วิกฤติผู้ป่วยตกค้าง

กรุงเทพฯ 21 ก.ค.-ตอนนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันสูงขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งกระทบต่อสถานการณ์ผู้ป่วยวิกฤติตกค้างตามบ้านพักมากขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตในบ้านและส่วนหนึ่งก็ถูกพบเป็นศพอยู่ตามท้องถนน


เสียงแห่งความรู้สึกของประชาชนในซอยเจริญกรุง 107 หลังรู้ว่าเพื่อนบ้านเสียสมาชิกในครอบครัวจากการติดเชื้อโควิด-19 ไปเป็นคนที่ 2 ภายในเวลา 4 วัน จากตอนแรกมีคนในครอบครัว 5 คน เป็นผู้ป่วยตกค้างรอการรักษาอยู่ในอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น เหลือเพียง 3 คน ที่ยังรอคอยว่าเมื่อไรจะได้เข้ารับการรักษา

ทีมข่าวลงพื้นที่พบว่า เพื่อนบ้านในซอยต่างเปิดประตูออกมาร่วมเฝ้ารอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ด้วยความกังวลใจ


จากการฟังคนในบ้านได้พูดคุยกับทีมงานของพรรคการเมืองหนึ่งทราบว่า ตอนนี้ทั้ง 3 คน มีโรงพยาบาลรอรับเข้ารักษาตัวแล้ว แต่ติดปัญหาว่ายังไม่ได้รับผลตรวจ RT-PCR ที่ได้เข้ารับการตรวจเชื้อจากหน่วยคัดกรองเชิงรุกของกรุงเทพมหานคร มายืนยันเพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษา

เพื่อนบ้านฝั่งตรงบ้าน เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า เมื่อวานนี้ยังเห็นผู้เสียชีวิตนั่งพูดคุยหยอกล้อกับพี่ชาย แต่พอลุกขึ้นยืนก็หงายหลังล้มลงและหมดสติทันที

ตนเองพยายามวิ่งเข้าไปช่วยแต่พาไปถึงกลางถนนซอย เกิดฉุกคิดขึ้นได้ว่าต้องระวังการตกเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ เลยต้องถอยกลับมา เปลี่ยนเป็นวิธีแจ้งขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ แทน แต่กว่าทีมพยาบาลจะมาถึง ออกซิเจนในถังที่มีอยู่ในบ้านก็หมดลงไปพร้อมกับลมหายใจของหนุ่มวัยเพียง 25 ปี


หัวหน้าทีมอาสาสมัครช่วยเหลือผู้ป่วยของมูลนิธิกระจกเงา เปิดเผยว่า ขณะนี้พยายามรวบรวมถังออกซิเจนมาทุกวิถีทางเพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว แต่ทั้งคนและอปุกรณ์มีน้อย ทำให้ไม่สามารถช่วยผู้ป่วยได้ทัน

นอกจากผู้ติดเชื้อตกอาการวิกฤติตกค้างตามบ้านพักแล้ว ปัญหาใหม่ที่เกิดขึ้นก็คือ การพบศพผู้ติดเชื้อตามถนน

ทีมข่าวลงพื้นที่ตรอกบ้านพานถม เขตพระนคร หนึ่งในจุดพบศพพบว่าชาวบ้านต่างปิดประตูร้านค้า หลังช่วงเช้ามีเจ้าหน้าที่จาก กทม. มาฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในซอย ชาวบ้านเล่าว่าชายคนที่เสียชีวิต เคยมีอาชีพขายกางเกงยีนในตรอกข้าวสาร ก่อนมายึดอาชีพโบกรถในลาดจอดรถวัดบวรนิเวศ

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยืนยันผลตรวจแล้วว่าชายคนนี้เป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนที่ทำให้ต้องทิ้งศพไว้กลางถนนนานกว่า 10 ชั่วโมง เพราะการเคลื่อนย้ายศพที่อาจติดเชื้อโควิด-19 ต้องใช้ความระมัดระวังสูง เมื่อจำนวนศพมีมาก ก็ยิ่งทำให้เกิดความล่าช้า. – สำนักข่าวไทย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

เตรียมฌาปนกิจเหยื่อรถบัสมรณะ บ่ายวันนี้

บรรยากาศ วัดป่าวิเวกธรรมคุณ จ.บึงกาฬ ญาติผู้เสียชีวิตทยอยร่วมพิธีเช้า ก่อนฌาปนกิจเหยื่อรถบัสมรณะ 13 ราย ช่วงบ่ายวันนี้ ส่วนที่วัดวิเวกพัฒนาราม ก็จะมีพิธีฌาปนกิจเหยื่ออีก 4 ราย ช่วงบ่ายเช่นกัน

“ทรัมป์-เซเลนสกี” ปะทะคารมเดือดระหว่างหารือที่ทำเนียบขาว

วอชิงตัน 1 มี.ค. – การหารือระหว่างประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่ทำเนียบขาว ในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น จบลงอย่างล้มเหลวสิ้นเชิง หลังจากทั้งสองปะทะคารมกันอย่างดุเดือดต่อหน้าสื่อเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน

“กุ้ง สุธิราช” เศร้า ทีมขนอุปกรณ์คณะลิเกถูกรถชนตกสะพานดับ

“กุ้ง สุธิราช” เศร้า ทีมขนอุปกรณ์คณะลิเกถูกรถชนตกสะพานเสียชีวิต ขณะยืนโบกรถที่จอดเสียบริเวณเชิงสะพานทางขึ้นต่างระดับฉิมพลี