กทม.23 ก.ค.- รวบแก๊งมังกรทำ Hybrid scam หลอกผู้เสียหายชาวไทยหลายรายลงทุนซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท”
ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการ ตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรม
ไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม.และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.สตม. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ศปชก.สตม. ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคดีสำคัญดังนี้
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ ศปชก.สตม. ได้รับร้องเรียนจากผู้เสียหายชาวไทยเบื้องต้นจำนวน 15 ราย กรณีคนร้ายชาวต่างชาติเข้ามาตีสนิทผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Instagram, Tinder, Hello talk หรือแอพพลิเคชั่นสอนภาษาต่างประเทศ เมื่อได้ทำความรู้จักและสนิทสนมกับมากขึ้น คนร้ายจะแอบอ้างว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับตลาดสกุลเงินดิจิทัล ชักชวนให้ลงทุนซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล อาทิ BTC USDT BNB เป็นต้น ผ่านทางแอพพลิเคชั่น BLACK STONE, ZON XIN , Grayscale , PKEX , BLACK ROCK เป็นต้น โดยอ้างว่าหากซื้อขายตามคำแนะนำของคนร้าย จะได้ผลตอบแทนที่สูง ผู้เสียหลงเชื่อจึงได้ซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลไปตามคำแนะนำของคนร้าย ในคราวแรก ๆ ได้ผลตอบแทนตามที่กล่าวอ้าง แต่ต่อมาภายหลัง ไม่ได้ผลตอบแทนแม้แต่บาทเดียว อีกทั้งเมื่อผู้เสียหายมีความประสงค์จะถอนเงินออกจากระบบ ซึ่งแสดงยอดเงินที่ตนเองมีอยู่ ก็ไม่สามารถถอนได้ และจะถูกคนร้ายชักจูง หลอกลวงให้โอนเงินเพิ่มเข้าไปในระบบ ซึ่งเมื่อโอนเข้าไปแล้วก็ไม่สามารถนำเงินออกจากระบบได้ ผู้เสียหายเชื่อว่าตนถูกหลอกลวง จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนตามท้องที่เกิดเหตุต่างๆ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่ากลุ่มคนร้าย มีทั้งชาวจีนและชาวไทยพักอาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยกลุ่มคนร้ายมีการแบ่งหน้าที่กันทำโดยกลุ่มชาวจีน จะสั่งหรือจ้างให้คนไทยไปตระเวนซื้อสมุดบัญชีธนาคารจำนวนมาก เมื่อมีเงินจากผู้เสียหายโอนเข้ามาแล้ว จะใช้ให้คนไทยไปตระเวนกดเงินออกจากบัญชี เพื่อนำเงินสดมาให้ตน และจากนั้นจะนำเข้าไปซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ผ่านแพลตฟอร์มซื้อขายเงินสกุลดิจิทัลต่างๆ เพื่อให้ยากต่อการสืบสวนติดตาม
จากนั้นเจ้าหน้าที่ ศปชก.สตม. ได้ทำการสืบสวน จนกระทั่งจับกุมตัวผู้ต้องหาบางส่วนได้ จำนวน 3 ราย ในพื้นที่เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยขณะจับกุม สามารถยึดเงินสดจำนวน 640,000 บาท (หกแสนสี่หมื่นบาท) พบสมุดบัญชีธนาคาร พร้อมบัตรกดเงินสด จำนวนหลายบัญชี และอายัดทรัพย์สินรถยนต์จำนวน 2 คัน รวมมูลค่า 8,000,000 บาท(แปดล้านบาท) เจ้าหน้าที่ ศปชก.สตม. จึงได้ทำการสืบสวนต่อทราบว่ายังมีชาวจีนอยู่ในขบวนการกังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะได้สืบสวนขยายผลต่อไป.-สำนักข่าวไทย