิ่งของ และจุดพลุประทัดใส่ตำรวจควบคุมฝูงชน เป็นเหตุให้มีตำรวจบาดเจ็บ 4 นาย และก่อเหตุต่อเนื่องไปจนถึงแยกดินแดงในช่วงค่ำ ซึ่งตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด เบื้องต้นการชุมนุมใน กทม. จับกุมผู้ก่อเหตุได้ 3 คน ส่วนที่ จ.นนทบุรี จับกุมผู้ก่อเหตุ 7 คน. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME