การข่าว”ม็อบ18กรกฎา”ยังไร้รุนแรง

กทม. 16 ก.ค.- โฆษก บช.น.ยันการข่าว ม็อบ18กรกฎา ยังไร้รุนแรง จัดกำลังรับมือเต็มที่ -​เอาผิดแล้วกว่า99 คน เตือนปชช.ทำผิดกม.เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19


พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.พร้อม พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ โฆษก ตร.แถลงการเตรียมพร้อมรับมือการชุมนุมของกลุ่มราษฎร, กลุ่มเยาชนปลดแอก(Free Youth)และกลุ่มภาคีเครือข่ายแนวร่วมต่างๆนัดชุมนุมทำกิจกรรมปราศรัยทางการเมือง วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม เวลา 14.00น.ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และจะเดินขบวนไปหน้าทำเนียบรัฐบาลว่า การชุมนุมต่างๆในช่วงนี้ไม่สามารถทำได้เพราะจะมีความผิดตามกฎหมายโดยเฉพาะกรุงเทพมหาคร ซึ่งมีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ห้ามนัดหมายชุมนุมรวมกลุ่มกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทุกรายโดยไม่มีการละเว้นใดๆทั้งสิ้น แต่อย่างไรก็ดีการข่าวในขณะนี้ยังไม่มีการเตรียมก่อเหตุความรุนแรงเกิดขึ้น แต่ตำรวจไม่ประมาทและมีการประเมินสถานการณ์ตลอดจนจัดเตรียมกำลังไว้พร้อมแล้ว ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมจะเป็นจำนวนมากเหมือนที่แกนนำประกาศหรือไม่ ตำรวจมีการประเมินอยู่แล้วแต่ไม่อยากให้ประชาชนออกมาชุมนุมในช่วงนี้ เพราะเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 และอาจจะถูกดำเนินคดี

โฆษก บช.น.กล่าวว่า สำหรับการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.-11 ก.ค.64ของกลุ่มต่างๆ อาทิ กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมนำโดยนายพริษฐ์ ชิวารักษ์, กลุ่มไทยไม่ทน นำโดยนายจตุพร พรหมพันธ์, กลุ่มนายสมบัติ บุญงามอนงค์ จัดกิจกรรม CarMob ตลอดจนกลุ่มBangkok Sandbox ตำรวจสามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลและดำเนินคดีได้แล้วรวม 99 คน ในความผิดต่างๆรวม 10 คดี ที่เหลืออยู่ระหว่างการรวมรวบพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา


ด้าน พล.ต.ต.จิระสันต์ กล่าวว่า ทราบว่าวันที่ 18 ก.ค.นี้ คาดว่ามีประชาชนต้องเดินทางไปตรวจคัดกรองโควิด-19 เชิงรุกและฉีดวัคซีนหลายพื้นที่ ซึ่งการชุมนุมอาจส่งผลกระทบการจราจร รวม 12 เส้นทาง โดยเฉพาะถนนราชดำเนินทั้งเส้น, ถ.ตะนาว, ถ.ดินสอ ถ.ลูกหลวง, ถ.นครราชสีมา และสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯจึงแนะนำประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางในเวลาที่มีการนัดหมายชุมนุมดังกล่าว

สำหรับผลการปฏิบัติจุดตรวจเคอร์ฟิว บช.น. ประจำวันที่ 15 ก.ค.64 เวลา 21.00 น. ถึง วันที่ 16 ก.ค.64 เวลา 04.00 น.เรียกตรวจยานหาพนะ จำนวน 1,454 คัน เพิ่มขึ้น 124 คัน การเรียกตรวจบุคคล จำนวน 1,918 คน เพิ่มขึ้น 127 คน ดำเนินการกับผู้ต้องหาฝ่าฝืนข้อกำหนดออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในจุดตรวจ จำนวน 16 ราย นอกจุดตรวจ จำนวน 3 ราย รวมจำนวน 19 ราย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

5ตัวประกันถึงไทย

5 ตัวประกันถึงไทยแล้ว ปล่อยโฮโผกอดครอบครัว

5 ตัวประกันถึงไทยแล้ว ปล่อยโฮโผเข้ากอดครอบครัวด้วยความดีใจ “ทูตอิสราเอล” ก็มาส่งด้วย น้ำตาคลอคุยครอบครัวตัวประกัน “มาริษ” สัญญาจะนำอีก 1 คน และ 2 ร่างผู้เสียชีวิตที่เหลือกลับมาให้ได้ ด้าน 1 ในตัวประกัน พูดไม่ออก ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทำให้ได้กลับแผ่นดินแม่

ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-3 องศาฯ อีสานอากาศเย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ กับมีลมแรง อีสานอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคเหนือ กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็นตอนเช้า ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่