กทม. 12 ก.ค.- โฆษก บชน.เผย การชุมนุมช่วงสุดสัปดาห์ผิดกฎหมาย 5 ฉบับ มีผู้เข้าข่ายถูกดำเนินคดี 70 ราย
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. แถลงสรุปภาพรวมการชุมุนุมของกลุ่มต่างๆตั้งแต่วันที่ 9-11 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.มีกลุ่มอาชีวะปกป้องประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมหน้าทำเนียบ, วันที่ 10 ก.ค. ชุมนุม 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มประชาชนคนไทย กลุ่มคนไทยไม่ทน ร่วมกับกลุ่มคาร์ม็อบ และวันที่ 11 ก.ค. กลุ่มคนไทยไม่ทนชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล
ซึ่งทั้ง 3 กลุ่ม ถือว่าการกระทำผิดกฎหมายหลายฉบับประกอบด้วย 1.ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 252.การจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค มีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ 3.ตั้งวาง หรือกองวัตถุใดๆ บนพื้นถนน เป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.รักษาความ สะอาดฯ 4.กีดขวางการจราจร ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ 5.ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่อง ขยายเสียงฯ
ส่วนการนัดหมายชุมนุมเชิญชวนผ่านโซเซี่ยลมีเดียให้ข้อมูลเป็นเท็จ ล่าสุด สอท. มีการดำเนินคดีแล้ว ขณะที่ บช.น. มีการเรียกพนักงานสอบสวนมาประชุมดำเนินคดีอย่างรวดเร็วขณะนี้มีผู้เข้าข่ายถูกดำเนินคดีแล้ว 70 ราย
ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษก ตร. กล่าวว่า การชุมนุมนับตั้งแต่กลางปีที่แล้ว มีการเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงแกนนำมาแล้วหลายคดี ขณะที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ผบ.ตร.มีความเป็นห่วง ช่วงแพร่ระบาดของเชื้อโควิด- 19 การบังคับใช้กฎหมายจึงมีความสำคัญ แต่จะไม่ซ้ำเติมประชาชน แต่หากมีการฝ่าฝืนเกี่ยวกับการชุมนุมจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังในภายหลัง อย่างไรก็ตาม ผู้ยุยงแลุกปั่นไม่ว่าจะอยู่ในต่างประเทศทั้งที่ถูกดำเนินคดีและไม่ถูกดำเนินคดี อยากให้ตั้งสติในการกระทำดังกล่าว การชุมนุมไม่สามารถชุมนุมได้ อยากให้ปฏิบัติตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย