นำตำรวจฉีดวัคซีนครบโดส ปฏิบัติหน้าที่รับมือชุมนุม

กทม. 18 ก.ค.-ตำรวจแถลงความพร้อมรับมือชุมนุมวันนี้ นำตำรวจที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วมาปฏิบัติหน้าที่ พร้อมแนะประชาชนหลีกเลี่ยงถนนราชดำเนินทั้งเส้น

พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย, พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงการเตรียมความพร้อมรับมือและดูแลความปลอดภัยผู้ชุมนุมแนวร่วมกลุ่มราษฎรหลายกลุ่ม ที่รวมตัวกันในเวลา 14.00 น. วันนี้ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาล


พล.ต.ต.ปิยะ เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังน่าเป็นห่วง มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งกรุงเทพมหานครถูกประกาศให้เป็นพื้นที่คุมเข้มสูงสุด การจัดกิจกรรมชุมนุมนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังทำให้เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดด้วย จึงขอเตือนผู้ชักชวน และผู้ชุมนุมจะมีความผิด

ส่วนกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนนั้น จัดมีการจัดกำลังให้เพียงพอ โดยนำตำรวจที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วมาปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งมีการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อก่อนปฏิบัติหน้าที่ และให้หมั่นใช้แอลกอฮอล์ล้างมือตลอดเวลา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดที่ต้องอยู่กับผู่ชุมนุม ตอนนี้ประเทศบอบช้ำมากพอแล้ว จึงวิงวอนผู้ชุมนุมอย่ามาทำให้เกิดความเสี่ยง ซ้ำเติมกันอีกเลย


อย่างไรก็ตาม จากการชุมนุมในกรุงเทพมหานครตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมไปแล้วกว่า 100 คน

ขณะที่พล.ต.ต.จิรสันต์ ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางถนนราชดำเนินทั้งเส้น, ถนนนครสวรรค์, ถนนพิษณุโลก, ถนนพระราม 5 และสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ไปใช้เส้นทางอื่นแทน โดยประชาชนสามารถสอบถามเส้นทางได้ที่ สายด่วน 1197, เว็ปไซต์ trafficpolice และเพจเฟสบุ๊คตำรวจจราจร

ด้านพันตำรวจเอกกฤษณะ เปิดเผยว่า การชุมนุมที่หน้ากระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีตำรวจได้รับบาดเจ็บ ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ 2 คน มีการออกหมายจับแล้ว 3 คน และยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับอีกกว่า 10 ราย ในความผิดข้อหา ฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน , ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน , มั่วสุมชุมนุมเกินกว่า 5 คนขึ้นไป และร่วมกันก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง


ส่วนการชุมนุมคู่ขนานในต่างจังหวัดกาอนหน้านี้ เช่น จังหวัดขอนแก่น และเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี อยู่ระหว่างตรวจสอบเพื่อดำเนินคดีเช่นกัน

ส่วนการโพสต์ข้อมูลเท็จ หรือบิดเบือนข้อมูลและภาพผู้เสียชีวิตโควิด-19 ที่เป็นของต่างประเทศว่าเกิดขึ้นประเทศไทยนั้น ตำรวจรู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

พายุลูกเห็บถล่มโคราช

โคราชอ่วม พายุลูกเห็บพัดถล่มรุนแรง “พิมาย-ประทาย” กองน้ำแข็งขาวโพลน ต้นไม้โค่นล้มหลายจุด ชาวบ้านบอกไม่เคยเจอพายุลูกเห็บหนักขนาดนี้มาก่อน

ล่าโจรชิงทอง 30 เส้น กลางห้างฯ อุดรธานี

อุกอาจกลางห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี คนร้ายสวมเสื้อไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อก ควงปืนปลอมบุกเดี่ยวจี้ชิงทองคำภายในร้านทอง ได้ไปถึง 30 เส้น ตำรวจเร่งตามล่าตัว

หนุ่มจีนฆ่าโหดคู่ขา อ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ”

หนุ่มจีนยอมรับฆ่าสาว LGBTQ+ เพราะถูกปฏิเสธร่วมหลับนอน และถูกถีบตกเตียง จึงโมโหแล้วบีบคอจนสิ้นใจตายคามือ ก่อนอ้าง “อยากเล่นและแกล้งศพ” เลยใช้กรรไกรกรีดหน้าอก ตัดหัวใจ คว้านซิลิโคน ออกมาไว้ข้างนอก ส่วนปอดที่หายไป ยืนยันไม่ได้แตะต้อง

เกิดเหตุระเบิดที่ท่าเรือในอิหร่าน-เสียชีวิตแล้ว 18 ราย

สื่อของทางการอิหร่านรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดรุนแรง ที่อาจจะมีสาเหตุมาจากการระเบิดของวัสดุเคมี ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 700 ราย โดยเหตุระเบิดเกิดขึ้นในวันเสาร์ ตามเวลาท้องถิ่น ที่ท่าเรือบันดาร์ อับบาส ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน