กรุงเทพฯ 2 ก.ค.- ในยุคเดือดร้อนแบบนี้ แม้แต่ต้นไม้ยังโดนขโมย แต่ไม่รอดถูกตำรวจจับกุมได้คาหนังคาเขา ขณะกำลังง่วนขนต้นไม้ออกจากร้าน
ภาพจากกล้องวงจรปิด เมื่อประมาณ 05.00 น. ชายวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์มาจอดริมถนนประเสริฐมนูกิจ เขตจตุจักร ก่อนลงจากรถมาดูลาดเลา เมื่อสบโอกาสได้มุดผ้าที่ปิดไว้เข้าไปภายในร้าน plant AHOLIC ซึ่งขายต้นไม้ ปรากฏว่าเจ้าของร้านได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ สน.พหลโยธิน เข้าจับกุมตัวได้ในเวลา 8 นาที หลังก่อเหตุขณะคนร้ายกำลังง่วนอยู่กับการขนต้นไม้ออกจากร้าน จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่าช่วงนี้ตกงานไม่มีรายได้ จึงเข้ามาขโมยต้นไม้เพื่อเอาไปขายต่อ ทำมาหลายครั้งแล้ว ไม่คิดว่าจะโดนจับ เพราะจะเข้าขโมยเฉพาะช่วงกลางคืน สำหรับผู้เสียหายที่เคยถูกขโมยต้นไม้สามารถตรวจสอบและร้องทุกข์เพิ่มเติมได้ที่ สน.พหลโยธิน
อีกรายที่จังหวัดอ่างทอง ปรากฏว่าเกิดเหตุการณ์ขโมยต้นไม้ขึ้นหลายรายโดยจะเลือกเฉพาะไม้ด่าง หลังเกิดปรากฏการณ์ไม้ใบด่างมาแรง ขายได้ราคาเรือนแสนถึงหลักล้านบาท ล่าสุดคนร้ายขโมยต้นบอนกระดาษด่างฮาล์ฟ มูลค่าหลายหมื่นบาท ที่นำมาตั้งตากแดดไว้ข้างคลินิกทันตกรรมฟันวิเศษ 2 ถ.โพธิ์พระยา-ท่าเรือ ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง ไปอย่างไร้ร่องรอย เมื่อคืนวันที่ 29 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา จนทันตแพทย์หญิงสุนีย์พร กุญชวน เจ้าของต้องออกมาโพสต์ตามหาในโซเชียล ขอให้ช่วยแชร์และตั้งรางวัลนำจับ 10,000 บาท ให้กับผู้ที่ชี้บาะแส โดยบอกว่าต้นบอนกระดาษด่างต้นนี้ เป็นไม้ด่างที่มีราคาแพง เพราะเป็นต้นที่ด่างแบบฮาล์ฟ มีสีเขียวครึ่งใบ ขาวครึ่งใบ ซึ่งตนเองนำออกมาผึ่งแดดหลังต้นเน่า โดยนำมาตั้งไว้ด้านข้างร้านแล้วลืมเก็บเข้าไปในร้าน พอรุ่งเช้าก็พบว่าต้นไม้หายไปแล้ว จึงรีบนำภาพที่เคยถ่ายไว้ไปโพสต์เพื่อตามหาโดยตนเองอยากได้คืนเพราะเป็นต้นไม้ที่รักมาก
ซึ่งเมื่อวานก็มีเหตุการณ์ขโมยต้นเศรษฐีวิลสันด่าง ราคาต้นละ 20,000 บาท ไป 2 ต้น สำหรับแก๊งขโมยต้นไม้ในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง จะออกตะเวนขโมยไม้ประดับที่มีราคา และเป็นที่ต้องการของตลาด จะเลือกเฉพาะต้นที่มีราคาสูง เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มที่รู้จักมูลค่าของต้นไม้เป็นอย่างดี.-สำนักข่าวไทย