กทม. 9 ก.ค.- ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาก่อคดีสำคัญ โดยเฉพาะการลักลอบขนแรงงานเข้าประเทศ
พลตำรวจโทสมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงจับกุม 4 คดีสำคัญ
คดีแรก พนักงานสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 จับกุมนายยาว อายุ 44 ปี สัญชาติกัมพูชา ซึ่งเป็นผู้นำพาแรงงานหลบหนีเข้าเมืองรายใหญ่ ในฐานความผิด ร่วมกันนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทำด้วยวิธีการใดๆอันเป็นอุปการะช่วยเหลือฯ ได้ในกรุงเทพมหานคร หลังขยายผลการจับกุมคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านช่องทางธรรมชาติ ท้ายหมู่บ้านแก้วเพชรพลอย อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว จำนวน 25 คนและมีคนไทย 3 คน ที่ให้การซักทอด ถึงนายยาว ว่าเป็นผู้ติดต่อนายหน้าที่กัมพูชา จากการสอบปากคำนายยาว รับสารภาพ มีหน้าที่จัดหาชาวกัมพูชามาเป็นแรงงงาน ยอมรับทำมาแล้ว 2-3 ครั้ง ได้ค่าตอบแทนหัวละ 5,000-7,000 บาท โดยแต่ละครั้งก็จะนัดหมายกับพวกที่ถูกจับ โดยตนจะนำรถส่วนตัวมารับแรงงาน ใช้เส้นกบินทร์บุรี หลบการตรวจ มุ่งหน้ามายังพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ส่งให้นายจ้างที่ต้องการแรงงาน เพื่อทำงานก่อสร้าง
คดีที่ 2 ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดกาญจนบุรี จับขบวนการลักลอบขนคนเข้าเมือง 3 ขบวนการ ประกอบด้วย ลักลอบขนแรงงานต่างด้าว ออกจากหมู่บ้านบ่อญี่ปุ่น ประเทศเมียนมา ใกล้ชายแดนไทย อำเภอสังขละบุรี ผ่านช่องทางธรรมชาติ สามารถจับกุมรถยนต์กระบะได้ 2 คัน ในเวลาใกล้เคียงกัน ขณะขนแรงงานจำนวน 29 คน เมื่อตรวจสอบทั้งหมดพบไม่มีเอกสารเดินทาง ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่วน 2 ผู้ต้องหาชาวไทย ทำหน้าที่ขับรถ แจ้งข้อกล่าวหา “ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น และช่วยประการใดๆให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม”จากการสอบปากคำ รับสารภาพว่าได้รับค่าจ้าง 10,000 บาทต่อครั้ง ปลายทางอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาครและกรุงเทพมหานคร / ส่วนขบวนการที่ 3 จับกุมนาย Thant อายุ 43 ปี สัญชาติเมียนมา เป็นผู้ขับรถเก๋งแบบแวน ภายในบรรทุกแรงงาน 9 คน ไม่มีเอกสารเดินทาง ซึ่งนายแทรน ได้ค่าจ้างหัวละ 1,000 บาท
คดีที่ 3 ตำรวจ ตม.จังหวัดสมุทรปราการ จับแก๊งชาวจีนและเวียดนาม รวม 8 คน โดยมีชาวจีน 7 คน เวียดนาม 1 คน พร้อมนายหน้าคนไทย 1 คน / โดยมีพฤติการณ์ มีนายสมบุญ ชาวไทยเป็นนายหน้า ทำหน้าที่ขับรถ หรือ ขับรถนำ ส่วนผู้ต้องหาเหล่านี้ ลักลอบเข้ามาจากทางอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เดินทางเข้ามาที่อำเภอราชาเทวะ จังหวัดสมุทรปราการและพื้นที่กรุงเทพมหานครบางส่วน ซึ่งจากการตรวจสอบ ไม่มีเอกสารเดินทาง จึงแจ้งข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายสมบุญ ข้อหา ซ่อนเร้นและช่วยเหลือฯ นายสมบุญ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าได้รับจ้างครั้งละ 10,000 บาท หากเป็นรถนำ จะได้ 7,000 บาท ถ้านำแรงงานต่างด้าวมาส่งได้ จะได้เพิ่มอีก 3,500 ต่อคน
คดีที่ 4 หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่เมืองพัทยา และตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง ว่ามีขบวนการผ่อนชำระสินค้าในอัตราดอกเบี้ยสูง ตำรวจตม.จังหวัดชลบุรี ลงพื้นที่สืบสวนทราบว่า นายราม สัญชาติอินเดีย พร้อมพวกอีก 3 คน เป็นรายใหญ่ มีพฤติการณ์ขายสินค้าลักษณะเงินผ่อนรายวัน อาทิ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น เป็นต้น ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20-30 ต่อเดือน นอกจากนี้พบว่า ผู้ต้องหา 3 คน เป็นบุคคลโอเวอร์สเตย์เป็นระยะเวลานาน (นานสุด 1,023 วัน) โดยมีหลักฐานที่ยืนยันความผิดจำนวนมาก มีผู้เสียหายกว่า 40 คน นอกจากนี้ยังมีหลักฐานเชื่อมโยงถึงขบวนการเงินกู้นอกระบบอื่นๆอีก ซึ่งจะมีการขยายผลต่อไป .-สำนักข่าวไทย